เลือกตั้งเสร็จมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว คำถามยอดฮิต ตอนนี้ก็คือ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่เสียที ซึ่งจะว่าไปแล้ว ตามกระบวนการ การจัดตั้งรัฐบาลบ้านเรา คงไม่เร็ว ไม่ง่าย ขนาดนั้น เพราะตอนนี้เอาเข้าจริงๆ การรับรอง ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ก็ยังไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ เพราะหากขั้นตอนนี้ยังไม่เรียบร้อย ก็ยังไม่สามารถเปิดสภาฯ และจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตอนนี้จะมีการคาดการณ์ไปต่างๆ นาๆ หลากหลายสูตร แม้ว่าล่าสุด 8 พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคก้าวไกล และ ว่าที่นายกรัฐมนตรี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้แล้วก็ตาม
ประเทศไทย น่าจะเป็นประเทศที่กระบวนการในการตั้งรัฐบาลช้ามากจริงๆ เพราะบางประเทศ ไม่เกิน 1 เดือนรัฐบาลใหม่เขาเข้าบริหารประเทศกันไปแล้ว แต่บ้านเราต้องรอไปถึงเดือนสิงหาคม เผลอๆ อาจจะนานกว่านั้น หากบังเอิญเกิดคดีความต่างๆ ตามมาหลังจากนี้ หรือกรณี สส. มีใบเหลือง ใบแดง ขึ้นมาอีก ซึ่งนั่นเท่ากับว่า มันจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง ที่รัฐบาลรักษาการณ์ต้องบริหารประเทศไปเรื่อยๆ ในขณะที่การออกกฎหมาย การอนุมัติโครงการ หรืองบประมาณต่างๆ ไม่สามารถทำได้ เกิดเกียร์ว่างในการทำงาน แบบที่เราๆ ท่านๆ ก็ทราบกันดี ... แล้วประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าได้
เพราะฉะนั้นตอนนี้แกนนำรัฐบาลจะเป็นก้าวไกล ที่ได้เสียงข้างมาก หรือเพื่อไทย ที่อาจพลิกมาเป็นแกนนำแทนหรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ ว่าที่นายกฯ หรือพรรคก้าวไกล เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้กับการเมืองไทยนั้น คงไม่สำคัญเท่ากับว่า เราจะได้รัฐบาลใหม่กันเมื่อไหร่ ภายในเดือนสิงหาคมหรือเปล่า หรือจะล่าช้าออกไปเดือนกันยายน
อย่าลืมว่า ยิ่งช้า ประเทศก็เดินหน้าเต็มที่ไม่ได้ การลงทุนต่างๆ ก็อาจจะชะงัก เพราะนักลงทุนก็ต้องรอความชัดเจนของรัฐบาลใหม่ก่อน เอาแบบใกล้ตัวตอนนี้ก็เห็นภาพสะท้อนได้จากตลาดหุ้นบ้านเรานี่แหละ เพราะตราบใดที่ยังไม่ชัด หุ้นก็จะผันผวน รวนเร สามวันดีสี่วันไข้ อยู่เช่นนี้
ด้วยความเคารพ และหวังดีต่อประเทศชาติ บ้านเมืองของเรา หวังเหลือเกินว่า เราควรจะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศไม่เกินสิงหาคม และก็หวังว่าทุกๆ ฝ่ายจะเห็นแก่ชาติบ้านเมืองเป็นหลัก
