นโยบายก้าวไกล ไม่ถูกใจตลาดหุ้น ??

2 สัปดาห์ผ่านไปแล้ว สำหรับการเลือกตั้งทั่วไป แต่ทรงตลาดหุ้นบ้านเราก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผันผวนในช่วงขาลงเกือบจะทุกวัน แถมสัปดาห์นี้ยิ่งการเมือง ยังหาข้อสรุปลงตัวไม่ได้ซักที แม้จะมีการเซ็น MOU ระหว่าง 8 พรรคร่วมรัฐบาลไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. แล้วก็ตาม แต่กลับกลายเป็นยิ่งเซ็น ยิ่งวุ่นวาย เพราะตอนนี้ แกนนำพรรคร่วมทั้งก้าวไกล และเพื่อไทย กำลังออกซัดกันนัวเนีย

                             
โดยเฉพาะประเด็นประธานสภาจะมาจากพรรคไหน ที่ยิ่งสร้างความอึมครึมให้กับการเมืองว่าตกลงจะไปทางไหน ประเทศไทยจะได้นายกฯ ทันตามกำหนดในเดือนสิงหาคมหรือไม่  หรือแม้แต่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ได้จริงหรือเปล่า เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ จะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ล้วนแต่กดดัน SET Index  ในช่วงนี้แทบทั้งสิ้น 

                              
เท่านั้นยังไม่พอ อีกหนึ่งปัจจัยหลักก็คือ นโยบายของพรรคก้าวไกล ที่ดูเหมือนจะสร้างความกังวลอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ตั้งแต่การลดค่าไฟ ที่ฉุดราคาหุ้นกลุ่มนี้ตั้งแต่วันแรกที่รู้ผลการเลือกตั้ง แต่นอกจากเรื่องค่าไฟแล้วนโยบายขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาท ภายใน 100 วัน หลังจากได้เป็นรัฐบาล ก็มาแรงแซงทางโค้ง เพราะเป็นนโยบายที่กระทบหนักทุกกลุ่มอุตสาหกรรม จนทำให้ พิธา ต้องลงทุนไปประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรม ทั้งที่ยังไม่ได้รับตำแหน่งนายกฯ เลยด้วยซ้ำไป 

                               
เพราะหากรัฐบาลก้าวไกลขึ้นค่าแรงตามนโยบายพรรคฯ จริงๆ ก็รับรองว่าจะกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม ทันที เพราะค่าแรงถือเป็นต้นทุนหลัก เท่านั้นยังไม่พอ ก้าวไกลยังมีเรื่องปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลอีก ซึ่งล่าสุด บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมินออกมาค่อนข้างชัดเจนว่า การขึ้นภาษีทุนใหญ่จาก 20% เป็น 23% ในช่วงกำไรเกิน 300 ล้านบาท ของพรรคก้าวไกล จะกระทบกำไรสุทธิหุ้นใหญ่ใน SET50  เบื้องต้นประมาณ 3.5-3.7%  เรียกว่ากำไรยิ่งมาก ก็ยิ่งกระทบ 

                              
นอกจากนี้ยังมีประเด็น ปรับโครงสร้างพลังงาน เรื่องสัมปทานก๊าซธรรมชาติ ที่ล่าสุดส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่ม PTT เต็มๆ  โดยเฉพาะหุ้นปิโตรเคมีอย่าง  PTTGC 

ดังนั้นทั้งหมด ทั้งปวงนี้ ที่ส่วนหนึ่ง Sentiment ตลาดยังไม่ดีซักที นอกจากเรื่องความไม่ชัดเจนเรื่องการเมืองแล้ว ก็นโยบายพรรคก้าวไกล ที่สร้างความกังวลให้กับตลาด หรือจะเรียกว่าไม่ถูกใจตลาดฯ ก็ไม่ผิด ซึ่งหลังจากนี้ เราคงต้องเกาะติดประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลกันทุกวัน เรียกได้ว่าอาจจะแทบทุกความเคลื่อนไหวจากนี้ 

                             
อย่าลืมว่า กกต. ยังไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมด แม้จะรับรองเบื้องต้นไปแล้วก็ตาม รวมไปถึงอีกสารพัด สารพัน การต่อรองของก้าวไกล และเพื่อไทย ที่ควรจะมีจุดลงตัว ก่อนที่การจัดตั้งรัฐบาลจะมีอุปสรรค หรือติดขัดไปมากกว่านี้

 เอาจริงนะ อยากมีรัฐบาลใหม่เร็วๆ เพราะประเทศจะได้เดินหน้าเร็วๆ เพราะอยู่ในช่วงสุญญากาศนานๆ มันไม่มีอะไรดีเลย