หุ้นไทยยังก้าวไม่ไกล เพราะรอรัฐบาลก้าวไกลชัดเจน
ดูเหมือนชัยชนะของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา จะไม่ค่อยถูกใจตลาดหุ้นบ้านเราซักเท่าไหร่ เพราะหลังจบเลือกตั้ง ตลาดหุ้นบ้านเราหนักไปทางขาลงมากกว่า เพราะลงไปแล้วมากกว่า 50 จุด แถมเมื่อดูยอดขายสุทธิของต่างชาติที่ขายไปแล้วเกือบหมื่นล้านบาท จึงค่อนข้างชัดเจนว่าตลาดมีแรงขายมากกว่าซื้อ
โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่าง GULF ที่โดนเทขายหนัก จนไปทำนิวโลว์ในรอบ 9 เดือน สวนทางกับกำไรไตรมาสแรกที่เติบโต 13% เพราะนักลงทุนกังวลเรื่องนโยบายรัฐบาลพรรคก้าวไกลที่ต้องการลดค่าไฟฟ้าลง รวมถึงการปรับโครงสร้าง หรือยกเครื่องรูปแบบการซื้อไฟฟ้าของภาครัฐใหม่หมด จนทำเกิดความตลาดเป็นห่วงเกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าในอนาคต ซึ่ง GULF โดนไปเต็มๆ ขณะที่หุ้นโรงไฟฟ้าตัวอื่นๆ อย่าง BGRIM ก็ถูกกระทบไปด้วยไม่น้อย รวมไปถึงหุ้นกลุ่ม PTT ที่นักลงทุนคาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากโยบายรัฐบาลก้าวไกลด้วยเช่นกัน
แม้ล่าสุด SET Index จะเริ่มปรับตัวขึ้นหรือรีบาวน์มาได้บ้าง หลังมีความชัดเจนเรื่องการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็แค่วันเดียวเท่านั้น เพราะตลาดฯ ยังมีแนวโน้มลงต่ออีก เป็นเพราะประเด็นการโหวตของ ส.ว. และการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนแสดงความกังวลว่าพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่ราบรื่น นี่ยังไม่รวมเรื่องนโยบายประชานิยมของรัฐบาลใหม่ ว่าจะใช้งบประมาณจากไหนมาดำเนินการ
ฉะนั้นเมื่อเราดูธรรมชาติของตลาดหุ้นที่ความชัดเจนต้องมาก่อน จึงยากที่จะเห็น SET Index ช่วงนี้เป็นสีเขียว เพราะตลาดฯ ไม่ชอบความคลุมเครือ ส่วนประเด็นที่ว่าตลาดฯ ไม่ตอบรับรัฐบาลใหม่นั้น เชื่อว่าเมื่อการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น เช่นการเซ็น MOU ระหว่าง 8 พรรคการเมือง ในวันที่ 22 พ.ค. นี้เสร็จเรียบร้อย ก็อาจจะกลับมาเป็น Sentiment เชิงบวกได้ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ก็คือแนวโน้มความสำเร็จของรัฐบาลก้าวไกล และ พิธา ที่น่าจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 ชัดเจนแล้ว
อย่าลืมว่าตอนนี้ อุบัติเหตุทางการเมืองใช่ว่าจะเกิดไม่ได้ เพราะพรรคก้าวไกล ยังต้องฝ่าด่าน ทั้งกกต. และส.ว. หาก 2 ด่านไร้อุปสรรค เมื่อนั้นรับประกันตลาดหุ้นไทยไปไกลกว่านี้แน่นอน