efinancethai

บทบรรณาธิการ

โดย
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน

: กองบรรณาธิการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

[email protected]

ยังไม่วิกฤต ... ก็จะให้วิกฤต

ยังไม่วิกฤต ... ก็จะให้วิกฤต

เศรษฐกิจไทยวิกฤตแล้วหรือยัง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สร้างความคลางแคลงใจในช่วงนี้ไม่น้อยว่าตกลงตอนนี้ วิกฤตหรือไม่วิกฤต โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายรัฐบาล กับ ฝั่งธนาคารแห่งประเทศไทย และบรรดาสำนักเศรษฐกิจ ศูนย์วิจัยต่างๆ เห็นต่างกันค่อนข้างชัดเจน จนทำให้เอานักลงทุน รวมทั้งประชาชน เริ่มไม่แน่ใจ เพราะระหว่างที่คนของรัฐบาลออกมาประกาศป่าวๆ  ว่าเศรษฐกิจเริ่มวิกฤตแล้วนะ แต่ทางหน่วยงานเศรษฐกิจอย่างแบงก์ชาติ ก็ยืนยันว่ายังไม่วิกฤตแค่เติบโตช้าเท่านั้น
                      
 เอาจริงๆ ตั้งแต่จำความได้ ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนจะออกมาบอกเศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐกิจวิกฤตแล้ว ยกเว้นแต่ว่า วิกฤตไปแล้วถึงค่อยมาบอก หรือไม่ก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่ายังไม่วิกฤตเอาอะไรมาพูด ... จะมีก็แต่รัฐบาลชุดนี้แหละที่ค่อนข้างชัดเจนเหลือเกิน 


                      
 อีกทั้งในสัปดาห์นี้ ข่าวลือเรืองจีดีพีปี 66 ที่โตต่ำจนน่าใจหายที่ 1.8% ก็ยังทุบตลาดหุ้นดิ่งอีกต่างหาก ขณะที่วันถัดไป สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก็แถลงข่าวคาดการณ์ออกมาตามข่าวลือเป๊ะ ว่าจีดีพีปี66 โต 1.8% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 2.7% 


                        
ทั้งที่ตัวเลขจากแบงก์ชาติและเอกชน ยังเฉลี่ยเติบโตที่ 2.8-3.3% โดยที่ยังมีใครปรับออกมาหั่นเป้าเหมือนฝั่งรัฐบาล เแบบนี้ไม่คิดก็ชวนให้คิดว่า เศรษฐกิจบ้านเราปีนี้มันแย่ขนาดนั้นจริงๆ หรืออย่างไร และก็ชวนให้กังขาเสียเหลือเกินว่า ... เราจำเป็นต้องมีมาตรการดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ ใช่หรือไม่ ไม่งั้นเศรษฐกิจไม่โต เพราะตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตแล้ว 


                      
 ที่เขียนแบบนี้ ไม่ได้หมายความเราไม่อยากให้มีมาตรการนี้ เพียงแต่การประกาศปาวๆ ว่าเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ดีแล้ว วิกฤตแล้ว ทั้งที่จริงๆ เศรษฐกิจอาจจะแค่โตช้าเมื่อเทียบกับที่อื่นมากกว่า แล้วรัฐบาลก็อาจจะหามาตรการอื่นๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจแทนที่จะออก พ.ร.บ.เงินกู้ ให้มาเป็นภาระหนี้ของประเทศ และประชาชนในอนาคต 


                        
ไม่เถียงเลยว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจประเทศจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น โดยการออกมาตรการมาช่วย แต่ควรจะเป็นมาตรการที่ช่วยฟื้นและกระตุ้นในระยะยาว มากกว่าทุ่มเงินมหาศาล แล้วกระตุ้นได้ไม่นาน รวมไปถึงการเชิญชวนเอกชน หรือบริษัทระดับโลกมาลงทุน และดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาเสริม 

 

ถึงแม้ไม่มีดิจิทัล วอลเล็ต ก็ได้ไม่เสียหน้า ประชาชนคงเข้าใจ คะแนนเสียงอาจหายบ้าง แต่ถ้าช่วงเวลาที่เหลือรัฐบาลบริหารประเทศได้ดี และมีโครงการอื่นมาชดเชยได้ เศรษฐกิจประเทศเฟื่องฟู ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องกังวล ดีกว่าทำแล้วโครงการมีปัญหาตามมา 

 

และที่แน่ๆ ออกไปชวนฝรั่งมาลงทุนเมืองไทย บอกว่าประเทศไทยดีอย่างโน่น ดีอย่างนี้ แต่ในทางกลับกันบอกคนในประเทศว่า เศรษฐกิจมันวิกฤต .. แล้วแบบนี้จะไปเชิญเขามาลงทุน ใครจะอยากมาลงทุน  มันดูย้อนแย้ง
 







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh