การเมืองไม่นิ่ง ... ตลาดหุ้นก็วิ่งไม่ไหว
ตลาดหุ้นบ้านเราปีนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน แทบไม่อยากนึกภาพกันเลย เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็ขึ้นๆลงๆ แกว่งตัว ผันผวน ค่อนไปทางขาลงด้วยซ้ำ จนตอนนี้ผ่านมาแล้ว 2 ไตรมาส เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว SET Index ก็ยังไม่ขยับหนี 1,400 จุดซะที ลุ้นแล้วลุ้นอีก ก็แค่เฉียดไปเฉียดมา
หลายคนตั้งข้อสังเกตุว่า ปัจจัยหนึ่งที่ตลาดหุ้นไปไม่ถึงไหนซักที ก็น่าจะเป็นเรื่องการเมืองภายใน ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่นิ่งเสียที แม้จะมีรัฐบาลใหม่มาเกือบปี แต่ก็ยังหาความลงตัวไม่ได้ ปรับครม. ไปแล้ว 2 ครั้งไม่พอ ยังมีประเด็นสารพัดการฟ้องร้องตามมาเป็นหางว่าว ตั้งแต่คดีที่ สว. ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี แม้ล่าสุดจะไม่ได้สั่งพักการปฏิบัตหน้าที่ก็ตาม โดยเปิดให้แก้ต่างภายใน 15 วัน
หรือล่าสุดก็คดี อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องอดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" คดีมาตรา 112 โดยจะยื่นฟ้องต่อศาล ในวันที่ 18 มิ.ย.2567 ซึ่งล้วนแต่เป็นคดีที่ต้องรอลุ้น และส่งผลต่อ Sentiment ตลาดแทบทั้งหมด เพราะนั่นเป็นการสะท้อนถึงความแน่นอนทางการเมืองไทย ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
บล.เอเซียพลัส วิเคราะห์ไว้น่าสนใจ ถึงประเด็นการเมืองช่วงต่อจากนี้ โดยระบุว่า ทั้งประเด็น 40 สว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนายกฯเศรษฐา แต่งตั้ง คุณพิชิต เป็น รัฐมนตรี รวมถึงประเด็นอัยการสูงสุดส่งคำสั่งฟ้องคดีที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมือง และเกิดความกังวลต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปอีกระยะ จนกว่าจะเห็นความชัดเจน
โดย เอเซียพลัส ประเมินว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองเคยพีคๆ ในช่วงหลังเลือกตั้งปี 2566 ช่วงนั้น SET INDEX ย่อตัวจากบริเวณใกล้ๆ 1580 จุด ลงมาเหลือ 1460 จุด แต่ปัจจุบัน SET INDEX อยู่บริเวณ 1349 จุด ต่ำกว่าช่วงนั้นมาก แม้ในระยะสั้นอาจสร้างจิตวิทยาเชิงลบต่อนักลงทุน กดดันสภาพคล่องตลาดลดลง ผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้ยากในช่วงนี้
ในมุม VALUATION ที่ SET INDEX บริเวณต่ำกว่า 1350 จุดยังถือว่าถูก โดยมี P/E เพียง 14 เท่ากว่าๆ เท่านั้น ต่ำกว่า P/E ตลาดหุ้นโลกที่ 18 เท่า หากประเด็นต่างๆผ่อนคลาย อาจจะเป็นจังหวะในการหาหุ้นเข้าสะสมเพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาวได้
อย่างไรก็ดี การเมืองยังมีเรื่องให้ลุ้นกันอีก นอกจาก 2 กรณีดังกล่าว ก็ยังมีเรื่องการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณี "พรรคก้าวไกล" มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าข่าย เป็นเหตุยุบพรรคหรือไม่
รวมไปถึงกรณีเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามไม่ให้ หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ 10 ปี อีกด้วย ซึ่งล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญให้ ก้าวไกล ต้องชี้แจงภายในวันที่ 2 มิ.ย.นี้
ซึ่งกรณียุบพรรคก้าวไกล น่าจะถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ทางการเมืองที่น่าจับตามองมากที่สุด และอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทางการเมืองหรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้จะมีหลากหลายความคิดเห็น และการคาดเดาออกมาบ้างแล้วก็ตาม
ดังนั้นตราบใดที่ปัญหาการเมืองไทย ยังไม่นิ่ง หรือมีเสถียรภาพมากพอ ก็อาจจะยากที่ SET Index จะวิ่งไปได้ไกล อย่างที่ใจหวัง เพราะหากการเมืองไม่แน่นอน นักลงทุนที่ไหนจะมั่นใจเข้ามาลงทุน หนำซ้ำเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยังก็ไม่อยู่ในภาวะที่ฟื้นตัวได้ดีพออีกต่างหาก
สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านไป ปัจจัยลบยังตามรุมเร้า ความเชื่อมั่นจึงยังไม่กลับมา เพราะฉนั้นอีก 6 เดือนที่เหลือจากนี้ ก็หวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้นมาได้บ้าง ทั้งปัจจัยการเมืองที่ควรจะคลี่คลาย เศรษฐกิจที่น่าจะเริ่มดีขึ้น และแน่นอน SET Index ที่ควรจะทะลุ 1,400 จุด เสียที