efinancethai

บทบรรณาธิการ

โดย
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน

: กองบรรณาธิการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

[email protected]

ลุ้นตลาดหุ้น “แพทองธาร” แรลลี่ไกลแค่ไหน ?

ลุ้นตลาดหุ้น “แพทองธาร” แรลลี่ไกลแค่ไหน ?

 

ภายหลังสภาผู้แทนราษฎร มีมติโหวตเลือก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา SET Index บ้านเรายังไม่สามารถผ่านระดับ 1,300 จุด โดยทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,280.99 จุด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม หลังเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน


 

แต่ทันทีที่ประเทศไทยได้นายกฯ คนใหม่ ด้วยเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 2 วัน ตลาดหุ้นก็บวกรับทันทีทันควัน นับตั้งแต่วันโหวตที่ 16-22 สิงหาฯ SET Index บวกไปแล้วกว่า 50 จุดและหกนับรวมที่ 23 ที่กำลังเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ตลาดฯบวกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 60 จุด หรือกว่า 5% ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,350 จุดไปแล้ว


 

ถ้าจะบอกว่าตลาดหุ้นกำลังกลับหัวเข้าสู่ยุคขาขึ้นแล้ว ก็อาจจะยังบอกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะคณะรัฐมนตรีหรือ ครม. ”แพทองธาร1” ยังไม่ได้บริหารประเทศ และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโฉมหน้า ครม.ใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งหากถึงเวลานั้น ตลาดหุ้นยังคงขึ้นต่อเนื่อง เมื่อนั้นเราก็อาจจะบอกได้ว่าหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงขาขึ้นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ


 

ทำไมตลาดถึงตอบรับไวขนาดนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าอย่างน้อย แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ยุติสุญญากาศทางการเมืองได้เร็ว และยิ่งตั้งครม. ได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งลดความกังวลของนักลงทุนเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองได้พอสมควร และแน่นอนมาตรการหรือนโยบายประชานิยม โดยเฉพาะเรือธงอย่าง ดิจิทัลวอลเล็ต จะยังไม่ยกเลิก เพียงแต่อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบในการแจกเงินมาแทน ซี่งโบรกเกอร์อย่าง CGSI ประเมินว่าเดือน ก.ย. จะเป็นเดือนที่เม็ดเงินเริ่มไหลเข้า ขณะที่หลายโบรกฯ ยังมีมุมมองว่า SET Index ปลายปีไม่น่าจะต่ำกว่าระดับ 1,420 จุด


 

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นที่บวกขึ้นมาตอนนี้ อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมองเห็นแนวโน้มที่ดีของประเทศไทย ตราบใดที่โจทย์สุดหินเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษกิจ ยังรอรัฐบาลใหม่ ตลอดจนความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ยังคงมีคลื่นใต้น้ำรบกวนอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่รัฐบาลแพทองธาร จะมองข้ามไม่ได้เลย และแน่นอนว่ากุนซือหลัก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ย่อมรู้ดีที่สุด


 

ส่วนตลาดหุ้นยุคแพทองธาร จะทำนิวไฮ ไปได้ไกลแค่ไหนนั้น เรามาเปรียบเทียบตลาดหุ้นที่มีนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร (พ.ศ. 2544 - 2549) และ ตลาดหุ้นยุค นายกฯยิ่งลักษณ์ (พ.ศ. 2554 - 2557) กัน โดยจุดสูงสุดของ SET Index ยุคทักษิณ เริ่มในปี 2546-2547 โดย SET Index ขึ้นไปแตะระดับประมาณ 800 จุด ซึ่งถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นรัฐบาลทักษิณ ปี 2544 ที่ SET Index ลดลงเหลือประมาณ 250-300 จุดขณะที่ยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดัชนี ทำจุดสูงสุด ในปี 2556 ที่ประมาณ 1,600 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นไทยในขณะนั้น


 

เพราะฉะนั้นเมื่อทั้งพ่อและอา ซึ่งถือว่าดีทั้งคู่ต่อ Sentiment ของตลาดหุ้น หากไม่มีเหตุการณ์รัฐประหารเกิดขึ้นเสียก่อน ตลาดหุ้นสมัย นายกอิ๊งค์ ก็อาจจจะเป็นยุคขวัญใจนักลงทุนไม่แพ้กัน ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนก็คงอยากให้เป็นแบบนั้น และที่สำคัญกว่านั้น ก็คือหวังว่ารัฐบาลชุดนี้ จะบริหารประเทศได้ราบรื่นไร้อุปสรรค


 


** เพราะอะไรดี เราก็บอกว่าดี และก็หวังว่าตลาดหุ้นที่รั้งบ๊วย เมื่อปีที่แล้วจะฟื้นคืนชีพมาได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh