บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
แบงก์ชาติไม่ยอมลดดอกเบี้ยก็ไม่เป็นไร ขอแบงก์พาณิชย์เองเลยก็ได้ จึงน่าจะเป็นที่มาว่าทำนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ถึงได้เชิญผู้บริหาร 4 แบงก์ใหญ่ BBL SCB KTB และ KBANK เข้าพบเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยลดภาระให้กับประชาชนในช่วงนี้
เมื่อขอมาก็จัดให้ สมาคมธนาคารไทย จึงมีมติอออกแนวทางช่วยเหลือประชาชนเมื่อวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) ด้วยการลดดอกเบี้ย MRR 0.25% ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME ชั้นดี ตามด้วยล่าสุดธนาคารรัฐ ทั้งออมสิน ธอส. ธกส. เอ็กซิมแบงก์ ฯลฯ ก็ประกาศลดดอกเบี้ยช่วยรายย่อยและกลุ่มเปราะบางเช่นกัน 0.25%
ถ้าถามว่าแล้วแบบนี้ข้ามหน้าข้ามตาแบงก์ชาติหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่มุมมอง ในเมื่อขอแล้วไม่ให้ ก็ขอตรงๆ กับแบงก์พาณิชย์เองเลยแล้วกัน แล้วนายกรัฐมนตรี เรียกเข้าพบแบบนี้ แบงก์พาณิชย์เองก็คงขัดไม่ได้ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด และน่าจะวินวินกันทุกฝ่าย ก็คือการช่วยกลุ่มเปราะบาง ทั้งบุคคล และ SME ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นเวลา 6 เดือน
อีกทั้ง การปรับลดดอกเบี้ยส่วนนี้ เป็นส่วนที่ธนาคารฯ สามารถทำได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบายก่อน อย่างที่สมาคมธนาคารไทยระบุในแถลงการณ์ว่า ลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้มีโอกาสฟื้นตัว ปรับตัว ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่มีทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลางและยาว สอดคล้องกับมาตรการ การแก้หนี้อย่างยั่งยืน และการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย
และในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในตลาดเงิน ตลาดทุน สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิกให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า และตระหนักถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง (Corporate Responsibility) ซึ่งการช่วยเหลือลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนอื่นๆในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการระยาวในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างรายได้ที่พอเพียงและยั่งยืน
เพราะฉะนั้น ถือว่าเป็นการเดินสายกลาง แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น แบงก์ชาติก็ไม่ได้เสียหน้าอะไร ขณะที่แบงก์พาณิชย์ ก็ได้ช่วยเหลือลูกค้า ประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล เพราะไหนๆ ผลงานกำไรไตรมาสแรกที่ออกมาก็ดีอยู่แล้ว เจียดมาลดดอกเบี้ยเล็กน้อยก็ไม่คงไม่กระทบกระเทือนสถานะอะไรของบรรดาบิ๊กแบงก์ทั้งหลายอยู่แล้ว
ส่วนรัฐบาลก็พอได้หน้าอยู่บ้าง เพราะงานนี้ทั้งแบงก์เอกชน แบงก์รัฐฯ ช่วยกันลดดอกเบี้ยแบบฉ่ำกันไปเลยทีเดียว แต่ก็อีกทำอะไรก็ควรให้พอดี นานๆ ขอความร่วมมือก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่ขอบ่อยๆ ขอเรื่อยๆ ต่อให้มีกำไรก็จริง แต่อย่าลืมว่าธนาคารพาณิชย์เขาก็เป็นบริษัทจดทะเบียน ผู้ถือหุ้นเขาก็มี ทำอะไรก็ต้องถามผู้ถือหุ้นด้วยเหมือนกัน