ลุ้น 5,200 MW รอบนี้ ไม่พ้นหน้าเดิมๆ
เรียบร้อยโรงเรียนคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปแล้ว สำหรับการเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ปี2565 – 2573 สำหรับ 3 ประเภทเชื้อเพลิง 5.2 พันเมกกะวัตต์ ประกอบด้วย 1. ก๊าซชีวภาพ 335 เมกะวัตต์ 2. พลังงานลม 1,500 เมกะวัตต์ 3. พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 1,000 เมกะวัตต์ และ 4. พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 2,368 เมกะวัตต์ ที่เพิ่งปิดรับสมัครไปเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ ( 25 พ.ย.)
หลังจากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 และเปิดให้ผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติยื่นอุทธรณ์ ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ประกาศผลพิจารณาอุทธรณ์คุณสมบัติ ภายในวันที่ 4 มกราคม 2566
จากนั้น กกพ. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำภายในวันที่ 18 มกราคม 2566 และให้ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคขั้นต่ำ ยื่นอุทธรณ์ ภายใน 7 วันทำการ ประกาศผลการพิจารณาอุทธรณ์ ภายใน 22 กุมภาพันธ์ 2566จากนั้นประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือก ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2566
ซึ่งหลังจากเห็นผู้ชนะ ก็จะให้การไฟฟ้าแจ้งให้ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกลงนามทราบ และยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในวันที่ 29 มีนาคม 2566 สุดท้ายคือผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามกำหนดภายใน 180 วัน เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจะขออัพเดทให้รู้กัน
เท่าที่ทราบตอนนี้ บรรดาผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้า ต่างก็เปิดตัวว่าจะเข้าร่วมประมูล และก็ไม่พ้นหน้าเดิมที่เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่อย่าง GULF GUNKUL ที่จับมือกันเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ประกาศเข้าประมูลทั้ง โรงไฟฟ้าพลังงานลม และโซลาร์ รวม 1,000 MW รวมไปถึงหน้าใหม่รอบนี้อย่าง EA ที่บอกว่าจะขอร่วมชิงเค้กด้วย ทั้งลม และแสงอาทิตย์ โดย EA บอกว่าเตรียมความพร้อมในเรื่องของพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดก็คือ BGRIM ที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลพลังงานลม -โซลาร์ มากกว่า 500 MW
หรืออย่าง EGCO ที่เพิ่งแถงข่าวไปเมื่อไม่นานนี้ ก็บอกว่าพร้อมชิง พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน ด้วยเช่นกัน ซึ่งโบรกฯ ประเมินว่า EGCO หวังจะคว้าเต็ม 1,000 MW นอกจากนั้น ยังมี อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ที่ยื่นไป 8 โครงการโซลาร์ฯ และสแกน อินเตอร์ (SCN) ซึ่งคาดว่าจะขอไปประมาณ 30-40 MW ส่วนเจ้าอื่นๆ แม้ยังไม่เปิดตัวโจ่งแจ้ง แต่เชื่อว่าระดับ 5,200 MW ไม่มีใครยอมปล่อยให้หลุดมือแน่
แม้ว่าเราจะได้เห็นหน้าเดิมๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ สำหรับผู้เข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบนี้ และคาดว่าวันที่ 2 ธ.ค. ที่ประกาศรายชื่อ ก็คงไม่พ้นเจ้าเก่า รายเดิมๆ หรือบรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดที่ส่วนใหญ่ก็ชำนาญการด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งจากการประเมินของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ฟันธงว่า GUNKUL GULF และ EA น่าจะมาแรงที่สุด
ขณะที่โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนครั้งนี้ ก็เป็นไปตามกรอบนวทางสู่ Net-Zero carbon Emission ของกระทรวงพลังงาน ตลอดจนต่อยอดและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าให้สามารถเข้าถึงและใช้พลังงานสีเขียวตามแนวทาง Green Tariff ของกกพ. ที่จะมีขึ้นในอนาคต
ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ สำหรับกลุ่มหุ้นยอดฮิตอย่างโรงไฟฟ้า ที่เข้ามาช่วงปลายปี หลังจากกลางปีที่ผ่านมา ต้องเจอกับปัจจัยลบสำคัญอย่างเรื่องค่าเงินบาทกดดัน หวังว่าการเปิดชิง 5,200 MW ของกกพ.ในครั้งนี้ บวกกับค่าเงินบาทที่เริ่มมาสู่ระดับปกติ น่าจะทำให้ FC ของหุ้นโรงไฟฟ้า มีรอยยิ้มขึ้นมากันได้บ้าง