ลุ้นเศรษฐกิจไทยปีกระต่าย
เผลอแป๊ปเดียว เหลืออีกไม่กี่วันก็จะเข้าปีใหม่ 2566 ผ่านพ้นปีเสือ เข้าสู่ปีเถาะหรือกระต่ายกันแล้ว แม้ปีที่กำลังจะผ่านไปจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์แค่ไหน แต่สำหรับประเทศไทยก็ถือว่าเราเอาตัวรอดไปได้อีกปี
โดยเฉพาะเศรษฐกิจปีนี้ที่คาดกันว่าจะโตได้ประมาณ 3.5% หรืออาจจะปริ่มๆ 4% หากการท่องเที่ยวทั้งปีทำได้ดี หรือเหนือคาดหมาย เพราะตัวขับเคลื่อนหลักอย่างส่งออกเติบโตได้ไม่เต็มที่นัก เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงชะลอตัว แม้จะเริ่มมีทิศทางดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้าย หลังจากจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิดก็ตาม รวมถึงค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง
ส่วนปีหน้านั้น หลายๆ หน่วยงานยังพยายามมองเป็นกลางๆ ว่าจีดีพีน่าจะโตอยู่ที่ 4% ซึ่งการท่องเที่ยวยังคงเป็นความหวังของเศรษฐกิจปีหน้า ส่วนเป้าส่งออกทั้งปี 2566 คาดว่าจะเติบโตเพียงแค่ 3-4% บางแห่งมองไปถึงระดับติดลบก็มี น้อยกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 7% เพราะปัญหาหลักๆ ในปีหน้าก็คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก
ขณะที่บ้านเรานั้นหลายฝ่ายคาดหวังว่า น่าจะดีกว่าปีนี้ ทั้งจากท่องเที่ยว และการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจคึกคักขึ้น แม้ภาพรวมของโลกอาจจะยังไม่แน่นอน ทั้งเรื่องของสงครามรัสเซีย และยูเครน ที่ยืดเยื้อข้ามปี หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่อาจจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องตั้งรับ โดยเฉพาะรัฐบาลใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ
ดังนั้นปีกระต่ายที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจยังต้องลุ้นว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เพราะหากฟันเฟืองหลายๆตัว ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ครบ หรือบางตัวยังคงสะดุด ก็เป็นไปได้ยากที่จะทำให้การเติบโตในปีหน้า เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะต้องยอมรับว่ายังมีหลายปัจจัยที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ที่สำคัญ ช่วงที่กำลังฝุ่นตลบก่อนเลือกตั้งในปีหน้า ยังต้องจับตามองไปที่นโยบายเศรษฐกิจของ บรรดาพรรคการเมืองใหญ่ด้วยว่าจะออกมาอย่างไรจะแค่หาเสียง วาดฝันให้สวยหรู หรือราคาคุยหรือไม่ ก็ยังเป็นอีกเรื่องที่ต้องลุ้นเช่นกัน ออกนโยบายมาแล้ว เข้ามาบริหารประเทศแล้วจะใช้ได้เลยหรือไม่ และทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ไกลแค่ไหน
กระต่ายทองปีหน้า น่ารัก น่าลุ้นแน่ๆ