Light Mode

Dark Mode

Logo Efinancethai While Logo Efinancethai While
ค้นหาข่าว และความรู้ด้านการเงิน การลงทุนต่างๆ ที่คุณสนใจ
ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
  • Light Mode

    Dark Mode

    Swift Mode คือ?
    โหมดที่ช่วยปรับเปลี่ยนการแสดงผลของธีมระหว่าง Dark Mode และ Light Mode
    • efin StockPickUp
    • efin StockPickUp Pro NEW
    • TRADEMAN NEW
    • efin Trade Plus
    • efin Mobile
    • ข่าวหุ้นล่าสุด
    • กองทุน
    • ทองคำ
    • ข่าวต่างประเทศ
    • Market Focus
    • ข่าวเด็ด บจ.
    • หุ้นเด่นวันนี้
    • ประเด็นร้อน
    • บทบรรณาธิการ
    • Exclusive Company Visit
    • ESG Story
    • Recommended for You
    • Opinion
    • IPO Corner
    • efin Review
    • THE VISION
    • Stock Insight
    • Fundamental Recap
    • Broker Research
    • หน้าหลักคริปโต NEW
    • ข่าว
    • ข่าวคริปโตล่าสุด
    • ข่าวคริปโตยอดนิยม
    • Bitcoin Focus
    • Regulator
    • Market
    • DA Business
    • RWA
    • ETF
    • Press Releases
    • บทความ
    • Research
    • Fintech
    • Crypto Verse
    • Media อื่น ๆ
    • Crypto Weshare
    • efin on tour workshop จังหวัดภูเก็ตNEW
    • efin on tour workshop จังหวัดชลบุรี
    • efin on tour workshop จังหวัดเชียงใหม่
    • efin x wow festival 2025
    • Better Trade
    • ESG
    • เลือกกองทุนรวยด้วย efin
    • ติว(อินเวส)เตอร์
    • efinanceThai Connect NEW
    • efin Let’s Profit Run COMING SOON
    • Help Online
    • Team Viewer
    • คู่มือ
    • มุมความรู้
    • ติดต่อโฆษณา
    • ฝากข่าว PR

Light Mode

Dark Mode

Logo Efinancethai While Logo Efinancethai While
ค้นหาข่าว และความรู้ด้านการเงิน การลงทุนต่างๆ ที่คุณสนใจ
ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
  • Light Mode

    Dark Mode

    • efin StockPickUp
    • efin StockPickUp Pro NEW
    • TRADEMAN NEW
    • efin Trade Plus
    • efin Mobile
    • ข่าวหุ้นล่าสุด
    • กองทุน
    • ทองคำ
    • ข่าวต่างประเทศ
    • Market Focus
    • ข่าวเด็ด บจ.
    • หุ้นเด่นวันนี้
    • ประเด็นร้อน
    • บทบรรณาธิการ
    • Exclusive Company Visit
    • ESG Story
    • Recommended for You
    • Opinion
    • IPO Corner
    • efin Review
    • THE VISION
    • Stock Insight
    • Fundamental Recap
    • Broker Research
    • หน้าหลักคริปโต NEW
    • ข่าว
    • ข่าวคริปโตล่าสุด
    • ข่าวคริปโตยอดนิยม
    • Bitcoin Focus
    • Regulator
    • Market
    • DA Business
    • RWA
    • ETF
    • Press Releases
    • บทความ
    • Research
    • Fintech
    • Crypto Verse
    • Media อื่น ๆ
    • Crypto Weshare
    • efin on tour workshop จังหวัดภูเก็ตNEW
    • efin on tour workshop จังหวัดชลบุรี
    • efin on tour workshop จังหวัดเชียงใหม่
    • efin x wow festival 2025
    • Better Trade
    • ESG
    • เลือกกองทุนรวยด้วย efin
    • ติว(อินเวส)เตอร์
    • efinanceThai Connect NEW
    • efin Let’s Profit Run COMING SOON
    • Help Online
    • Team Viewer
    • คู่มือ
    • มุมความรู้
    • ติดต่อโฆษณา
    • ฝากข่าว PR
ลงชื่อเข้าใช้งาน

เลือกวิธีการเข้าใช้งานที่ต้องการ

ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม ?

ลงชื่อเข้าใช้
ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือหรืออีเมล

ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม ?

สร้างบัญชี

เลือกวิธีการสมัครสมาชิกที่คุณต้องการ

มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ?

สร้างบัญชี
ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ

มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ?

เมื่อกดสร้างบัญชี ถือว่าคุณได้ยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน และ รับทราบ ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ของ efinancethai
ยืนยันด้วย OTP

Ref:

ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?
กด ได้ใน นาที

สร้างบัญชี
อีเมลนี้เคยเข้าใช้งานแล้ว สามารถ ได้ทันที
  • ความยาว 8 - 20 ตัว
  • ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (A-Z) และเล็ก (a-z)
  • ตัวเลข (0-9)
สร้างบัญชีของคุณสำเร็จ

เราได้ดำเนินการสร้างบัญชีของคุณ
เรียบร้อยแล้ว

ลืมรหัสผ่าน

กรุณากรอกอีเมล

ยืนยันด้วย OTP

Ref:

ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?
กด ได้ใน

สร้างรหัสผ่าน
  • ความยาว 8 - 20 ตัว
  • ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (A-Z) และเล็ก (a-z)
  • ตัวเลข (0-9)
ตั้งรหัสผ่านใหม่เสร็จสิ้น

เราได้ดำเนินการตั้งรหัสผ่านใหม่ของคุณ
เรียบร้อยแล้ว

สร้างบัญชีของคุณสำเร็จ

เราได้ดำเนินการสร้างบัญชีของคุณ
เรียบร้อยแล้ว

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่ารหัสผ่าน

โปรดเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่เพื่อความปลอดภัยของท่าน

  • ความยาว 8 - 20 ตัว
  • ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (A-Z) และเล็ก (a-z)
  • ตัวเลข (0-9)
  1. คริปโต
  2. Crypto Verse
  3. รายละเอียด Crypto Verse
Crypto Verse
04 ม.ค. 2022 เวลา 15:31

วิเคราะห์ 7 เทรนด์โลกคริปโท จะเกิดอะไรขึ้น ต้องจับตามองอะไรในปี 2022!

วิเคราะห์ 7 เทรนด์โลกคริปโท จะเกิดอะไรขึ้น ต้องจับตามองอะไรในปี 2022!

Share

twitter icon
line icon

 

วิเคราะห์ 7 เทรนด์โลกคริปโท จะเกิดอะไรขึ้น ต้องจับตามองอะไรในปี 2022!

 

จบไปแล้วสำหรับปี 2021 ที่คงจะได้สร้างเศรษฐีใหม่ และทำให้ใครหลายคนเสียน้ำตากันมาแล้ว

วันนี้เราจึงถือโอกาสมาวิเคราะห์ '7 เทรนด์' ในโลกคริปโท ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า และอุตสาหกรรมใดต้องจับตามองเป็นพิเศษ!

ทั้งนี้ บทความนี้ก็เป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ของทาง Crypto by efinanceThai อ้างอิงตามข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เท่านั้น ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าจะเกิดขึ้นแต่อย่างใดนะ

เอาละ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันได้เลย

 

 

 

1.กระแสคริปโทยังแรงไม่หยุด คาดแรงกว่าปี 2021

หลังจากในปี 2021 บรรดาผู้ให้บริการคริปโทเคอร์เรนซีทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็พยายามจะขยายธุรกิจของตนให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น เข้าถึงผู้คนได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งนั่นเองก็ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคริปโทเคอร์เรนซีก็ยังมีพื้นที่ให้เติบโตอยู่อีกมากมายมหาศาลมาก

 

อ้างอิงจากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่เผยแพร่ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีคนไทยที่ได้ลงทุนจริงในคริปโทเคอร์เรนซีอยู่เพียง 24.3% เท่านั้น แต่มีผู้สนใจจะลงทุนอยู่ถึง 52% และมีผู้ที่รู้จักคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ถึง 69.4%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : KBANK เปิดรายงานมุมมอง `คริปโท` ต่อคนไทย เผยโตแซงหุ้นเกือบ 10 เท่า!

 

ซึ่งข้อมูลจากต่างประเทศก็แสดงผลไปในทิศทางเดียวกันก็คือยังมีผู้ที่สนใจในคริปโทเคอร์เรนซีอยู่อีกมากแต่ยังไม่ได้เข้ามาลงทุนจริง ยังไม่นับบรรดาประเทศเล็กๆ หรือในพื้นที่ห่างไกลที่ยังถือว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปทำธุรกิจของบรรดาผู้ให้บริการเหล่านั้นอีกด้วย

 

นอกจากในฟากฝั่งของนักลงทุนรายย่อยแล้ว รายใหญ่หรือบรรดาสถาบันการเงินต่างๆ ก็ต่างพากันตบเท้าเข้ามาสู่วงการคริปโทเคอร์เรนซีกันแล้วทั้งสิ้น บริษัทหรือสถาบันการเงินไหนยังไม่เข้ามาก็รับความเสี่ยงที่จะตกรถกันได้เลย แล้วเราก็คงจะได้เห็นกันแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับบริษัทที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตามโลก

 

จากผลสำรวจของ ‘Blockdata’ ที่เผยแพร่ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็พบว่ากว่า 55% ของธนาคาร 100 อันดับแรกของโลกได้ก้าวเข้ามาสู่โลกคริปโทเคอร์เรนซีไปเรียบร้อยแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 55% ของธนาคารชั้นนำ 100 แห่งทั่วโลก เข้าลงทุนบริษัท Crypto, Blockchain

 

ถึงแม้ว่าตัวเลขนี้ดูเยอะอยู่แล้ว แต่เม็ดเงินในการลงทุนกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน แล้วคิดดูถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่บรรดาบิ๊กธนาคารเหล่านี้ที่ได้เข้าลงทุนไป แล้วใครจะยอมให้กระแสซาลงในปี 2022 นี้หรือในปีถัดๆ ไปก็ตาม

 

 

 

 

 

2.จะเป็นปีทองของ DeFi

สำหรับ DeFi หรือ Decentralized Finance ที่หลายสำนักมองว่าจะเข้ามา ‘ฆ่า’ ธนาคารสำหรับรายย่อย ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่เพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในปี 2021 นี้เอง ลองย้อนกลับไปเมื่อช่วงเริ่มต้นปี 2021 ลองเดินไปถามคนซัก 10 คนดูว่ามีใครรู้จัก DeFi ไหม… ก็ไม่แน่ใจนะจะมีใครสักคนรู้จักหรือเปล่า

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : Decentralized Finance (DeFi) คืออะไร?

 

จากข้อมูลของเว็บไซต์ Defillama.com ตั้งแต่ต้นปี 2021 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มูลค่าเม็ดเงินลงทุนใน DeFi ได้พุ่งสูงขึ้นไปถึงราว 1,300% หรือราว 13 เท่าตัว แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2020-2021 ที่มูลค่าเม็ดเงินใน DeFi พุ่งสูงขึ้นไปถึงราว 3,000 % หรือราว 30 เท่าตัวเลยทีเดียว

 

แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า DeFi ยังเป็นอะไรที่เข้าถึงยาก ถึงยากมากๆ อยู่ และยังจำกัดวงอยู่ในกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับคริปโทเคอร์เรนซีอยู่พอสมควร จากข้อจำกัดต่างๆ อย่างเช่นความรู้ความเข้าใจ, ค่าใช้จ่ายที่สูง, ความเสี่ยงในการใช้งานที่พลาดแล้วพลาดเลย ไม่เหมือนกับธนาคารที่ยังคอยมีเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาให้ผู้ใช้งาน (อย่างเช่นการโอนผิด Address เป็นต้น)

 

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ DeFi จะยังดูเข้าถึงยากอยู่ก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังเข้าถึงได้ง่ายกว่ามากๆ ถ้าหากเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมา เพราะการเข้าถึงยากนั่นเองคือ Pain points หลักที่ผู้ให้บริการ DeFi ต่างๆ ต้องทำการบ้านแก้ไขปัญหานี้ให้ตก

 

รวมไปถึงสื่อต่างๆ ที่คอยพยายามรังสรรค์สื่อที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นเข้าสู่โลก DeFi ออกมาอย่างมากมาย จนในขณะนี้แล้วถ้าใครสนใจจริงๆ และพร้อมที่จะหาความรู้ ก็คงจะไม่ยากเกินความสามารถที่จะเข้าไปสู่ตลาด DeFi นี้

 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ยังมีพื้นสำหรับ DeFi ให้เติบโตได้อีกมหาศาลจากความเข้าถึงยากของมันในปัจจุบันนี้เอง และแน่นอนเลยว่ายิ่งเวลาผ่านพ้นไปนานเท่าไร DeFi ก็จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น นั่นเองก็หมายถึงเม็ดเงินที่จะเข้ามาสู่ตลาด DeFi มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

 

 

 

 

 

3.Metaverse มาแน่! แต่จะมาในรูปแบบไหน?

หลังจากที่กระแสของคำว่า Metaverse ดังเป็นพลุแตก เมื่อ ‘Facebook’ ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘Meta’ พร้อมประกาศเบนเข็มบริษัทมุ่งสู่ ‘จักรวาลนฤมิต’ หรือ Metaverse อย่างเต็มตัวเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

ดังนั้นเมื่อ ‘Meta’ ที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดทหารผ่านศึก เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกจะเข้ามาลุยโลก Metaverse นั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่มันจะประสบความสำเร็จ และสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาให้ผู้คนได้เข้าไปใช้งาน รวมถึงยังเป็นผู้มาก่อนกาล ดีไม่ดีอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่า Facebook อีกก็เป็นไปได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น `Meta` พร้อมวางแผนรองรับฟีเจอร์ NFT

 

และถ้าหากโลก Metaverse ของ ‘Meta’ ประสบความสำเร็จละก็ เป็นที่แน่นอนว่าจะมีผู้ท้าชิงต่างๆ เข้ามาสู่ตลาดนี้อีกมากมายมหาศาล จนสุดท้ายแล้ว Metaverse ของ Meta ก็อาจไปไม่รอดจนสุดทางก็เป็นไปได้

 

แต่ที่แน่นอนคือจะมีผู้เล่นรายอื่นในตลาดเข้ามาชิงตำแหน่ง และเกิดการแข่งขันครั้งใหญ่เกิดขึ้น เหมือนกับวัฏจักรของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นกระแสขึ้นมาเมื่อราว 10 กว่าปีที่แล้ว

 

ซึ่งนั่นเองก็เป็นการจุดชนวนกระแสคำว่า Metaverse ให้ดังไปทั่วสารทิศ ใครต่อใครก็พูดถึง Metaverse ไอนู่นก็เป็น Metaverse ไอนี่ก็เป็น Metaverse แล้วจริงๆ แล้ว Metaverse มันคืออะไร?

 

น่าเสียดายว่าทุกวันนี้คำจำกัดความของคำว่า Metaverse กลับยังไม่ชัดเจน สำนักนู้นก็จำกัดความไปแบบหนึ่ง สำนักนี้ก็จำกัดความไปอีกแบบหนึ่ง รวมไปถึงหลายต่อหลายสำนักก็ยอมรับเลยว่าไม่รู้จะจำกัดความ Metaverse ว่าอย่างไรดี

 

ดังนั้น ถึงทางเราจะมองว่า Metaverse จะมาอย่างแน่นอนในปีหน้า รวมถึงไปถัดๆ ไป แต่ก็ต้องมาจับตาดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้ว Metaverse จะออกมาในรูปแบบไหน, คืออะไร, และจะมาเปลี่ยนโลกของเราไปในทิศทางใดบ้าง

 

 

 

4.จับตาดูกระแส NFT จะอยู่ จะไป หรือจะเปลี่ยนไปทิศทางไหน?

ฟังดูอาจจะตกใจเล็กน้อยสำหรับข้อนี้ แต่สำหรับข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นมูลค่าการซื้อขาย และจำนวนชิ้นงานที่มีการซื้อขาย ทำให้เราเห็นได้ว่าตลาด NFT ในขณะนี้กำลังซบเซาลงจริงๆ

 

จากข้อมูลของเว็บไซต์ nonfungible.com ได้แสดงถึงกราฟมูลค่ารวมของการซื้อขาย NFT ในช่วงเวลาต่างๆ ที่เป็นการรวบรวมข้อมูลจากโปรเจกต์ NFT ชั้นนำต่างๆ อย่างเช่น CryptoPunks, Bored Ape Yatch Club ฯลฯ รวมไปถึงเกมอย่าง The Sandbox และ Decentraland

 

จากกราฟมูลค่าการซื้อขายใน Time frame สัปดาห์ที่ทางเว็บไซต์แสดง จะพบว่ามูลค่าการซื้อขายกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ลดลงมาจากมูลค่าซื้อขายสูงสุดที่ราว 1,600 ล้านดอลลาร์ ลงมาสู่ 246 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการดิ่งลงไปกว่า 85% เลยทีเดียว

 

เช่นเดียวกันกับ ‘OpenSeas’ แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ที่มีใหญ่ที่สุดก็มีมูลค่าการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

 

อ้างอิงจากเว็บไซต์ Dune.xyz ได้มีการแสดงข้อมูลกราฟของมูลค่าการซื้อขายบน OpenSeas ต่อวัน โดยมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงสุดอยู่ที่ 319 ล้านดอลลาร์ที่จำนวนการซื้อขายราว 79,000 ครั้งในวันที่ 29 สิงหาคม จนวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมากลับมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์ ที่จำนวนการซื้อขายราว 35,000 ครั้งเท่านั้น

 

จะสังเกตเห็นได้ว่ามูลค่าการซื้อขายต่อวันนั้นลดลงมาจากจุดสูงสุดถึงราว 83% ตรงกันข้ามกับปริมาณชิ้นงาน NFT ที่มีการซื้อขายกันในแพลตฟอร์มที่ลดลงมาราวครึ่งหนึ่งเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าไม่ใช่แค่จำนวนชิ้นงานที่ขาดลดลง แต่ราคาเฉลี่ยของแต่ละชิ้นงานก็ลดลงด้วย

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า NFT ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากกับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในโลก Metaverse ดังนั้นในอนาคตก็อาจมองได้ว่าตลาด NFT จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับ Metaverse ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ NFT ที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ ก็คงจะเป็น NFT ที่สามารถนำมาใช้ในโลก Metaverse ได้ อย่างเช่นเสื้อผ้า, ที่ดิน หรือไอเทมต่างๆ เท่านั้น

 

และอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะช่วยฉุดตลาด NFT ให้ฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งก็คือ ‘Ethereum 2.0’

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : Ethereum 2.0 คืออะไร?

 

จากข้อมูลในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่ากว่า 80% ของ NFT ทั้งหมดในปี 2021 ถูกซื้อขายผ่านบล็อกเชน Ethereum ซึ่ง Ethereum นั่นเองก็มีปัญหาหลักๆ คือค่าธรรมเนียมการใช้งานเครือข่าย (ค่า Gas) ที่สูงมาก, ความเร็วธุรกรรมต่ำ ฯลฯ

 

ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเอง หรือนักสะสมต่างต้องเจ็บปวดจากค่า Gas มหาศาลของ Ethereum อยู่เสมอ ซึ่งปฎิเสธไม่ได้เลยว่ากระแส NFT นี่เองแหละที่เป็นตัวการทำให้ค่า Gas ของ Ethereum แพง และสุดท้ายมันก็กลับมาทำร้ายตลาด NFT เอง

 

ซึ่งการอัปเกรดเป็น ‘Ethereum 2.0’ ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปี 2022 นี่เอง ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

 

 

 

5.จับตา GameFi เช่นกัน จะไปในทิศทางไหน?

สำหรับ GameFi, NFT Game หรือเกม Play-to Earn ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่มีพื้นฐานมาจาก NFT ที่เพิ่มจะเริ่มต้นมาในปี 2021 นี้เอง และกระแสก็กำลังมาแรงมากๆ จากผลตอบแทนที่ยั่วยวนให้ทั้งนักลงทุนและเกมเมอร์ต้องก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งใหม่ใบนี้

 

หลายต่อหลายคน รวมไปถึงหลายสำนักมองว่า GameFi นี่แหละ ที่จะเข้ามาเป็นอนาคตของวงการเกม ยกระดับอุตสาหกรรมให้ก้าวไปอีกขั้น และ ‘เกมเมอร์’ ก็จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้

 

แต่ก็มีอยู่ 2 ประเด็นหลัก ที่ยังคงเป็นคำถามอยู่ว่า ‘GameFi’ นั้นจะไปรอดจริงๆ หรอ?

 

ประเด็นแรก ถ้าหากว่าคุณอยู่ในวงการนี้หรืออาจจะกำลังสนใจอยู่ ก็คงจะได้เห็นกันไปแล้วว่ามีเกมต่างๆ มากมายที่สร้างมาเพื่อ ‘หลอกลวง’ โดยเฉพาะ พร้อมกับสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนไปอย่างมหาศาล

 

ซึ่งถ้าหากใครที่อยู่ในวงการนี้มานานพอสมควรก็คงจะพอดูกันออกว่าอันไหนหลอก อันไหนไม่หลอก แต่สำหรับหน้าใหม่ละ? โดยเฉพาะหน้าใหม่ที่คิดว่าตัวเองเก๋าพอตัว ก็มีให้เห็นตกเป็นเหยื่อเกมเหล่านี้อยู่ไม่น้อย

 

ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานใดเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง จึงเป็นหน้าที่ของ ‘นักลงทุน’ หรือ ‘เกมเมอร์’ เอง ที่จำเป็นต้องรับผิดชอบตัวเองให้ดี และอุตสาหกรรมนี้ก็คงเติบโตได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าหากยังมีปัญหาการหลอกลวงอยู่มากเท่าในปัจจุบันนี้

 

อีกประเด็นก็คือ การที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้ามาในโลก GameFi นั้นเข้ามาเพื่อ ‘เก็งกำไร’ ซึ่งไม่ได้เข้ามาเพื่อ ‘ความสนุก’ อย่างที่เกมควรจะเป็น

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า GameFi ที่กำลังเป็นกระแสอยู่นี้ ไม่ได้สนุกเท่ากับ ‘เกมทั่วไป’ ที่เราเคยเล่นกันมาเลยสักนิด ใช่มันอาจสนุกแหละ แต่ก็ยังสู้ไม่ได้อยู่ดี

 

ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ใหม่มาก ในการที่ ‘เกม’ ไม่ได้สนุกเท่าแต่ก่อน แต่สามารถทำเงินได้ แล้วตกลงมันคือเกมที่เล่นเพื่อความสนุกหลังเลิกเรียน หรือว่าจะเป็นการลงทุนที่ให้นักลงทุนเข้ามากอบโกยเงินออกไปกันแน่ แล้วถ้าเป็นแบบนี้มันจะยั่งยืนสักแค่ไหนกันเชียว?

 

ซึ่งนั่นเองที่ทำให้ยังเกิดคำถามกับอุตสาหกรรม GameFi อยู่ แน่นอนว่าอนาคตมันอาจจะเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราไปก็ได้ แต่ก็คงจะเกิดขึ้นยากตราบใดที่ทั้ง 2 คำถามนี้ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างชัดเจนจากตัวอุตสาหกรรมเอง

 

 

 

6.ข้อกฎหมายจะเข้มงวดมากขึ้น และจะตามมาทั้ง ข้อดี-ข้อเสีย

 

อย่างที่เราก็คงเห็นกันแล้ว ว่ายิ่งคริปโทเคอร์เรนซีได้รับความนิยมมากขึ้นเท่าไร ข้อกฎหมายก็ยิ่งเข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น

 

แต่นั่นก็ส่งผลกระทบทั้งด้านดีและด้านเสียต่อนักลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี หลายต่อหลายคนอาจมองว่าในปี 2021 ข้อกฎหมายต่างๆ ทั้งในประเทศไทยหรือทั่วโลกก็ออกมาเยอะแล้ว ยังจะต้องออกมาบังคับกันมากกว่านี้อีกหรือ?

 

แต่ถ้าหากลองมองเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น ก็จะพบว่าในขณะนี้ข้อกฎหมายที่มีต่อคริปโทยังน้อยมากๆ มากแบบที่เทียบกันไม่ติดเลยเมื่อมาเปรียบเทียบกัน และมันก็เป็นผลดีต่อนักลงทุนอย่างเราๆ เอง อย่างเช่นการที่มีกำหนดเวลาเปิดปิดตลาด, มี Circuit Breaker, มีหน่วยงานที่คอยควบคุมตลาด ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตลาดหุ้นเพิ่งเริ่มต้นขึ้นข้อกฎหมายก็ไม่ได้มากมายถึงขนาดนี้

 

ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าตลาดคริปโทในประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลกจะมีข้อกฎหมายเข้ามารองรับ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อปกป้องนักลงทุน หรือปกป้องระบบเศรษฐศาสตร์อย่างที่หลายๆ หน่วยงานเขาว่า

 

เริ่มต้นที่ข้อดีกันก่อน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในปี 2021 ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนไปเป็นจำนวนมาก ที่มาทั้งจากรูปแบบของโปรเจกต์หลอกลวง, การแฮก, Rug Pull หรือแม้แต่ความไม่เสถียรของระบบโดยผู้ให้บริการ

 

จากข้อมูลของ ‘Chainalysis’ ในวันที่ 16 ธันวาคมรายงานว่าปี 2021 ได้มีการหลอกลวงเกิดขึ้นจนสามารถสร้างความเสียหายไปได้ถึงกว่า 7.7 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.57 แสนล้านบาทในปีเดียวเท่านั้น

 

ซึ่งข้อกฎหมายนี้เอง ที่จะเป็นด่านหน้าเข้ามาคัดกรองนำสิ่งที่เป็นภัยออกไปจากนักลงทุนในประเทศ หรือแม้แต่เป็นด่านสุดท้าย ที่จะช่วยเหลือนักลงทุนเมื่อพบปัญหาจากการลงทุนในตลาดแห่งใหม่แห่งนี้

 

และแน่นอนมันก็ยังเป็นข่าวร้ายสำหรับนักลงทุนเช่นกัน

 

โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา ก็เริ่มต้นด้วยเรื่องใหญ่ที่สะเทือนทั้งอุตสาหกรรมอย่าง ‘จีนแบนคริปโท’ ส่งผลให้ตลาดคริปโทดิ่งลงอย่างหนัก นี่ก็คือหนึ่งในมาตรการที่ออกมาโดยภาครัฐที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโทที่ส่งผลต่อตลาดทั่วโลก พร้อมกับเป็นการปิดอุตสาหกรรม คริปโทในจีนไปอย่างถาวร

 

ถึงแม้ว่าข้อกฎหมายที่ออกมาจะมีจุดประสงค์ที่จะปกป้องนักลงทุนหรือปกป้องเศรษฐศาสตร์ของชาติก็ตาม แต่หลายต่อหลายครั้งมาก ที่มันก็เป็นการไปปิดช่องทางการเติบโตของภาคธุรกิจ หรือการเติบโตของนักลงทุนเสียเอง

 

ซึ่งก็อย่างที่กล่าวไปว่าในปีหน้าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะร้อนแรงยิ่งกว่านี้แน่นอน นั่นก็ยิ่งจะเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่จะทำให้บรรดาหน่วยงานต่างๆ จำเป็นต้องเร่งออกกฎหมายมากำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีให้มากขึ้น

 

ดังนั้นเองการที่หน่วยงานต่างๆ จะคลอดข้อกฎหมายใหม่ออกมาก็จะแปรผันตรงกับผู้เล่นที่อยู่ในตลาดและภาคธุรกิจในประเทศ ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจถ้าหากปีหน้าจะมีข้อกฎหมายออกมาแบบรัวๆ แต่จะออกมาในรูปแบบไหน ใครได้รับผลกระทบ ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป

 

 

 

7.เตรียมปรับตัวให้ดี CBDC กำลังใกล้เข้ามา!

 

อีกหนึ่งนวัตรกรรมทางการเงินที่มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ อย่าง CBDC หรือ ‘สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง’ ที่แทบจะทุกประเทศทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาอยู่ รวมถึงในประเทศไทยที่อย่าง ‘บาทดิจิทัล’ ที่มีกำหนดการเริ่มต้นทดลองใช้งานจริงปลายปี 2022 นี้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) คืออะไร?

 

จะว่าไป ถ้าจะบอกว่า CBDC มีพื้นฐานมาจาก ‘บล็อกเชน’ ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว ถ้าให้ถูกต้องคงต้องบอกว่ามันมีพื้นฐานมาจาก ‘Distributed Ledger Technology’ หรือ DLT ที่เป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์เสียมากกว่า

 

ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็เคยระบุว่า CBDC เองก็อาจจะไม่ได้สร้างขึ้นมาโดยใช้พื้นฐานของบล็อกเชนก็เป็นได้ แต่แค่ให้อยู่ในรูปแบบของ Decentralized หรือการที่ไม่มีศูนย์กลางที่ใดที่หนึ่งเท่านั้นเอง

 

ในขณะนี้เองหลากหลายประเทศก็ได้พัฒนา CBDC ของตนไปแล้ว โดย 2 ประเทศอย่าง ‘บาฮามาส’ และ ‘ไนจีเรีย’ ก็ได้เปิดตัวใช้งาน CBDC อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนยักษ์ใหญ่อย่าง ‘ประเทศจีน’ ที่มีความคืบหน้าในการพัฒนา CBDC ไปไกลที่สุดในโลก ก็ยังไม่มีการใช้งานจริงอย่างเต็มรูปแบบแต่อย่างใด

 

โดยในปี 2022 นี้เอง ก็คาดว่า CBDC จะกลายมาเป็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง และคาดว่าจะมีการนำมาใช้งานกันอย่างจริงๆ จังๆ ในหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมไปถึงในประเทศไทยที่คงจะได้ทดลองใช้งานกันจริงๆ เสียที

 

ถึงแม้จะให้พูดกันตามตรง CBDC นั้นก็ไม่ใช่การลงทุน แต่เป็นเพียงอีกหนึ่งรูปแบบของสกุลเงินประเทศเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าคงจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายกับผู้ที่เรียกตัวเองว่า ‘นักลงทุน’ เสียเท่าไร

 

แต่การมาของ CBDC ก็อาจจะทำให้ตลาด ‘Stablecoin’ สั่นไหวได้อยู่พอสมควร เนื่องจากความสามารถของมันที่คล้ายกับคริปโทเคอร์เรนซี อย่างเช่นการทำงานในรูปแบบกระจายศูนย์ (Decentralized), ไร้พรมแดน, ความมีจำนวนจำกัด ก็อาจจะทำให้ดีมานด์ของ Stablecoin ลดน้อยลงก็เป็นได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : "รู้จัก Stablecoin" โดยสำนักงาน ก.ล.ต.

 

รวมไปถึงประชาชนทั่วไปก็อาจจะจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อใช้งาน CBDC เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะระบุว่าจะพยายามออกแบบ CBDC ออกมาให้ใช้งานง่ายมากที่สุดก็ตาม

 

แต่ก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อยถ้าหากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ CBDC ด้วย เพราะนอกจากมันจะมีคุณสมบัติเหมือนกับเงินบาททุกประการแล้ว CBDC ก็ยังมีการใส่ฟังก์ชันเพิ่มเติมเข้ามาอย่างเช่นการที่สามารถ ‘ตั้งเงื่อนไข’ ให้กับเงินได้ คล้ายกับ Smart contract เป็นต้น

 

 

 

สุดท้าย.. จับตาสิ่งใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2022

จากปี 2021 ที่ผ่านมา ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีอะไรใหม่ๆ กลายมาเป็นกระแสในโลกของเขามากมายนับไม่ถ้วน

 

อย่างเช่นในเรื่องของ DeFi, NFT, GameFi, Metaverse ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็เริ่มมาจากการแสเบาๆ เริ่มมาจากการพูดถึงจากบางสำนักเล็กๆ เท่านั้น จนทุกวันนี้ สิ่งที่สำนักเล็กๆ เหล่านั้นพูดถึงแล้วไม่มีใครสนใจ กลับกลายมาเป็นเทรนด์หลักของโลกคริปโท และมันก็คงจะดีไม่น้อยถ้าหากเราเกาะกระแสนั้นทันก่อนที่มันจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

 

เนื่องจากในปี 2022 นี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีอะไรก็ตามที่เป็น ‘เรื่องใหม่’ กลายมาเป็นเทรนด์ในโลกคริปโทเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2021

 

ตัวอย่างเช่น The Sandbox (SAND) หรือ Decentraland (MANA) 2 เกมที่เป็นลูกผสมระหว่างความเป็น GameFi และ Metaverse ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วก็คงจะไม่มีใครรู้จัก 2 คำนี้แน่ๆ

 

ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทั้งสองเหรียญสามารถทำกำไรได้อย่างก้าวกระโดดหลังจากคำว่า Metaverse กลายมาเป็นกระแสในโลกคริปโท โดยราคาพุ่งขึ้นไปถึงราว 150 เท่า และ 37 เท่าตามลำดับ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

 

ทาง efinanceThai เองก็เคยได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับซีอีโอของ Nvidia เชื่อมั่นว่า Metaverse จะกลายมาเป็นอนาคตไปในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แน่นอนว่าก่อนคำว่า Metaverse จะกลายเป็นกระแสเสียอีก ซึ่งถ้าหากจับทางได้ว่ามันจะกลายมาเป็นกระแสก็คงจะดีไม่น้อย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ซีอีโอ Nvidia เชื่อ! เราเข้าใกล้โลกของ NFT และ Metaverse มากแล้ว

 

แต่แน่นอนว่ามันก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เนื่องจากเราก็คงไม่รู้หรอกว่าอะไรบ้างจะกลายมาเป็นเทรนด์ และอะไรบ้างจะถูกปัดตกไป

 

ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสำนักจึงแนะนำว่า ให้แบ่งพอร์ตการลงทุนออกเป็น 2 พอร์ต พอร์ตแรกเอาไว้สำหรับลงทุนกับอะไรที่มีความเสี่ยงต่ำ กล้าที่จะใส่เงินเข้าไปเยอะๆ โดยที่ไม่ต้องคอยมากังวลกับมันว่ามันจะไปรอดไหม อย่างเช่น Bitcoin, Ethereum หรืออะไรที่ตามที่ตัวนักลงทุนให้ความเชื่อมั่น

 

อีกพอร์ตหนึ่งคือพอร์ตสำหรับ ‘ความเสี่ยงสูง’ ที่เอาไว้สำหรับลงทุนในอะไรก็ตามที่ยังไม่เชื่อมั่นเสียเท่าไร หรือเอาไว้ตามเทรนด์ตามกระแสโดยที่ไม่ต้องคิดมากว่าจะเสียดายถ้าหากว่ามันจะสูญไปทั้งหมด

 

ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดีมาก ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของตนเอง รวบไปถึงยังเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเราสามารถเข้าไปลงทุนกับอะไรที่เรามองว่าอาจจะกลายมาเป็นเทรนด์ได้ และไม่ต้องตกรถอีกต่อไป

 

**************************

 

อ้างอิง:
https://dune.xyz/mikecabs/NFT-Market-since-ATH
https://nonfungible.com/market/history
https://blog.chainalysis.com/.../2021-crypto-scam-revenues/

 

กราฟฟิคโดย : ณัฐชนน พูนชัย (Boom)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

คริปโทคริปโตcryptoDeFiMetaverseGameFiNFTบิทคอยน์fintech

Share

twitter icon
line icon
ดูทั้งหมด
efinanceThai efinanceThai

เราจะไม่เพียงแต่นั่งรอโอกาส แต่เรามุ่งมั่นจะสร้างโอกาสที่ทำให้เรา
สังคมของเรา และทุกคนที่เราเกี่ยวข้องด้วยดีขึ้น

ติดต่อโฆษณา

คุณนาถลดา จามจุรี (จอย)

โทร : 063-202-4509

Email : [email protected]

คุณหฤษฎ์ สระแก้ว (ฟัง)

โทร : 061-072-6233

Email : [email protected]

Follow us

line icon
tiktok icon
youtube icon
  • Online Asset
  • ภาพรวมบริษัท
  • ข่าวสารกิจกรรม
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อบริษัท
  • efin StockPickUp
  • efin StockPickUp Pro
  • TRADEMAN
  • efin Trade Plus
  • efin on Tour Workshop จังหวัดภูเก็ต
  • efin on Tour Workshop จังหวัดชลบุรี
  • efin on Tour Workshop จังหวัดเชียงใหม่
  • efin x wow festival 2025
  • Better Trade
  • ESG
  • เลือกกองทุนรวยด้วย efin
  • ติว(อินเวส)เตอร์
  • efinanceThai Connect
  • efin Let’s Profit Run
  • Our Service
  • IR Plus Member
  • Contact Us
  • Help Online
  • Team Viewer
  • คู่มือ
  • Tel: 02-023-8800
  • [email protected]
  • ติดต่อโฆษณา
  • ฝากข่าว PR
ข้อมูลบริษัท
  • Online Asset
  • ภาพรวมบริษัท
  • ข่าวสารกิจกรรม
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อบริษัท
โปรแกรม
  • efin StockPickUp
  • efin StockPickUp Pro
  • TRADEMAN
  • efin Trade Plus
อีเว้นท์
  • efin on Tour Workshop จังหวัดภูเก็ต
  • efin on Tour Workshop จังหวัดชลบุรี
  • efin on Tour Workshop จังหวัดเชียงใหม่
  • efin x wow festival 2025
  • Better Trade
  • ESG
  • เลือกกองทุนรวยด้วย efin
  • ติว(อินเวส)เตอร์
คอนเนค
  • efinanceThai Connect
  • efin Let’s Profit Run
IR Plus
  • Our Service
  • IR Plus Member
  • Contact Us
ช่วยเหลือ
  • Help Online
  • Team Viewer
  • คู่มือ
Customer Support
  • Tel: 02-023-8800
  • customerservice@efinancethai.com
ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อโฆษณา
  • ฝากข่าว PR

Copyrights © 2025 by efinanceThai.com All Rights Reserved.   Cryptoverse Detail

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ | ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการใช้คุกกี้ | เงื่อนไขการใช้ข้อมูลของผู้ให้บริการรายอื่น
Logo Cookie
นโยบายการใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี และพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ ตรงกับความต้องการของคุณมากยิ่งขึ้น คุณสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้