บทความแนะนำ

5 เทคนิคลงทุนหุ้นปันผลสุดปัง !

5 เทคนิคลงทุนหุ้นปันผลสุดปัง !

สำหรับการลงทุนหุ้นปันผล เราไม่สามารถนำอัตราเงินปันผล (Dividend Yield) มาใช้เป็นเพียงเหตุผลเดียวในการเลือกหุ้น เพราะหุ้นที่จ่ายเงินปันผลในระดับสูง ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นหุ้นที่ดี และเป็นการเลือกลงทุนที่ถูกเสมอไป

เพราะในทางกลับกันแล้ว ก็มีอยู่หลายบริษัทเหมือนกันนะ ที่มักนำนโยบายการจ่ายเงินปันผลสูง ๆ เข้ามาล่อตาล่อใจนักลงทุน เนื่องจากความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทนั้น ถูกเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้มีศักภยภาพในการเติบโตเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ดังนั้น หากเราใช้ Dividend Yield เป็นเหตุผลหลักในการเลือกลงทุนหุ้นปันผล ก็มีโอกาสสูงเหมือนกันที่จะไปเจอแจ็คพอตเลือกหุ้นผิดตัว ได้บริษัทที่ผลการดำเนินงานกำลังอยู่ในช่วงขาลง 

เงินปันผลในระดับสูงที่เราได้รับมานั้น อาจจะต้องแลกมากับการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น (Capital Gain) ที่ลดลงแรงกว่าระดับของเงินปันผล ซึ่งแน่นอนว่า สุดท้ายแล้ว มันก็จะทำให้เราขาดทุนนั่นเอง

วันนี้แอดจึงอยากนำข้อมูลดี ๆ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มาแบ่งปันเพื่อน ๆ ทุกคนให้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะ ว่าการเลือกหุ้นปันผลให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ควรใช้เหตุผลใดมาประกอบการตัดสินใจบ้าง

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ แนะนำว่า การที่นักลงทุนอย่างเรา ๆ จะเลือกลงทุนหุ้นปันผลสัก 1 บริษัท หุ้นปันผลที่เราเลือกมานั้น ควรจะต้องมีคุณสมบัติทั้ง 5 ข้อ ดังต่อไปนี้นะ 

1.ผลประกอบการดี : หัวใจหลักของการมองหาหุ้นปันผลน่าลงทุน ก็คือเป็นบริษัท ที่มีผลประกอบการดี ซึ่งสามารถบอกได้ว่า บริษัทที่เราเลือกนั้น มีเงินสดเพียงพอ ที่จะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับเรานั่นเอง

เทคนิค ในการดูว่า ผลประกอบการบริษัทใดแข็งแกร่งหรือไม่ เราควรพิจารณา 2 สิ่ง คือ กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี เพราะสะท้อนให้เห็นผลการดำเนินงานเบื้องต้นของบริษัท

จากนั้น เราควรพิจารณา กำไรสุทธิต่อหุ้น ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดที่ชำระแล้ว โดยระหว่างปี หากมีจำนวนหุ้นเพิ่มเข้ามา ย่อมส่งผลต่อกำไรที่แบ่งให้เราด้วย

โดยกำไรแต่ละปี บริษัทจะแบ่งเก็บไว้ในรายการ"กำไรสะสม"เพื่อนำไปลงทุนโครงการใหม่ หรือ ขยายธุรกิจ โดยไม่ต้องกู้เงินธนาคาร เพราะเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น มาพร้อมดอกเบี้ยด้วย และอาจทำให้กำไรของบริษัทในระยะถัดไปลดลง

2.มองหาหุ้นปันผลให้ยีลด์ราว 3 - 5% : ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ ตลาดหลักทรพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มองว่า สอดคล้อง กับการลงทุนในหุ้น แต่การจ่ายเงินปันผลต้องสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานของบริษัทด้วย 

ทางตรงกันข้าม หากบริษัทใดจ่ายเงินปันผล ออกมามากเกินกว่าผลการดำเนินงาน อาจส่งผลต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทในอนาคตด้วย

โดยเราสามารถเช็คได้ว่า บริษัทจ่ายเงินปันผลตามนโยบาย ที่ประกาศไว้หรือไม่ ด้วยการนำเงินปันผล/หุ้น (DPS) ที่บริษัทจ่าย หารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ก็จะทราบว่า บริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นสัดส่วนเท่าไรของกำไรสุทธิต่อหุ้นในแต่ละปี ซึ่งวิธีดังกล่าว ยังถือเป็นการตรวจสอบว่า บริษัท สามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ได้หรือไม่ ? อีกด้วย

3.ต้องปันผลสม่ำเสมอ : การเช็คประวัติดังกล่าวของบริษัท ก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน ถือ เป็นการการันตีได้ระดับหนึ่ง ว่า เราจะได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอค่อนข้างแน่

ตลท.ได้แนะนำวิธีการเช็คประวัติการจ่ายเงินปันผลย้อนหลังของบริษัท ควรย้อนดูอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เพราะจะทำให้เรา ได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ในการตัดสินใจมากขึ้นนั่นเอง

4.กระจายการลงทุน ยังคงใช้ได้เสมอ : การเลือกหุ้นปันผล ก็ควรต้องเลือกลงทุนหุ้นหลายเซคเตอร์ เหมือนการลงทุนปกติเช่นกัน เพราะหากเกิดวิกฤติขึ้นมา ถือเป็นเกราะป้องกันชั้นดีให้กับเราได้เลย 

เพราะมีโอกาสน้อยมาก เมื่อเกิดวิกฤติแล้ว หุ้นทุกกลุ่มจะได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด การที่เรามีหุ้นปันผลอยู่ในหลายอุตสาหกรรม ย่อมเป็นตัวการันตีว่า เมื่อมีวิกฤติ เรายังจะได้รับเงินปันผลต่อไป แม้จะลดลงจากภาวะปกติก็ตาม

5.ลงทุนระยะยาว : การลงทุนในหุ้นปันผล มักเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะเงินปันผลที่ได้รับ จะมาจากกำไรในแต่ละปี ซึ่งหากเรามีหุ้นปันผลสูงสม่ำเสมอ แถมพื้นฐานดี แล้วถือหุ้นในระยะยาว ก็จะยิ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้เรา 

เพราะนอกจากเราจะได้รับเงินปันผลระดับสูงทุกปีแล้ว ยังมีโอกาสได้กำไรสองเด้ง จากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเติบโตของบริษัทนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ ก็คือเคล็ดลับไม่ลับในการเลือกลงทุนหุ้นปันผลให้ปัง ที่แอดนำข้อมูลดี ๆ จากตลาดหลักทรัพย์ฯ มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนในวันนี้นะ ก็หวังว่าบทความชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยเช่นเคย







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh