ปี 66 เป็นปีที่หุ้นที่ถูกผลกระทบจากการพร่ระบาดโควิด-19 หลายบริษัท มีความหวังว่า จะได้เห็นผลการดำเนินงานพลิกกำไร ( Turnaround) หลังภาคการท่องเที่ยวไทย ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการเปิดประเทศเต็มที่
ซึ่งโดยปกติแล้ว ธรรมชาติของหุ้น Turnaround มักจะให้ผลตอบแทนในระดับสูงกับนักลงทุน ถึงขั้นอาจพลิกชีวิตบางคนได้เลยทีเดียว ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่จะเริ่มมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่มีความหวังจะพลิกกำไรได้ ตั้งแต่เริ่มเห็นสถานการณ์โควิด-19 ค่อย ๆ ดีขึ้น
แต่ ๆ ในความเป็นจริงแล้ว การพลิกกลับมารายงานกำไรได้อีกครั้งของหุ้นเหล่านั้น ใช่ว่า จะทำได้เหมือนกันทั้งหมด หากนักลงทุนอย่างเรา ๆ เลือกหุ้นผิดขึ้นมา อาจจะทำให้เสียหายถึงขั้นขาดทุนหนักก็ได้ หากผลประกอบการไม่เป็นอย่างที่หวัง
ดังนั้น วันนี้ แอดจึงอยากชวนเพื่อน ๆ ทุกคนมาคุยเกี่ยวกับเทคนิคในการล็อคเป้าเลือกหุ้น Turn Around อย่างแม่นยำ ไม่ให้พลาดเป้า แล้วมาเสียใจทีหลังกันเนอะ !
*** หุ้นงบ Turnaround มีจุดสังเกตุอย่างไร ?
สาเหตุหลัก ๆ ที่บ่งชี้ว่า หุ้นดังกล่าว กำลังจะเป็นหุ้นกำไร Turnaround มักมีข้อสันนิษฐานเช่น เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ยกตัวอย่าง คือ ผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เช่นจากที่เคยขาดทุน 1 หมื่นล้านบาท อาจจะลดลงมาเหลือขาดทุน 1 พันล้านบาทอะไรประมาณนี้
หรือแม้แต่การแสดงงบการเงินที่บ่งชี้ว่าปัญหาที่เคยเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโครงสร้างการเงิน - ประสิทธิภาพการทำกำไรได้ถูกแก้ไขไปแล้ว เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราได้มีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว แล้วพบว่ายังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจจะตีความได้ว่าหุ้นดังกล่าว เป็นหุ้น Turnaround ได้นั่นเอง
อีกจุดสังเกตุ ของหุ้น Turnaround คือ มักจะเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในเชิงปัจจัยพื้นฐาน หรือมีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว เพียงแต่ในบางช่วงเวลาความแข็งแกร่งทางปัจจัยพื้นฐาน หรือความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ อาจไม่สามารถถูกถ่ายทอดออกมาผ่านผลประกอบการได้
ซึ่งอาจเกิดจากเหตุปัจจัยหลายประการ เช่นอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงขาลง, มีข้อจำกัดทางการเงินระยะสั้น, เกิดอุบัติเหตุในกระบวนการดำเนินธุรกิจ, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจ เป็นต้น ต่อเมื่อข้อจำกัดต่าง ๆ หายไป บริษัทก็สามารถพลิกกลับมาทำกำไรอย่างโดดเด่นได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในบางกรณีพบว่าเป็นผลมาจากวัฏจักรการลงทุน ซึ่งหากบริษัทมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งในช่วงเวลาของการลงทุน งบการเงินต้องแบกรับภาระค่อนข้างมาก แต่เมื่อช่วงเวลาของการลงทุนสิ้นสุดลง และเข้าสู่ช่วงการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุน ผลประกอบการก็จะพลิกกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน
ส่วนข้อสังเกตุสุดท้าย คือ ธุรกิจต้องเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสะท้อนได้จาก หลังจากบริษัทพลิกกลับมารายงานกำไรได้แล้ว ผู้บริหาร มีนโยบายในการทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะช่วยรักษาศักยภาพการเติบโตในอนาคตของบริษัทได้หรือไม่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถสะท้อนได้จาก การออกสินค้าใหม่, การรุกตลาดใหม่ หรือขยายฐานลูกค้า เป็นต้น
*** ควรเข้าซื้อหุ้น Turnaround ตอนไหน ?
"เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ให้ทัศนะเกี่ยวกับจังหวะซื้อหุ้น Turnaround ไว้อย่างน่าสนใจว่า หุ้น Turnaround เป็นหุ้นที่ถูกคาดหมายว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หัวใจของความสำเร็จในการลงทุนหุ้นประเภทนี้จึงเป็นเรื่องของการมองหาจุดเปลี่ยนแปลงในทางปัจจัยพื้นฐานของกิจการ
ยิ่งหาจุดเปลี่ยนและสามารถยืนยันถึงความถูกต้องและต่อเนื่องได้ก่อนคนอื่น ผลตอบแทนการลงทุนก็จะสูงขึ้น การที่จะทำเช่นนั้นได้นักลงทุนจะต้องทำงานในลักษณะของ Bottom Up กล่าวคือต้องมีการตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของบริษัทจดทะเบียนอย่างสม่ำเสมอ เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของผลประกอบการรายไตรมาส
เมื่อพบการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างชัดเจนแล้ว จึงใช้เวลาในการศึกษาสาเหตุ หากพบว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของปัจจัยพื้นฐานและมีแนวโน้มความต่อเนื่องของกำไรในระยะยาวแล้ว ก็ต้องพิจารณาราคาหุ้น หากยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน หรือเห็นว่าราคาหุ้นยังไม่สะท้อนตอบการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของปัจจัยพื้นฐานอย่างเต็มที่ ก็สามารถเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวเพื่อการลงทุนได้
แต่ทั้งนี้อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องของสภาพคล่องในการซื้อขายของหุ้นที่ต้องมีมากพอสมควร หาไม่แล้วอาจมีปัญหาในการทำรายการซื้อขายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการลงทุนในจำนวนมาก ๆ
และทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคในการมองหาหุ้น Turnaround ไม่ให้พลาดเป้า ที่แอดนำมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนในวันนี้นะ ก็หวังว่าบทความชิ้นนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยเนอะ สำหรับวันนี้ ไปก่อน บ๊าย บาย ....