ยกเป็นหนึ่งบริษัท ที่เดินหน้าลงทุนสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจ ตลอดปี 2565 สำหรับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ตามคอนเซปต์ "โออาร์ = โอกาส" โดยเฉพาะในกลุ่ม Startup/SME ตามวิสัยทัศน์ Inclusive Growth ที่ได้ตั้งไว้ ผ่านการจับมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในด้าน Lifestyle โดยเฉพาะการตั้ง ORZON Ventures กองทุนเพื่อการลงทุนใน Startup ด้าน Lifestyle และ Mobility ที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตร่วมกันกับ OR รวมถึงการร่วมกองทุนเพื่อการลงทุนใน Startup ด้าน Fin-tech, e-Commerce, Automotive อย่าง Finnoventure Private Equity Trust I
ซึ่งหากจะไล่เรียงภาพการลงทุนของ OR ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์มาเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ก็พอจะสรุปออกมาเป็นกลุ่มธุรกิจ ได้ดังนี้
* กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนและผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็ว่าได้ ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานของ OR ที่เหมาะต่อการต่อยอดธุรกิจในกลุ่มนี้ จึงไม่แปลกใจ ที่เราจะได้เห็น OR ให้ความสนใจลงทุนในธุรนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนในธุรกิจอาหารจะเป็นการเข้าลงทุนผ่าน บริษัทย่อยอย่าง Modulus Venture เป็นส่วนใหญ่
โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา OR ได้เข้าลงทุนใน บจ. ดุสิต ฟู้ดส์ เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดอีกหนึ่งเชนธุรกิจอาหารคุณภาพ จากที่ปี 2564 เข้าลงทุนใน 3 ธุรกิจอาหารชื่อดังไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารโอ้กะจู๋ (เข้าถือหุ้น 20%) ร้านอาหารญี่ปุ่น โคเอ็น ซูชิ (เข้าถือหุ้น 25%) ร้านเครื่องดื่มชา Kamu Kamu (เข้าถือหุ้น 25%) รวมถึงการลงทุนในบริษัท Peaberry Thai หรือ ร้านกาแฟ Pacamara ในช่วงปลายปี 2563 (ปัจจุบันถือหุ้น 81%)
ไม่เพียงเท่านี้อีกหนึ่งดีลที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการธุรกิจเครื่องดื่ม คือ ร่วมลงทุนผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ร่วมลงทุนกับ บจ. บุญรอดฯ หรือกลุ่มสิงห์ ก่อตั้งบริษัทใหม่ในสัดส่วน 50%
* กลุ่ม Startup - เทคโนโลยีดิจิทัล
อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ OR ลงทุนมากพอๆ กับกลุ่มอาหาร นั่นคือ กลุ่ม Startup โดยผ่าน Venture Capital (VC) ของทาง OR ที่ชื่อ "ORZON Ventures" เพื่อค้นหา Startup ได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม OR ได้ สำหรับ Startup ที่ OR ได้เข้าไปลงทุนมีดังนี้
- Pomelo แพลตฟอร์มและแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น
- Carsome แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์
- GoWabi แพลตฟอร์มบริการทางด้านความงามและสุขภาพ
- Protomate ผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยี AI สัญชาติไทย
- Hungry Hub แฟลตฟอร์มจองร้านอาหาร และโรงแรมชั้นนำ
- Hangry สตาร์ตอัปด้านอาหารพัฒนาระบบ Cloud Kitchen
- Freshket แพลตฟอร์มจำหน่ายวัตถุดิบอาหารครบวงจร (เข้าลงทุนผ่าน Modulus Venture และ ORZON Ventures)
- Dezpax สตาร์ทอัพโซลูชันบรรจุภัณฑ์ F&B
ไม่เพียงเท่านี้ ในด้านธุรกิจเทคโนโลยี OR ยังได้ตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ชื่อว่า "ORBIT Digital" โดย OR ถือหุ้น 40% โดยใช้ Digital Capabilities และ Digital Asset ในการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล เนื่องจาก OR มีจุดแข็งจากฐานลูกค้า Blue Card และเครือข่าย PTT Station และ Café AmazonAmazon ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ผนวกกับ Bluebik ซึ่งเป็นบริษัทคอนซัลต์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ยิ่งช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ของ OR ผ่านช่องทางดิจิทัลได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
*กลุ่มธุรกิจบริการ - ท่องเที่ยว
มาดูฝั่งธุรกิจบริการ - ท่องเที่ยว กัน กลุ่มนี้เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ OR ทยอยลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บริการขนส่ง Flash Express เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 8.8% หรือการลงทุนใน Traveloka แพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติอินโดนีเซียสำหรับจองที่พักและเที่ยวบินออนไลน์ ซึ่งเป็นการเข้าลงทุนผ่าน SG HoldCo
ซึ่งในปี 2565 ทาง OR ได้ทุ่มงบถึง 1.1 พันล้านบาท ลงทุนในร้านสะดวกซัก Otteri (อ๊อตเทริ) โดยลงทุนผ่าน Modulus Venture เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 40% เพื่อขยายสู่ธุรกิจใหม่เสริมสร้างศักยภาพธุรกิจค้าปลีก เพิ่มความหลากหลายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค และโอกาสในการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากการลงทุนใน Otteri ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ ที่ทำให้เห็นชัดเลยว่า OR กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังกับธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจพลังงาน และอาหารอย่างแท้จริง
* กลุ่มพลังงาน
ปิดท้ายกันที่กลุ่มพลังงาน OR เองก็ยังคงลงทุนในบริษัทชั้นนำ โดยในไทย ได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ตั้ง Global Aero Associates (GAA) บริการระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ขณะที่ในต่างประเทศ ได้ร่วมลงทุนกับ CNAF และ TOTAL ตั้ง Phnom Penh Aviation Fuel Service (PPAFS) บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานในพนมเปญ โดย PPAFS ทาง OR เข้าลงทุนผ่าน SG HoldCo ถือหุ้นในสัดส่วน 33.33%
ทั้งหมดนี้ คือภาพรวมการลงทุนของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า ในปี 2566 นี้ OR จะสร้างความฮือฮา ด้วยการขยับขยายการลงทุนออกไปในธุรกิจไหนอีกบ้าง โดยเฉพาะในกลุ่ม Startup/SME ที่ OR จะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
เพราะตลอดการลงทุนที่ผ่านมาของ OR เกือบแทบทุกดีลนั้น ถือว่าเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับภาคธุรกิจไทย เพราะไม่ใช่ว่าการลงทุนดังกล่าวจะสร้างโอกาสให้กับ OR เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังเปิดโอกาสให้กับพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ OR ได้เข้าไปร่วม รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตสู่ความยั่งยืนไปพร้อมกัน ตามคอนเซ็ปต์ "โออาร์=โอกาส" นั่นเอง