โบนัสปลายปีใกล้จะออกกันแล้วใช่ไหมเอ่ย ? คงมีแผนกันเต็มไปหมดเลยสินะว่าจะใช้จ่ายอะไรบ้าง...

แต่สำหรับผม โบนัสหลังหักค่าใช้จ่ายจำเป็นและกันเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินแล้ว จะนำเงินที่เหลือส่วนใหญ่ไปลงทุนเพิ่ม เพื่อต่อยอดเงินระยะยาว

ผมตั้งหัวเรื่อง "โบนัสออก อยากลงทุนหุ้น เริ่มไงดี ?" เพราะปีนี้มีหลายชีวิตรอบกายเริ่มมาถามว่า "โบนัสจะออกปลายปี อยากลงทุนในหุ้น ทำไงบ้าง" ?

ซึ่งเบื้องต้นผมแนะนำให้ไปศึกษาหาข้อมูลก่อนแล้วว่าการลงทุนในหุ้นคืออะไร มีประโยชน์หรือความเสี่ยงอะไรบ้าง รวมถึงวิธีการเปิดพอร์ตกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือ โบรกเกอร์ ไปแล้ว

ทีนี้จึงอยากจะแชร์แนวทางในการเลือกหุ้นเพื่อลงทุน ว่าบริษัทที่ดีควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งผมใช้หลักการนี้เสมอ (หมายเหตุ : ไม่ได้คิดเองนะ ศึกษามาจากบรรดากูรู, นักวิเคราะห์ รวมถึงความรู้ต่าง ๆ ที่ ตลาดหลักทรัพย์แชร์มาอีกที)

โดยผมเป็นสายนักลงทุนพื้นฐานนะครับ เพราะเคยใช้เทคนิคละ ไม่รอด ฮ่า ๆ ศึกษาไม่ต่อเนื่องและไม่มีวินัยมากพอในการฝึกฝน สุดท้ายพัง...

เป้าหมายในการซื้อหุ้นของผมคือ ซื้อถือเพื่อลงทุนระยะยาว โดยจะพิจารณาเลือกบริษัท ดังนี้

1.ธุรกิจดี : ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบหรือมีจุดแข็งที่โดดเด่นด้านการแข่งขัน กิจการเติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ 3-5 ปีเป็นอย่างน้อย ทั้งรายได้และกำไร ที่สำคัญความสามารถในการทำกำไรต้องโดดเด่น ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี สะท้อนจากตัวเลขอัตรากำไรสุทธิในระดับสูงมากกว่า 10% ขึ้นไป และมีความสม่ำเสมอใกล้เคียงหรือเติบโตกันต่อเนื่องหลายปี (ไม่ใช่ปีนี้กำไรบาน อีกปีกำไรลด สลับกำไรกระโดด แล้วมาขาดทุน แบบนี้ไม่ดี)

2.ปันผลสม่ำเสมอ : เมื่อธุรกิจดีมีกำไรต่อเนื่อง ก็ต้องจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอด้วย เพราะหัวใจของการลงทุนระยะยาวคือเงินปันผล ที่สร้างกระแสเงินสดให้กับการลงทุนนั้น ๆ ทุก ๆ ปี โดยจะพิจารณาบริษัทที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนระดับ 4% ต่อปีขึ้นไป

3.สภาพคล่องดี หนี้ไม่สูง : แม้ว่าการมีหนี้ถือเป็นเรื่องปกติในการดำเนินธุรกิจ แต่หากมีหนี้มากเกินไป โดยเฉพาะระยะยาว อาจมีปัญหาด้านต้นทุนการเงิน ยิ่งหากวันหนึ่งเกิดวิกฤติฉุกเฉินแล้วขาดสภาพคล่อง จะทำให้มีปัญหาได้ ขณะเดียวกันธุรกิจควรมีเงินทุนหมุนเวียนในมืออย่างเหมาะสม สะท้อนจากมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เพื่อเตรียมพร้อมในการจ่ายหนี้ระยะสั้น รวมถึงสามารถขายสินค้าและเก็บเงินลูกหนี้ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย

4.ผู้บริหารต้องโปร่งใส-มีธรรมาภิบาล : ข้อนี้สำคัญมาก ควรเลือกบริษัทที่มีทีมบริหารที่โปร่งใส ดำเนินงานอย่างเปิดเผย บริหารบริษัทด้วยความซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงไม่มีข่าวในเชิงลบบ่อยๆ เพราะมีให้เห็นบ่อยครั้งที่ธุรกิจดี ๆ ต้องมาพังเพราะผู้บริหารไม่กี่คน ส่วนจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นอย่างไร ก็ต้องศึกษาผลงานย้อนหลัง ค้นหาข้อมูลมาก ๆ เพราะหากผู้บริหารบริษัทนั้น ๆ มีประวัติเชิงลบ มันมีข่าวอยู่แล้ว...

5.ติดตามและทบทวนแผนการลงทุนสม่ำเสมอ : เมื่อเริ่มลงทุนบริษัทไหนไปแล้ว ต้องหมั่นติดตามข้อมูล ซึ่งปกติแต่ละไตรมาสจะมีงานที่เรียกว่า "Opp. Day" ของตลาดหลักทรัพย์ ให้ไปเจอไปฟังข้อมูลจากผู้บริหารอยู่แล้ว ควรไปเป็นประจำ เพื่อทบทวนว่าแนวโน้มหรือแผนธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่เคยตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากด จะได้ปรับพอร์ตทันเวลา

นี่เป็นแนวทางเบื้องต้นที่ผมมักใช้คัดกรองหุ้นเสมอก่อนลงทุน ซึ่งมีตำราและข้อมูลอีกมหาศาลทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ดังนั้นเอาอันนี้ไปเป็นแนวทางศึกษาต่อ ก่อนจะลงทุนก็จะดีไม่น้อย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ อย่ารีบตัดสินใจถ้าไม่ชัวร์ ...