บทความแนะนำ

8 คุณสมบัติใช้บ่งชี้ หุ้นพื้นฐานแกร่งหรือไม่ ?

8 คุณสมบัติใช้บ่งชี้ หุ้นพื้นฐานแกร่งหรือไม่ ?

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่เพิ่งย่างกายเข้ามาในตลาดหุ้น แอดเชื่อเหลือเกินว่า คำถามยอดฮิตของพวกเขาเหล่านี้ที่มักจะเอ่ยถามคนใกล้ชิด หรือกูรูด้านการลงทุน คือ "จะเลือกหุ้นตัวไหนดี"  ใช่ป่ะ ? 

และแน่นอนว่า หนึ่งในคำตอบสุดคลาสสิค ที่พวกเรามักได้ยินกันบ่อย ๆ คือ ควรเลือกหุ้นพื้นฐานแกร่งไว้ก่อนสิ เพราะมันจะทำให้การลงทุนของเราปลอดภัยมากกว่าการลงทุนในหุ้นอื่น ๆ 

แต่รู้หรือไม่ นอกจากหุ้นพื้นฐานแกร่ง จะต้องมีสถานะการเงินที่มั่นคง, กำไรเติบโตสม่ำเสมอแล้ว ควรจะต้องมีคุณสมบัติข้อใดเพิ่มเติม ที่จะช่วยทำให้เราสามารถฟันธงได้ทันที ว่าหุ้นที่เรากำลังเล็งอยู่นั้น เป็นหุ้นพื้นฐานแกร่งของแท้และแน่นอน 

ดังนั้น วันนี้แอดเลยอยากนำข้อมูลดี ๆ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มาแบ่งปันเพื่อน ๆ นักลงทุนมือใหม่ให้ลองนำไปใช้กันดูนะ โดย ตลท. แนะนะว่า หุ้นที่มีปัจจัยทางพื้นฐานแข็งแกร่ง ควรมีคุณสมบัติ 8 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.ธุรกิจมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน : ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์ 1 หรือเบอร์ 2 ของอุตสาหกรรมนั้น ๆ แต่บริษัทควรมีความสามารถหรือมีจุดแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อยราย หรือหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจได้ยากก็ยิ่งดี เพราะบริษัทจะมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูงมากด้วย

2.กิจการเติบโตต่อเนื่อง : บริษัทที่ดีควรมียอดขายหรือรายได้เติบโตต่อเนื่อง 3 - 5 ปี ซึ่งจะเป็นการการันตีว่าธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้ และยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวง่าย ๆ  ที่สำคัญคือ เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์การดำเนินกิจการในอนาคตได้อีกด้วย

3.มีกำไรอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาขาดทุน : บริษัทที่ดีควรมีกำไรสม่ำเสมอในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่กำไรขั้นต้น เรื่อยไปจนถึงกำไรสุทธิ เราควรหลีกเลี่ยงบริษัทที่ขาดทุนต่อเนื่องหรือปีเว้นปี เพราะราคาจะปรับตัวขึ้นได้ยาก

หากบริษัทมีปัญหาดังกล่าว อาจไม่มีเงินเหลือมาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่บางครั้งบริษัทก็อาจขาดทุนจากการนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติม หรือนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว จึงต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป

4.หนี้ต่ำ : การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในการดำเนินธุรกิจ แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ การมีหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ และเกิดปัญหาต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หากวันใดขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาทันที

5.กำไรสะสมเพิ่มต่อเนื่อง : บริษัทที่บริหารงานดี มีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะสะท้อนความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิต และประสิทธิภาพการจัดจำหน่ายที่ดี ทำให้กำไรต่อหน่วยสูงขึ้นตาม ย่อมเป็นผลดีต่อนักลงทุน เพราะกำไรที่เพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลต่อเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นด้วย และยังสามารถนำกำไรไปขยายกิจการให้เติบโตต่อได้อีกด้วย

6.ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี : การบริหารจัดการต้นทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะต้นทุนจะส่งผลโดยตรงต่อกำไร ซึ่งนักลงทุนสามารถดูได้จากงบกำไรขาดทุน โดยกรณีที่ยอดขายเพิ่ม แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ก็ยังพอรับไหว แต่หากยอดขายลดลง สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คงยากเกินจะทำใจ แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังมีปัญหาในการดำเนินงาน

7.สภาพคล่องต้องดี : บริษัทที่ดีต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในมือพอสมควร พูดง่าย ๆ คือ มีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เพื่อเตรียมพร้อมในการจ่ายหนี้ระยะสั้น รวมถึงสามารถขายสินค้าและเก็บเงินลูกหนี้ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย

8.ผู้บริหารต้องโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล : เราควรเลือกบริษัทที่โปร่งใส ผู้บริหารมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย บริหารบริษัทด้วยความซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงไม่มีข่าวในเชิงลบบ่อย ๆ

และทั้งหมดนี้ คือข้อมูลดีๆ จากตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับเทคนิคการค้นหาหุ้นพื้นฐานแกร่งอย่างง่าย ๆ ที่แอดหยิบมาฝากทุกคนในวันนี้เนอะ ก็หวังว่าบทความชิ้นนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยเนอะ สำหรับวันนี้ ไปก่อนแล้ว บ๊าย บาย ....







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh