บทความแนะนำ

เรื่องวุ่น ๆ ของหุ้น MORE และช่องโหว่การซื้อขาย

เรื่องวุ่น ๆ ของหุ้น MORE และช่องโหว่การซื้อขาย

ช่วงนี้ กระแสข่าวหลักในตลาดหุ้นไทย ที่นักลงทุนจับจ้อง คงหนีไม่พ้นการรายงานงบการเงินไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งหลาย เนื่องด้วยประเด็นดังกล่าว สามารถหยิบยกขึ้นมาเป็นปัจจัยเก็งกำไรราคาหุ้นในระยะสั้นได้

ทว่า ช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมา หุ้นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ MORE กับประเด็นข่าว ที่ไม่ใช่การรายงานงบการเงินเติบโตโดดเด่น หรือหดตัวแรงแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องฉาวสนั่น ที่ทำให้หลายฝ่ายต้องมาหารือร่วมหาทางออก

*** เปิดไทม์ไลน์ความฉาวเคสหุ้น MORE

โดยเรื่องฉาวของ MORE เริ่มต้นขึ้น ณ ช่วงเช้าของ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดซื้อ - ขาย แต่หุ้น MORE กลับมีสัญญาณไฟกระพริบ ตั้งคำสั่งซื้อ ATO ที่ราคา 2.9 บาท/หุ้น จำนวน 1.5 พันล้านหุ้น

ทั้ง ๆ ที่ราคาปิดของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.78 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงผิดปกติ จนถูกจับไต๋ได้ว่า นี่คือ การพยายามถล่มขายหุ้น ด้วยการใช้บัญชี Credit Balance ของโบรกเกอร์มาซื้อ - ขาย นั่นเอง 

ซึ่งต่อมา ก็มีหลายสำนักข่าวรายงานตรงกันว่า การกระทำดังกล่าว เกิดขึ้นจากคนกลุ่มหนึ่ง ที่ตระเวนไปเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่าง ๆ เอาไว้ ก่อนที่จะกดคำสั่งซื้อพร้อมกัน 

ทีนี้ เมื่อเรื่องฉาวมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มีโอกาสสูง ที่พวกตัวแสบทั้งหลายจะชิ่งไม่จ่ายค่าเสียหาย (กรณีที่ศาลไม่คุ้มครองคำสั่งซื้อ - ขาย)  ทำให้โบรกเกอร์ต่าง ๆ อาจต้องบังคับขายหุ้น MORE ที่พวกเขาซื้อมา ซึ่งต่อให้ขายออก ก็ขาดทุนยับอยู่ดี เพราะราคาในกระดานตอนนี้ร่วงระนาว เมื่อเทียบกับราคาที่ถูกทำคำสั่งซื้อ 

*** ช่องโหว่อะไร ทำให้เกิดเหตุขึ้น ?

สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ แบบนี้ขึ้น เป็นเพราะยังมีช่องโหว่ทางกฏเกณฑ์ในการบังคับใช้ เพราะการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับขอวงเงินบัญชี Credit Balance จากโบรกเกอร์ สามารถปลอมแปลงเอกสาร หรือหลักฐานค่อนข้างง่าย

ซึ่งอันที่จริง การวางหลักทรัพย์ค้ำประกันบัญชี ควรใช้หลักทรัพย์ 1 ชนิด ต่อโบรกเกอร์ 1 แห่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถนำหลักทรัพย์ 1 ชนิด ตระเวนไปวางค้ำประกันกับทุกโบรเกอร์ได้ทั่วราชอาณาจักรเลยทีเดียว

และยิ่งเป็นยุคที่แต่ละโบรกเกอร์ต่างแย่งลูกค้ากันเลือดสาดแบบนี้ ยิ่งทำให้การขอวงเงินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย และมีขั้นตอนในการตรวจสอบแบบอนุบาลมาก ๆ 

โดยแหล่งข่าวของแอดฯให้ความเห็นว่า ควรมีข้อมูลกลางที่ ตลท. หรือ ก.ล.ต. จัดทำขึ้น สำหรับใช้เช็คข้อมูลเครดิต บูโรของลูกค้าต่าง ๆ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น  

ด้าน "ภากร ปีตธวัชชัย" กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ก็รับลูกต่อว่า หลังจากนี้ จะเร่งหาวิธีปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆเพื่ออุดช่องโหว่ และเอาเหตุการณ์นี้มาเป็นบทเรียนในการดำเนินการป้องกันในอนาคต ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกที 

*** วงการชี้ โบรกเกอร์กระทบไม่หนัก

อย่างไรก็ตาม จากที่แอดฯได้สอบถามแหล่งข่าวใกล้ชิดในแวดวงโบรกเกอร์ ก็ได้ให้ข้อมูลว่า ผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้ส่งผลเสียอย่างมีนัยสำคัญต่อโบรกเกอร์ราว 14 - 20 แห่ง ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในครั้งนี้

เพราะแต่ละโบรกเกอร์ ก็มีเงินสดเพียงพอ และมีสภาพคล่องที่ดีในกรณีที่ต้องจ่ายค่าเสียหายดังกล่าว แต่กลับกัน หากโบรกเกอร์มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ก็อาจทำให้ธุรกิจโบรกเกอร์ในประเทศล้มเป็นโดมิโน่ได้ แต่เชื่อว่า ยังไม่แย่ถึงขั้นนั้น 

ขณะที่ "พิเชษฐ สิทธิอำนวย" นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เสริมว่า มีมาตรการรองรับกรณีหุ้น MORE อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่กำหนดและไม่สามารถชำระเงินได้ จะมีการสืบค้นข้อมูลทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำมาขายและชำระหนี้ ซึ่งหากมูลค่าสินทรัพย์ไม่เพียงพอก็จะทำการส่งฟ้องศาลต่อไป

ส่วนความเสียหายที่จะมีผลต่อสมาชิกบริษัทหลักทรัพย์เมื่อเกิดการผิดนัดชำระนั้น มองว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อยู่ที่ความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทและสถานะกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ของแต่ละบริษัท แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือการให้บริการของสมาชิกจะยังคงดำเนินการได้ปกติ

เมื่อได้ฟังเช่นนี้แล้ว ก็หวังว่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ นักลงทุนที่เคารพรักของแอดฯจะคลายความกังวลต่อประเด็นดังกล่าวไปได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องหมั่นติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเนอะ สำหรับวันนี้ ไปก่อนแล้ว บ๊าย บาย ....



Tags:

MORE




บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh