RS มั่นใจผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 เติบโตจากไตรมาส 1/65 หลังธุรกิจ Commerce ฟื้น และได้แรงหนุน " ULife " วางเป้า 3 ปี ขึ้นแท่นติด 1 ใน 5 ธุรกิจขายตรงในประเทศ พร้อมผลักดันเข้าตลาดหุ้น แย้มครึ่งปีหลัง เล็งหาแนวทางดันเหรียญ "Popcoin" เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

  นายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 จะเติบโตขึ้นจากไตรมาส 1/65 เนื่องจากได้รับแรงหนุนของธุรกิจ Commerce ที่มีการฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับ บริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เในทุกไลน์สินค้า

  นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้เข้าซื้อธุรกิจขายตรง ULife จากยูนิลีเวอร์ ในเดือนเม.ย. ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีการรับรู้รายได้ และ การดำเนินการตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาหนุนยอดขายในช่วงไตรมาส 2/65 และ ช่วยผลักดันการเติบโตขึ้นของผลงานในภาพรวมของบริษัท โดยธุรกิจขายตรง Ulife ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ขึ้นเป็นอันดับ 5 ของธุรกิจขายตรงในประเทศภายใน 3 ปีข้างหน้า และจะมีแผนเตรียมเข้าตลาดหุ้นในระยะถัดไป

  สำหรับธุรกิจบริหารจัดการลิขสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 2/65 ยังคงทำได้ดีมาต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 โดยที่ยังมีรายได้จากค่าโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ในในธุรกิจบริหารจัดการลิขสิทธิ์อยู่ที่ 200-250 ล้านบาท

  “บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด คาดจะเข้าตลาดหุ้นในช่วงไตรมาส 4/65 โดยช่วงปลายไตรมาส 2/65 หรือ ต้นไตรมาส 3/65 เตรียมการยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. ขายหุ้นสามัญ IPO โดยในส่วนของ RS จะได้รับเงินเข้ามาเสริมเป็นกำไรพิเศษ และ นำเงินไปคืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงินต่อไป”นายวิทวัส กล่าว

  ส่วนธุรกิจ Entertainment ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการจัดงานอีเว้นท์ และ คอนเสิร์ตใหญ่ 3-4 งาน ซึ่งจะมีรายได้เข้ามาเพิ่มเติมจากธุรกิจดังกล่าว หลังจากที่ชะลอไปในช่วงการแพร่ระบาดโควิด และ อยู่ระหว่างการหาแนวทางในการผลักดันให้เหรียญ Popcoin มีการเข้าไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท

  ปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 500-1,000 ล้านบาท โดยใช้ไปแล้ว 800-900 ล้านบาท และยังเตรียมเปิดตัวความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาหลายราย