JWD หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 12-15% จากเดิมคาดโต 20% หลังเจอพิษเทรดวอร์-เงินบาทแข็ง ยันผลงาน Q4/62 แจ่มสุด เข้าไฮซีซั่น-ไร้ผลขาดทุนบ.ย่อย ปี 63 คาดรายได้โต 10% หาโอกาสการเข้าซื้อกิจการและร่วมทุนกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด(มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยกับ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 12-15% จากเดิมที่โต 20% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ดีขึ้น โดยมีผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯส่งผลให้ลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้การแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากต่างประเทศของบริษัทได้รับผลกระทบ
"การปรับเป้าหมายรายได้ลง เป็นการปรับตามภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี โดยพื้นฐานของธุรกิจยังคงมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่เราต้องยอมรับว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯแม้ว่าจะไม่ส่งกระทบทางตรงแก่บริษัท แต่ยังคงมีผลทางอ้อมอยู่บ้าง และค่าเงินบาทที่แข็งค่านั้น เรามีวิธีรับมืออย่างการพักสกุลต่างประเทศไว้ในประเทศนั้นๆ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน"นายเอกพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม
แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 บริษัทคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และประกอบบริษัทได้ทำการขายหุ้นทั้งหมด ในบริษัท โอเชี่ยน แอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (OAI) ซึ่งดำเนินธุรกิจตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทางทะเล ทางอากาศ (Freight Forwarding)ทำให้จะไม่การรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทดังกล่าวอีกต่อไป
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 63 บริษัทคาดว่าจะสรุปได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยในเบื้องต้นคาดรายได้จะเติบโตได้ 10% ตามการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยธุรกิจหลัก รวมทั้งมองหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการและร่วมทุนกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
กรณีที่มีราชกิจจานุเบกษาประกาศ วิธีปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ. เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(E-Commerce) ภายในเขตพื้นที่ EEC 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรานั้น บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาถึงประโยชน์ที่จะได้รับหากเข้าไปลงทุนคลังสินค้าให้เช่า เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีคลังสินค้าให้เช่าในพื้นที่ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่พัฒนาคลังสินค้าแห่งใหม่ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่บางนา โดยหากศึกษาแล้วเห็นพื้นที่ใน EEC ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าก็อาจจะไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวแทน ซึ่งบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาในEEC อยู่มากกว่า 15 ไร่
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ออกบทวิเคราะห์ ระบุ รัฐออกกฎหมายปลอดภาษีในพื้นที่ EEC กระตุ้นการลงทุนเอกชน ดีต่อ JWD โดยความคาดหวังตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะมาจาก การลงทุน(I) ราว 23%ของ GDP หลังจากกลางปี 2562 รัฐบาลยังคงเดินหน้าออกมาตรการเพื่อดึงดูดการลงทุนการลงทุนเอกชนอาทิ Thailand Plus Package อาทิ มาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปีแต่ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ปี 2563 , การปรับปรุง พรบ. คนต่างด้าว และการจัดหาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับต่างชาติ
ล่าสุด 29 ต.ค.62 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ วิธีปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ. เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(E-Commerce) ภายในเขตพื้นที่ EEC 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ASPS เชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุน อำนวยความสะดวก และดึงดูดต่อภาคธุรกิจ Logistic, คลังสินค้า
|