กองทุนทองคำผลตอบแทนแจ่มสุดในอุตสาหกรรม เฉลี่ย 23.18% หลังราคาทองพุ่งทะยานทุบสถิติตลอดกาล เหตุเม็ดเงินโยกเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย หนีภัยโควิด-19 ดอลลาร์อ่อนค่า เปิดโผ TOP 5 กองทุนทองคำผลงานเด่น แจกยีลด์สูงสุด 38% แต่วงการเตือนระวังแรงขายทำกำไร
*** กองทุนทองคำผลตอบแทนสูงสุด 23.18%
"ชญานี จึงมานนท์" นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยผลตอบแทนอุตสาหกรรมกองทุนรวมครึ่งแรกปี 63 พบว่า กองทุนทองคำ (Commodities Precious Metals) เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด โดยผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 23.18% ขณะที่ผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปี (Year to date) อยู่ที่ 17.42% รองลงมาคือกองทุนกลุ่ม Global Technology ผลตอบแทน 1 ปีอยู่ที่ 22.99% และผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 14.85%
ด้านกองทุนหุ้นไทยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-cap) ผลตอบแทน 1 ปีติดลบ 20.50% ผลตอบแทน YTD ติดลบ 14.51% ส่วนกองทุนหุ้นไทยขนาดเล็ก/กลาง (Equity Small/Mid Cap) ผลตอบแทน 1 ปีติดลบ 15.37% และผลตอบแทน YTD ติดลบ 8.83%
ผลตอบแทนกองทุนรวม H1/63
|
TOP 5 ผลตอบแทนสูงสุด
|
TOP 5 ผลตอบแทนต่ำสุด
|
ประเภทกองทุน
|
1 ปี (%)
|
YTD (%)
|
ประเภทกองทุน
|
1 ปี (%)
|
YTD (%)
|
Commodities Precious Metals
|
23.18
|
17.42
|
Commodities Energy
|
-43.18
|
-46.41
|
Global Technology
|
22.99
|
14.85
|
Equity Large-Cap
|
-20.5
|
-14.51
|
Global Health Care
|
14.07
|
4.45
|
Asian Equity
|
-20.46
|
-17.26
|
Global Equity
|
7.06
|
0.61
|
Equity Fix Term
|
-20.16
|
-14.15
|
China Equity
|
4.85
|
-0.68
|
India Equity
|
-16.86
|
-16.08
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
|
ขณะเดียวกันกองทุนทองคำให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 5.6% ต่อปี เป็นรองเพียงกลุ่มกองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ (Property Indirect) ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.32% ส่วนกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่และหุ้นไทยขนาดเล็ก/กลาง ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปี ติดลบที่ 0.33% และ 0.87% ตามลำดับ
นักวิเคราะห์จาก "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช" ระบุว่า รอบ 1 ปีที่ผ่านมาสินทรัพย์ประเภททองคำถือเป็นดาวเด่นด้านผลตอบแทน โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนหลัง ที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25% จนขึ้นไปทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 31 ก.ค.ที่ผ่านมา พุ่งไปถึง 2,005.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange)
ด้านกองทุนทองคำระดับโลกอย่าง SPDR Gold Shares (กองทุน ETF ที่กองทุนรวมทองคำไทยส่วนใหญ่เข้าลงทุน) มีเงินไหลเข้าสุทธิมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินกองทุนสูงขึ้นราว 30%
*** เปิดโผ Top 5 กองทุนทองคำผลตอบแทนแจ่ม
นักวิเคราะห์จาก "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช" ระบุว่า รอบ 1 ปีที่ผ่านมาสินทรัพย์ประเภททองคำถือเป็นดาวเด่นด้านผลตอบแทน โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนหลัง ที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25% จนขึ้นไปทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 31 ก.ค.ที่ผ่านมา พุ่งไปถึง 2,005.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange)
ด้านกองทุนทองคำระดับโลกอย่าง SPDR Gold Shares (กองทุน ETF ที่กองทุนรวมทองคำไทยส่วนใหญ่เข้าลงทุน) มีเงินไหลเข้าสุทธิมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินกองทุนสูงขึ้นราว 30%
ข้อมูลจาก "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช" มีกองทุนรวมทองคำที่จดทะเบียนเกิน 6 เดือนทั้งหมด 40 กองทุน ปรากฏว่า ครึ่งแรกของปีนี้ให้ผลตอบแทนเกิน 20% ทุกกอง ต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 21.05% สูงสุดอยู่ที่ 24.72% โดยกองฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
TOP 5 กองทุนทองคำผลตอบแทนสูงสุด H1/63
|
ชื่อกองทุน
|
บลจ.
|
%ผลตอบแทน
|
ธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ
|
ธนชาต
|
24.72
|
ธนชาตทองคำแท่ง
|
ธนชาต
|
24.63
|
ทหารไทย โกลด์ ฟันด์
|
ทหารไทย
|
24.07
|
ไทยพาณิชย์โกลด์
|
ไทยพาณิชย์
|
23.6
|
ยูโอบี สมาร์ท โกลด์
|
ยูโอบี
|
23.49
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
|
ส่วน 5 กองทุนทองคำที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดรอบ 1 ปี ได้แก่
TOP 5 กองทุนทองคำผลตอบแทนสูงสุด 1 ปี
|
ชื่อกองทุน
|
บลจ.
|
%ผลตอบแทน
|
ธนชาตทองคำแท่ง
|
ธนชาต
|
38.04
|
ธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ
|
ธนชาต
|
37.26
|
ทหารไทย โกลด์ ฟันด์
|
ทหารไทย
|
36.96
|
ไทยพาณิชย์โกลด์
|
ไทยพาณิชย์
|
36.34
|
กองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ
|
ฟิลลิป
|
35.77
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
|
ขณะที่กองทุนทองคำที่ให้ผลตอบแทน 3 ปีย้อนหลังเฉลี่ยต่อปีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
TOP 5 กองทุนทองคำผลตอบแทนสูงสุด 3 ปี
|
ชื่อกองทุน
|
บลจ.
|
%ผลตอบแทนต่อปี
|
ธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ
|
ธนชาต
|
13.39
|
พรินซิเพิล โกลด์ 8 เปอร์เซ็นต์ ทริกเกอร์
|
พรินซิเพิล
|
13.39
|
ธนชาตทองคำแท่ง
|
ธนชาต
|
13.36
|
ไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์
|
ไทยพาณิชย์
|
13.16
|
เค โกลด์-A
|
กสิกร
|
13.02
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
|
สำหรับกองทุนทองคำที่มีผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังเฉลี่ยต่อปีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
TOP 5 กองทุนทองคำผลตอบแทนสูงสุด 5 ปี
|
ชื่อกองทุน
|
บลจ.
|
%ผลตอบแทนต่อปี
|
พรินซิเพิล โกลด์ 8 เปอร์เซ็นต์ ทริกเกอร์
|
พรินซิเพิล
|
11.16
|
ธนชาตทองคำแท่ง
|
ธนชาต
|
10.89
|
ธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ
|
ธนชาต
|
10.87
|
ไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์
|
ไทยพาณิชย์
|
10.83
|
เค โกลด์-A
|
กสิกร
|
10.34
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
|
ทั้งนี้ กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง และ กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ ติดโผในลำดับต้นๆ กองทุนทองคำที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดทั้งระยะสั้นและระยะยาว
*** ทองคำ = สินทรัพย์ปลอดภัย
"จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ตั้งแต่ปีก่อน ต่อเนื่องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวรุนแรง หลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่เร่งจัดทำมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความกังวลเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงสุด
โดยตั้งแต่ต้นปีกองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง SPDR ได้มีการเข้ามาซื้อทองคำแท่งไปแล้ว 315 ตัน ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ "วรุต รุ่งขำ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด มองว่า นักลงทุนทั่วโลกแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ความอ่อนแอของค่าเงินดอลลาร์ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนทิศทางเชิงบวกให้กับราคาทองคำ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และมีแนวโน้มปรับตัวลดลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี
*** ระวังแรงขายทำกำไร
"สมชัย อมรธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย แนะนำ ใช้จังหวะที่ราคาทองคำอยู่ในระดับสูง เพื่อขายทำกำไรเพื่อปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม โดยมองว่า สถานการณ์อาจพลิกกลับในช่วงถัดไปได้ หากวัคซีนโควิด-19 เริ่มชัดเจนและเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง และจะส่งผลให้มีแรงขายแรงจนทำให้ราคาผันผวนได้
"ชญานี จึงมานนท์" เพิ่มเติมว่า แนวโน้มกองทุนทองคำปีนี้มีแนวโน้มจะเป็นเงินไหลออกสุทธิต่อเนื่องจากปีก่อน เพราะจะมีแรงขายทำกำไรมากกว่าแรงซื้อ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงมาก ส่งผลต่อข้อจำกัดด้านอัพไซด์ โดยให้น้ำหนักการลงทุนในลักษณะของการลดความเสี่ยงบางส่วน มากกว่าถือเป็นส่วนสำคัญของพอร์ต นักลงทุนที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนทองคำในพอร์ตควรระมัดระวังกับภาวะตลาดที่ราคาปรับขึ้นเร็วและร้อนแรงจนทำให้อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมา
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ระบุว่า สำหรับการลงทุนใน GOLD Future ให้ใช้กลยุทธ์ Trading เป็นหลัก ภายใต้กรอบราคาทองคำ 1,850-2,050 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนไม่เกิน 3 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะหากสถานการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายในเชิงบวก เช่น พัฒนาการของวัคซีน, ดอลลาร์ชะลอการอ่อนค่า รวมถึงกองทุน SPDR ลดการถือครอง ก็อาจจะมีแรงขายออกมาได้
เช่นเดียวกับ นายกสมาคมค้าทองคำ เสริมว่า สำหรับผู้ที่จะซื้อทองคำแท่งและทองรูปพรรณให้รอดูสถานการณ์ก่อน หลังจากราคาขายในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เฉียด 30,000 บาท/บาททองคำ เพราะอาจจะมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันออกมา ส่วนผู้ที่ถือทองคำอยู่ถือเป็นจังหวะที่สามารถแบ่งขายทำกำไรได้