"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจพอร์ต "นักลงทุนรายใหญ่" หรือ "เซียนหุ้นชื่อดัง" ของไทย พบว่ามูลค่ารวมปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามจำนวนหุ้นลดลงเหลือ 111 บริษัท จาก 130 บริษัท ขณะที่พอร์ตของนักลงทุนส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเรียงลำดับจากเซียนหุ้นที่มีมูลค่าพอร์ตรวมสูงสุดดังนี้
*** อันดับ 1. "นิติ โอสถานุเคราะห์"
"นิติ" นักลงทุนระดับตำนาน หนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ยุคบุกเบิก เป็นเจ้าของพอร์ตที่มีมูลค่ามหึมา โดย ณ ราคาหุ้น 4 เม.ย.62 เขามีมูลค่าพอร์ตถึง 4.4 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าพอร์ตประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 47%
สาเหตุสำคัญจากการที่ บมจ.โอสถสภา (OSP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง "นิติ" ถือหุ้นสัดส่วน 16.28% คิดเป็นมูลค่า ณ ราคาหุ้นวันที่ 4 เม.ย.62 ถึง 1.4 หมื่นล้านบาท
ส่วนบริษัทอื่นยังถืออยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน ดังนี้
พอร์ตหุ้น “นิติ โอสถานุเคราะห์”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
OSP
|
489.08
|
16.28
|
14,061
|
MINT
|
365.95
|
7.92
|
13,815
|
HMPRO
|
621.42
|
4.73
|
9,508
|
CPN
|
49.57
|
1.1
|
3,619
|
CENTEL
|
36.13
|
2.68
|
1,581
|
BKI
|
2.22
|
2.09
|
723
|
TFMAMA
|
3.33
|
1.01
|
537
|
SNP
|
4.8
|
0.98
|
92
|
IRC
|
3.84
|
1.92
|
73
|
OGC
|
0.35
|
1.63
|
12
|
SE-ED
|
4.42
|
1.13
|
12
|
รวม
|
44,031
|
*** อันดับ 2."ทวีฉัตร จุฬางกูร"
"ทวีฉัตร" เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นหลายบริษัท ล่าสุดถือเกิน 0.5% ถึง 41 บริษัท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ถืออยู่ 38 บริษัท โดยมูลค่าพอร์ตรวม ณ ราคาหุ้น 4 เม.ย.62 อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยซึ่งทำได้ 1.15 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ หุ้นที่เพิ่มมาประกอบด้วย 1.บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) 2.บมจ.ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์ (F&D) และ บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) ส่วนหุ้นบริษัทอื่นๆมีสัดส่วนการถือครองใกล้เคียงปีก่อน ดังนี้
พอร์ตหุ้น “ทวีฉัตร จุฬางกูร”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
AIRA
|
1,370.5
|
21.7
|
1,974
|
BEC
|
230.23
|
11.51
|
1,520
|
NOK
|
650.9
|
20.94
|
1,432
|
GRAMMY
|
133.1
|
16.23
|
1,105
|
NNCL
|
506.01
|
24.7
|
931
|
LANNA
|
66.49
|
12.66
|
745
|
OISHI
|
7.89
|
4.21
|
647
|
SAFARI
|
220
|
9.9
|
528
|
CI
|
247.85
|
23.24
|
322
|
TSC
|
21.2
|
8.16
|
274
|
SE-ED
|
97.95
|
24.99
|
261
|
SAMART
|
25.65
|
2.55
|
194
|
MM
|
57.53
|
5.45
|
193
|
SST
|
34.13
|
7.49
|
157
|
ALT
|
47.81
|
4.71
|
142
|
MODERN
|
28.18
|
3.76
|
104
|
SUSCO
|
30.31
|
2.76
|
88
|
AMATAV
|
15.8
|
1.69
|
82
|
SDC
|
222.54
|
1.97
|
76
|
FN
|
37.71
|
3.77
|
74
|
ITD
|
32.06
|
0.61
|
72
|
JCKH
|
68.4
|
10.94
|
68
|
ASAP
|
20.07
|
2.76
|
58
|
MALEE
|
6.74
|
2.41
|
49
|
APURE
|
36.9
|
3.85
|
48
|
AUCT
|
7.68
|
1.4
|
46
|
KASET
|
21.23
|
7.64
|
41
|
TVT
|
38.44
|
4.8
|
41
|
GSTEL
|
271.22
|
3.96
|
35
|
TNR
|
2.76
|
0.92
|
35
|
PE
|
196
|
24.5
|
33
|
AS
|
40
|
9.76
|
32
|
KOOL
|
21.54
|
4.49
|
30
|
KKC
|
24.8
|
2.07
|
30
|
ZMICO
|
27
|
1.63
|
29
|
AF
|
33.3
|
2.08
|
22
|
MPG
|
40.23
|
4.11
|
21
|
WAVE
|
7.81
|
1.67
|
16
|
GCAP
|
5.34
|
2.67
|
13
|
F&D
|
0.7
|
3.97
|
13
|
RICH
|
110
|
4.58
|
8
|
รวม
|
11,584
|
*** อันดับ 3."นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"
"นพ.พงศ์ศักดิ์" ยังคงมีมูลค่าพอร์ตรั้งอันดับ 3 เช่นเคย แต่ปีนี้เหลือถือหุ้นเกิน 0.5% เพียง 3 บริษัท จากปีก่อน 4 บริษัท โดยหุ้นตัวหลักยังเป็น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) และ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ส่วนหุ้นที่ไม่ปรากฏในพอร์ตแล้วคือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) และ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) แต่มีหุ้น บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) เพิ่มขึ้นมา
ทั้งนี้มูลค่าพอร์ตรวมลดลงเหลือ 6,747 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8,085 ล้านบาท ซึ่งหุ้น PTG-TKN ที่ขายออกไปมีมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท
พอร์ตหุ้น “น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
CPALL
|
47.25
|
0.53
|
3,555
|
COM7
|
168.28
|
14.02
|
3,096
|
TCMC
|
29.86
|
3.91
|
95
|
รวม
|
6,747
|
*** อันดับ 4.ครอบครัว "เหมวชิรวรากร"
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และครอบครัว ขยับจากอันดับที่ 5 ในปีก่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มูลค่าการถือหุ้นรวม 5,855 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่ารวม 6,360 ล้านบาท เกิดจากราคาหุ้นที่ลดลงหลายบริษัท โดยยังถือหุ้นรวม 9 บริษัทสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน
พอร์ตหุ้น “ครอบครัวเหมวชิรวรากร”
|
ถือโดย “นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
TCAP
|
14
|
1.2
|
746
|
QH
|
100
|
0.93
|
302
|
BAFS
|
5
|
0.78
|
178
|
EASTW
|
10
|
0.6
|
113
|
METCO
|
0.12
|
0.57
|
14
|
ถือโดย “พิสชา เหมวชิรวรากร”
|
TCAP
|
7
|
0.6
|
373
|
BCP
|
8
|
0.58
|
262
|
BCPG
|
12
|
0.6
|
198
|
QH
|
60
|
0.56
|
181
|
IRC
|
5.4
|
2.7
|
103
|
ถือโดย “เพาพิลาส เหมวชิรวรากร”
|
CPALL
|
45
|
0.5
|
3,386
|
รวม
|
5,855
|
*** อันดับ 5."นเรศ งามอภิชน"
ปีนี้ "นเรศ" อันดับหล่นมาอยู่ที่ 5 จากมูลค่าพอร์ต 7,250 ล้านบาท เหลือ 5,554 ลดลงราว 23% เกิดจากราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวลดลง โดยยังถือหุ้น 11 บริษัทสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน
พอร์ตหุ้น “นเรศ งามอภิชน”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
TPIPL
|
1,272
|
6.3
|
2,544
|
MACO
|
711
|
17.23
|
1,038
|
ORI
|
122
|
5
|
839
|
TPIPP
|
83.2
|
0.99
|
503
|
ROJNA
|
42.97
|
2.13
|
214
|
ITEL
|
41.6
|
4.16
|
139
|
JMT
|
8.33
|
0.94
|
116
|
TTA
|
10
|
0.55
|
53
|
SAMART
|
6
|
0.6
|
45
|
PORT
|
8.3
|
1.8
|
38
|
MM
|
7.5
|
0.71
|
25
|
รวม
|
5,554
|
*** อันดับ 6."สถาพร งามเรืองพงศ์"
"สถาพร" ถือหุ้น 2 บริษัทเช่นเดิม มูลค่าพอร์ตใกล้เคียงกับปีก่อน แต่มีการเปลี่ยนหุ้นที่ถือ 1 บริษัท คือ ไม่ปรากฎการถือหุ้น บมจ.อาร์เอส (RS) ซึ่งเคยถือ 3.33% มูลค่าราว 800 ล้านบาท ล่าสุดมีหุ้น บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS เข้ามาแทน
พอร์ตหุ้น “สถาพร งามเรืองพงศ์”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
KTC
|
128.51
|
4.98
|
4,594
|
AEONTS
|
4.91
|
1.96
|
876
|
รวม
|
5,470
|
*** อันดับ 7."วิชัย วชิรพงศ์"
"เสี่ยยักษ์" เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 8 มูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 4,267 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3,664 ล้านบาท โดยถือหุ้น 6 บริษัทในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น
พอร์ตหุ้น “วิชัย วชิรพงศ์”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
BEM
|
402.66
|
2.63
|
3,946
|
ITD
|
68.61
|
1.3
|
154
|
QTC
|
14.4
|
4.22
|
74
|
PACE
|
284.97
|
2.37
|
63
|
META
|
17.43
|
1.37
|
30
|
รวม
|
4,267
|
*** อันดับ 8.“ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา”
เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 11 แม้มูลค่าพอร์ตลดลงเหลือ 1,370 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1,616 ล้านบาท จากราคาหุ้นหลายบริษัทที่ปรับตัวลดลง โดยมีการปรับพอร์ตหลายบริษัท ขายหุ้น บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) และ บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) ที่เคยถือมูลค่ารวมราว 80 ล้านบาทออก เพิ่ม บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO), บมจ.โรงพยาบาลราชพฤกษ์ (RPH), บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) และ บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) มูลค่ารวมประมาณ 149 ล้านบาท
พอร์ตหุ้น “ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
TPIPP
|
82.09
|
0.98
|
497
|
JMT
|
31.71
|
3.57
|
441
|
BCH
|
13.04
|
0.52
|
224
|
CHAYO
|
21.15
|
3.78
|
90
|
D
|
7.21
|
3.6
|
52
|
RPH
|
6.87
|
1.26
|
33
|
EKH
|
3.89
|
0.65
|
22
|
HYDRO
|
9.98
|
1.69
|
7
|
ASN
|
1.2
|
0.93
|
4
|
รวม
|
1,370
|
*** อันดับ 9. "ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์"
หล่นจากอันดับ 7 มูลค่าพอร์ตเหลือเพียง 2,422 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที 4,871 ล้านบาท ลดลง 49% เหลือหุ้นในพอร์ต 5 บริษัท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 7 บริษัท โดยหุ้นที่ขายออกคือ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) และ บมจ.ดู เดย์ ดรีม (DDD) ซึ่งราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงปีก่อน
พอร์ตหุ้น “ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
CBG
|
41.1
|
4.11
|
2,148
|
COM7
|
8.47
|
0.71
|
156
|
AUCT
|
8.1
|
1.47
|
49
|
SPA
|
3
|
0.53
|
41
|
FSMART
|
4.1
|
0.51
|
29
|
รวม
|
2,422
|
*** อันดับ 10. "โสรัตน์ วณิชวรากิจ"
"เสี่ยเคน" นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ยังคงถือเพียง บมจ.อาร์เอส (RS) โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ถือหุ้นสัดส่วน 11.19% แต่มูลค่าลดลงเหลือ 2,113 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2,710 ล้านบาท
*** อันดับ 11. "สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล"
"เสี่ยปู่" หล่นจากอันดับ 9 มูลค่าพอร์ตเหลือ 2,100 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3,224 ล้านบาท ลดลง 35% โดยถือหุ้น 14 บริษัท สัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน แต่หุ้นหลายบริษัทราคาปรับตัวลดลงแรง โดยเฉพาะ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) จากช่วงเดียวกันของปีก่อนราคากว่า 60 บาท ล่าสุดเหลือเพียง 22 บาท ซึ่งได้ตัดขายไปกว่า 2% จากเดิมถือ 2.66% ล่าสุดเหลือเพียง 0.66%
เช่นเดียวกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จากราคาหุ้น 19 บาท เหลือเพียง 6.90 บาท ซึ่ง "เสี่ยปู่" ซื้อเพิ่มด้วยปัจจุบันถือ 5.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 4.76% แต่มูลค่ากลับลดลง จากราว 1,471 ล้านบาท เหลือเพียง 928 ล้านบาท ส่วนหุ้นบริษัทอื่นประกอบด้วย
พอร์ตหุ้น “สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
ORI
|
135.43
|
5.53
|
928
|
CKP
|
0.97
|
0.97
|
359
|
BROCK
|
12.23
|
12.23
|
253
|
GL
|
1.22
|
1.22
|
125
|
SGF
|
70
|
0.53
|
91
|
AJ
|
2.46
|
2.46
|
86
|
WORK
|
2.89
|
0.65
|
63
|
SAPPE
|
2.94
|
0.97
|
56
|
MM
|
12.07
|
1.15
|
41
|
RSP
|
10.25
|
1.33
|
36
|
SST
|
5.21
|
1.14
|
24
|
ICN
|
2.76
|
2.76
|
24
|
APEX
|
1
|
1
|
8
|
GREEN
|
0.65
|
0.65
|
6
|
รวม
|
2,100
|
*** อันดับ 12."พีรนาถ โชควัฒนา"
"พีรนาถ" รั้งอันดับ 12 เช่นเดิม ถือหุ้น 5 บริษัทในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน มูลค่าลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 520 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที 537 ล้านบาท
พอร์ตหุ้น “พีรนาถ โชควัฒนา”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
ANAN
|
83.21
|
2.5
|
305
|
JMART
|
17.40
|
2.37
|
137
|
PREB
|
5.16
|
1.67
|
55
|
JUBILE
|
1.32
|
0.75
|
19
|
J
|
2.93
|
0.61
|
3
|
รวม
|
520
|
*** อันดับ 13."อนุรักษ์ บุญแสวง"
"โจ ลูกอีสาน" อดีตนายกสมาคม VI มูลค่าพอร์ตลดลงเหลือ 112 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 283 ล้านบาท ลดลงถึง 60% จากการสอบถามพบว่าได้มีการปรับพอร์ตหลายบริษัท เน้นกระจายการลงทุน ไม่กระจุกอยู่ที่หุ้นใดมากเกินไป เพราะมีความเสี่ยงสูง โดยปัจจุบันถือหุ้นอยู่มากกว่า 50 บริษัท ส่วนใหญ่ถือสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ทำให้ข้อมูลที่ปรากฏปัจจุบันมูลค่าจึงลดลงค่อนข้างมาก แต่พอร์ตรวมผลตอบแทนยังใกล้เคียงกับตลาดฯ
พอร์ตหุ้น “อนุรักษ์ บุญแสวง”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
จำนวน (ล.หุ้น)
|
%ถือหุ้น
|
มูลค่า (ลบ.)
|
TPOLY
|
13.19
|
2.3
|
38
|
TCMC
|
5.34
|
0.7
|
17
|
D
|
2.02
|
1.01
|
15
|
WIIK
|
6.47
|
1.72
|
13
|
TCJ
|
1.96
|
1.86
|
10
|
SKE
|
4.85
|
0.52
|
5
|
SVOA
|
4.26
|
0.6
|
5
|
MVP
|
1.97
|
0.99
|
4
|
ABM
|
3.77
|
1.26
|
4
|
SE
|
1.33
|
0.55
|
3
|
รวม
|
112
|
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นสำรวจจากการถือครองหุ้นในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีสัดส่วนตั้งแต่ 0.5% ขึ้นไป ซึ่งจะเปิดเผยโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยเป็นข้อมูล ณ ช่วงปิดสมุดทะเบียนงวด ม.ค.-มี.ค.62 ซึ่งบางบริษัทอาจจะถูกขายออกไปแล้ว หรืออาจจะถือหุ้นบริษัทอื่นอีก แต่มีสัดส่วนการถือครองไม่ถึง 0.5% ขณะที่มูลค่าการถือครองคิดจากราคาหุ้น ณ วันที่ 4 เม.ย.62