โบรกเกอร์คาดหุ้นไทยปี 64 ลุ้นทะยานในกรอบ 1,540- 1,670 จุด รับเงินนอกไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ หลังสภาพคล่องล้นระบบจากการอัดฉีดเม็ดเงินจากธนาคารกลางทั่วโลก มองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ช่วยหนุนเศรษฐกิจคลายกังวลและฟื้นตัว ประเมินกำไร บจ.เฉลี่ย 80 บาท/หุ้น โต 38% จากปีนี้ที่ฐานต่ำ แนะธีมลงทุนหุ้นใหญ่รับอานิสงค์เศรษฐกิจฟื้น-นักลงทุนต่างชาติจ้องซื้อ พร้อมคัด 26 หุ้น Top Pick น่าเก็บ
*** 7 โบรกฯ ให้เป้า SET ปี 64 ที่ 1,540 - 1,670 จุด
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2564 จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 7 แห่ง พบว่า ให้เป้าดัชนี SET Index ปี 64 อยู่ที่ 1,540 - 1,670 จุด ดังนี้
เป้า SET Index และ กำไร บจ.ปี 64
|
บริษัทหลักทรัพย์
|
เป้าดัชนี (จุด)
|
กำไร บจ. (บ./หุ้น)
|
%chg กำไร บจ.
|
กรุงศรี
|
1,670
|
80
|
48
|
โกลเบล็ก
|
1,650
|
85
|
15
|
ฟินันเซียฯ
|
1,600
|
77
|
44
|
เมย์แบงก์ฯ
|
1,600
|
84
|
52
|
ไอร่า
|
1,585
|
76.28
|
30
|
ฟิลลิป
|
1,550
|
77
|
30
|
หยวนต้า
|
1,540
|
78
|
47
|
"อาทิตย์ จันทร์สว่าง" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ประเมินดัชนี SET Index ปี 64 ที่ 1,670 จุด โดยมองว่าช่วงไตรมาส 1/64 ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,550 จุด จากปัจจัยบวกที่ "โจ ไบเดน" เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันวิด-19
ด้าน "วิลาสินี บุญมาสูงทรง" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินเป้า SET Index ปี 64 ที่ 1,650 จุด โดยมีปัจจัยบวกคือนโยบายขึ้นภาษีบริษัทในสหรัฐฯ ของ "โจ ไบเดน" ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลออกจากสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ในประเทศยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ประกอบกับการกระจายวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึงในช่วงปลายปี 64 จะเป็นปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้
ส่วน "จิตรา อมรธรรม" รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ปี 64 การลงทุนในตลาดหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่ดี จากสภาพคล่องที่ล้นตลาดหลังการอัดฉีดเม็ดเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลก และการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จะหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งคาดว่าเป้าดัชนีหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ 1,600 จุด
*** มองกำไร บจ.โตเฉลี่ย 38% สูงสุด 52%
ทั้งนี้ 7 โบรกเกอร์ประเมินกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 64 ที่เฉลี่ย 80 บาทต่อหุ้น หรือเติบโต 38% จากปีนี้
"วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของ บจ.ปี 64 ที่ 84 บาท เติบโต 52% จากปีนี้ที่คาดระดับ 55.2 บาท ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดจะเติบโต 5% เพราะมีฐานการเติบโตต่ำในปีนี้
ขณะที่ "อาทิตย์ จันทร์สว่าง" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ประเมิน EPS ปี 64 ที่ 80 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 48% จากปีนี้ โดยเศรษฐกิจจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ จากภาครัฐ
ส่วน "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมิน EPS ปี 64 ที่ 78 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 47% จากปีนี้ โดยมีปัจจัยบวกหนุน คือ การฟื้นตัวของภาคบริโภคและการลงทุน และการฟื้นตัวของราคาพลังงานที่ดีกว่าคาด จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทั่วโลก หลังเริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
*** เน้นลงทุนหุ้นใหญ่รับอานิสงส์ ศก.ฟื้น-เป็นเป้า นลท.ต่างชาติ
วิลาสินี บุญมาสูงทรง" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคายัง Laggard และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างประเทศ
ด้าน "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.ไอร่า แนะนำลงทุนธีม Global Pay เพราะจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัวทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของเม็ดเงินต่างชาติ
ขณะที่ "จิตรา อมรธรรม" รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำเลือกลงทุนหุ้น 3 ธีม คือ 1.หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวและหุ้นที่จะฟื้นตัวจากความสำเร็จของวัคซีนโควิด-19, 2.หุ้นที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยี และ 3.หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
*** เปิดโผหุ้น Top Pick จาก 7 โบรกฯ
7 โบรกเกอร์ดังกล่าว ได้คัดเลือกหุ้น Top Pick สำหรับการลงทุนในปี 64 ไว้รวมทั้งสิ้น 26 บริษัท ประกอบด้วย
26 หุ้น Top Pick จาก 7 โบรกเกอร์
|
บริษัทหลักทรัพย์
|
หุ้น Top Pick
|
ฟินันเซียฯ
|
BDMS
|
BEM
|
JWD
|
KBANK
|
M
|
MTC
|
SYNEX
|
ฟิลลิป
|
BEM
|
HMPRO
|
KBANK
|
LH
|
PRM
|
WICE
|
เมย์แบงก์ฯ
|
ADVANC
|
LH
|
SCC
|
SINGER
|
TMB
|
ไอร่า
|
IVL
|
KBANK
|
PTT
|
PTTEP
|
TOP
|
โกลเบล็ก
|
ADVANC
|
BBL
|
INTUCH
|
KBANK
|
TOP
|
หยวนต้า
|
AAV
|
AOT
|
BBL
|
KKP
|
MINT
|
กรุงศรี
|
BBL
|
SPRC
|
TOP
|
ทั้งนี้ มี 6 บริษัทที่เป็น Top Pick ของโบรกเกอร์ 2 รายขึ้นไป ประกอบด้วย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), ธนาคารกรุงเทพ (BBL), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ซึ่ง KBANK ถูกยกเป็นหุ้น Top Pick สูงสุด 4 แห่ง