"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจความเคลื่อนไหวอัตราส่วนการเงินและราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) พบ 26 บริษัทซื้อขายระดับอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) เกิน 100 เท่า มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเพียง 16 บริษัท อึ้ง 8 บจ.เทรดพี/อีสูงเกิน 200 เท่า สูงสุด 761 เท่า เหตุกำไร 4 ไตรมาสหลังทรุด-มีขาดทุน กูรูแนะหลีกเลี่ยง เหตุเสี่ยงสูง ส่วนใหญ่ไร้บทวิเคราะห์รองรับ นอกจากนี้พบ 12 หุ้นวิ่งแรงแซงพื้นฐาน 8 บจ.ราคาทะยานเกิน 100% โดยมีรายละเอียดดังนี้
*** ส่อง 26 หุ้นพี/อีเกิน 100 เท่า
ชื่อย่อหุ้น
|
P/E
|
%chg YTD
|
กำไร Q1/62
|
กำไร Q4/61
|
กำไร Q3/61
|
กำไร Q2/61
|
FVC
|
761
|
-12
|
-0.73
|
13.30
|
-7.27
|
-4.86
|
KIAT
|
625
|
-13
|
21.15
|
-79.14
|
31.03
|
28.76
|
BA
|
530
|
-4
|
504.33
|
-414.57
|
36.30
|
-82.92
|
KCM
|
324
|
4
|
4.18
|
-2.71
|
-2.43
|
2.74
|
JMART
|
317
|
159
|
118.30
|
-136.96
|
2.62
|
44.54
|
AQ
|
293
|
50
|
-43.61
|
54.74
|
-21.09
|
18.69
|
TIPCO
|
272
|
27
|
97.17
|
-40.50
|
29.86
|
-70.01
|
BTNC
|
268
|
-5
|
-5.00
|
-0.15
|
3.70
|
2.27
|
AJ
|
185
|
9
|
10.37
|
21.57
|
-2.59
|
-10.11
|
AMATAV
|
185
|
10
|
-18.38
|
-133.01
|
34.01
|
142.19
|
FN
|
178
|
48
|
-1.76
|
7.58
|
1.80
|
4.07
|
SE-ED
|
177
|
69
|
-12.39
|
0.54
|
-32.15
|
49.81
|
LRH
|
176
|
-4
|
82.84
|
67.99
|
-57.92
|
-48.33
|
WIIK
|
156
|
-6
|
0.12
|
-5.32
|
1.13
|
8.39
|
NFC
|
152
|
-25
|
4.41
|
-4.96
|
12.83
|
17.33
|
CIMBT
|
152
|
-8
|
325.01
|
-530.47
|
177.26
|
191.23
|
DTC
|
137
|
2
|
0.83
|
119.50
|
-60.44
|
1.13
|
PLANET
|
135
|
-2
|
1.92
|
-0.12
|
7.32
|
-6.42
|
SEAOIL
|
122
|
-14
|
10.72
|
14.50
|
-4.33
|
5.46
|
SPACK
|
122
|
-1
|
0.98
|
2.55
|
4.79
|
-4.32
|
PMTA
|
110
|
-22
|
-23.91
|
5.29
|
0.54
|
25.88
|
GYT
|
106
|
0.27
|
7.26
|
34.26
|
-26.76
|
11.06
|
BROCK
|
105
|
-
|
2.43
|
9.30
|
5.99
|
2.21
|
TTA
|
104
|
21
|
-91.94
|
-40.70
|
148.33
|
94.20
|
THG
|
103
|
-27
|
8.26
|
21.43
|
96.28
|
72.34
|
GULF
|
102
|
54
|
1,292.69
|
553.28
|
1,205.15
|
-438.03
|
หน่วย : P/E = เท่า, กำไร = ลบ.
จากตาราง บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC) เป็นบริษัทที่มีค่าพี/อี สูงสุดถึง 761 เท่า ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 0.60 บาท แม้จะลดลง 12% จากต้นปี (YTD) แต่กำไร 4 ไตรมาสหลังสุด (สิ้นสุดไตมาส 1/62) ขาดทุนไปถึง 3 ไตรมาส ทั้งนี้ 26 บจ.ข้างต้นมีถึง 8 บริษัทที่ซื้อขายพี/อี มากกว่า 200 เท่า
ขณะที่เกือบทั้งหมดกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสหลังสุดค่อนข้างผันผวน โดย 24 บริษัทมีผลขาดทุนอย่างน้อย 1 ไตรมาส
ด้านราคาหุ้น มี 12 บริษัทราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นปี สูงสุดคือ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) ราคาพุ่งถึง 159% โดยซื้อขายพี/อีที่ 317 เท่า ทั้งนี้มี 1 บริษัทที่ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นปี ขณะที่มี 13 บริษัทราคาปรับตัวลดลง
*** กูรูแนะหลีกเลี่ยง
"ไพบูลย์ นลินทรางกูร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุน แนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
"หุ้นที่พี/อี 0เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดจาก 2 กรณีคือมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาจำนวนมากจนดันราคาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และหุ้นที่ผลประกอบการเติบโตไม่ทันราคาที่ขึ้นไปล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นความเสี่ยง เพราะหากกำไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวังจะเกิดแรงขาย เพราะราคาหุ้นมักจะกลับไปหาพื้นฐานเสมอ" ไพบูลย์ กล่าว
ขณะที่ "ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า หุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเก็งกำไร และไม่มีบทวิเคราะห์รองรับ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ขณะที่บางบริษัทราคาหุ้นซื้อขายจนเกินมูลค่าพื้นฐานไปมากแล้ว หากกำไรไตรมาส 2/62 ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์หรือปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จะทำให้เกิดแรงขายรุนแรงได้
*** หุ้นไทยเริ่มเข้าภาวะ Overbought
"เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยเริ่มมีแรงกดดันจากภาวะซื้อมากเกิน (Overbought) หุ้นหลายบริษัทราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเกินมูลค่าพื้นฐาน โดยให้ระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไร เพราะอาจจะมีการพักฐาน ซึ่งกลุ่มหุ้นที่ราคาขึ้นแรงก่อนหน้านี้อาจจะปรับตัวลดลงในระดับที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาขึ้นแรงระดับ 50-100%
*** พบ 12 หุ้นราคาวิ่งแซงพื้นฐาน
ทั้งนี้เมื่อสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าจากต้นปีมีถึง 32 บริษัทที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และมี 8 บริษัทราคาหุ้นพุ่งแรงมากกว่า 100% และพบว่ามี 12 บริษัทที่ราคาหุ้นล่าสุดเกินมูลค่าพื้นฐานเฉลี่ยจาก IAA Consensus ประกอบด้วย
ชื่อย่อหุ้น
|
%chg YTD
|
ราคาล่าสุด (บ.)
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
AU
|
177
|
16.60
|
12.50
|
PTG
|
152
|
21.70
|
15.83
|
CBG
|
147
|
76.00
|
58.30
|
STPI
|
144
|
9.90
|
7.75
|
TQM
|
113
|
48.50
|
42.62
|
AMA
|
85
|
8.35
|
8
|
JAS
|
70
|
7.6
|
5.4
|
TFG
|
64
|
5
|
4.52
|
SAPPE
|
63
|
22.3
|
20.7
|
COM7
|
55
|
24
|
23.17
|
GULF
|
54
|
125.5
|
97.31
|
GFPT
|
53
|
18.3
|
18.23
|
บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดจากต้นปีถึง 177% โดยล่าสุดอยู่ที่ 16.60 บาท ขณะที่ราคาเหมาะสมเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่เพียง 12.50 บาท โดยปัจจุบันซื้อขายที่ระดับพี/อี 77 เท่า เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากสิ้นปีก่อนที่ 37 เท่า
โดยกลุ่มนี้มีถึง 5 บริษัทที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ขณะที่ บมจ.บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เป็น 2 บริษัทที่ติดอยู่ในกลุ่มหุ้นพี/อีเกิน 100 เท่าด้วย