OR ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 0.96% หลังงบ 9 เดือนแรก แตะ 9 พันลบ. โต 55% YoY ขณะที่โบรกฯ ชี้ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดช่วง Q3/64 แล้ว คาด Q4/64 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว หลังปริมาณยอดขายสูงขึ้น ชดเชยตึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บ./ลิตรได้ ประเมินกำไรปี 64 – 65 โต 2 ปีซ้อน
*** ปิดเช้าบวก 0.96% หลังงบ 9 เดือนแรกโต 55% YoY
ราคาหุ้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 26.75 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.96% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 65.02% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น OR ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 0.96% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากกำไรสุทธิ 9 เดือนของปี 64 เติบโตขึ้น 55% จากปีก่อน ประกอบกับ การคลายล็อกดาวน์ หนุนผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 3/64 ซึ่งเป็นปัจจัย ที่สนับสนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น
*** คาดงบผ่านจุดต่ำสุดแล้ว Q4/64 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว
OR รายงานงบการเงินไตรมาส 3/64 โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 1.9 พนล้านบาท หดตัว 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ หดตัว 41% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์ หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ ทำจุดสูงสุดในช่วงดังกล่าว
ด้าน บล.เอเซีย พลัส มองว่า ผลการดำเนินงานของ OR ได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3/64 ไปแล้ว โดยมองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 ของ OR จะเป็นจุดเริ่มต้นในการฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลัก จากการเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว ประกอบกับ รัฐบาลยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย ประเมินว่า ปริมาณการขายน้ำมันของ OR ในช่วงไตรมาส 4/64 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งจะช่วยชดเชยกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร ในประเทศที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน หลังภาครัฐขอความร่วมมือช่วงพยุงราคาน้ำมันดีเซลในท้องตลาด ประกอบกับ ธุรกิจ Non-Oil มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามการบริโภคของประชาชนฟื้นตัว ตามภาวะเศรษฐกิจ
เช่นเดียวกับ บล.ทรีนีตี้ ที่ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 ของ OR มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย เนื่องจากมองว่า ปริมาณการขายย้ำมันของ OR ในช่วงไตรมาส 4/64 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ตามการเดินทางที่ฟื้นตัวขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ซึ่งน่าจะชดเชยการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ในช่วงไตรมาสก่อนได้ ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 64 จะอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 25% จากปีก่อน
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ OR ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
11,863 |
35 |
หยวนต้า |
10,433 |
19 |
*** กูรูคาดปี 65 การเดินทางฟื้นแรง ดันงบโต 2 ปีซ้อน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยของชาวไทยในปี 65 จะมีจำนวน 155 ล้านคน/ครั้ง เติบโตขึ้น 133% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้เงื่อนไขการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลงจากช่วงปี 64 อย่างต่อเนื่อง และไม่เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่อีก
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ OR ไว้ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการเดินทางในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 คลายตัวลง ประกอบกับ ธุรกิจต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน สะท้อนจากการเปิดสาขาปั๊มน้ำมันในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 346 สถานี
เช่นเดียวกับธุรกิจ Non-Oil ต่างประเทศ ที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยล่าสุด OR มีสาขาร้านคาเฟ่อเมซอน ในประเทศกัมพูชา ทั้งหมด 284 สาขา และยังมีแนวโน้มขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตามการบริโภคในประเทศกัมพูชาฟื้นตัว และยอดขายที่เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ OR ไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามแผนการลงทุน 7.5 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ปี 64 – 68 เพื่อขยายธุรกิจปั๊มน้ำมัน และ Non-Oil รวมถึงเข้าทำธุรกิจใหม่ด้านเทคโนโลยีออนไลน์ เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลปัจจุบัน ที่มีอยู่จำนวนมาก
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ OR ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
หยวนต้า |
12,612 |
21 |
โนมูระฯ |
11,806 |
14 |
*** โบรกฯชี้ Valuation น่าสะสม รับงบเริ่มฟื้นปลายปี
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ราคาหุ้น OR ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลงราว 12% ซึ่งมองว่าเป็นการปรับฐานไปแล้วระดับหนึ่ง จนราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน เริ่มมีมูลค่า (Valuation) ที่น่าสนใจทยอยเข้าสะสม จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ (เดิม Switch) เพื่อรับทิศทางกำไรที่จะเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 4/64 หลังธุรกิจเข้าไฮซีซั่น และ การแพร่ระบาดโควิดเบาบางลง
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ" หลังเห็นการเดินทางเริ่มฟื้นตัว
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากมองว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เบาบางลง หนุนให้ปริมารการเดินทางเริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของ OR เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป และมีลุ้นที่กำไรสุทธิปี 65 จะเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ต่อจากปี 64
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ทิสโก้ |
ซื้อ |
34.00 |
ทรีนีตี้ |
ซื้อ |
32.00 |
ยูโอบีฯ |
ซื้อ |
31.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
29.00 |
กรุงศรี |
ขาย |
25.00 |
ราคาเฉลี่ย |
30.20 |
ราคาหุ้น OR ในช่วง 3 เดือนหลัง ปรับตัวลงราว 12% จากความกังวลผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 เป็นจุดต่ำสุดของปี จนทำให้ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์ราว 15% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ขณะที่โบรกฯส่วนใหญ่มองว่า ผลการดำเนินงานของ OR จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ยาวถึงปี 65 หลังการคลายล็อกดาวน์ และ เปิดประเทศ ...