เช้านี้ BCH พุ่งสูงสุด 5.85% สวนทาง SET ที่ปิดลบ 10.17 จุด รับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงแตะ 1.8 หมื่นคน/วัน ขณะที่โบรกฯคาดปันผลปี 64 ให้ยีลด์สูงกว่าปกติ คาดไว้ราว 4.9 – 6.4% แถมกำไร Q1/65 ยังมีลุ้นโต YoY ต่อเนื่อง หลังยอดตรวจเชื้อโควิดเดือน ม.ค.ฟื้นแรง ชี้กำไรปีนี้ยังมีอัพไซด์ราว 6 – 8 ร้อยลบ.
 

*** เช้านี้พุ่งสูงสุด 5.85% สวน SET รับยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง
 

ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 5.85% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคาดังกล่าว มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 358.01% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น BCH ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 5.85% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 10.17 จุด หรือ -0.6% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ กลับมาอยู่ในระดับสูงราว 1.8 หมื่นคน/วัน ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ

ขณะที่ นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อยังทรงตัวในระดับสูงต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดในทั่วโลก
 

*** คาดกำไร Q4/64 ชะลอตัว หลังยอดตรวจเชื้อวูบ
 

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ BCH ไว้ที่ 2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 626% จากปีก่อน เพราะฐานกำไรปีนี้สูงผิดปกติ จากทั้งโรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลย่อยเปิดใหม่ มีรายได้เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการโควิด-19 อาทิ ตรวจเชื้อ, รักษา, ฉีดวัคซีนทางเลือกเสริมเข้ามา 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบฐานกำไรปี 64 ที่ได้รับผลบวกจากการแพร่ระบาดโควิด-19 กำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/64 จะชะลอตัวลง 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงดังกล่าว ลดความรุนแรงลง ส่งผลให้เคสตรวจ และรักษาโควิด-19 ของ BCH ลดลงราว 25 – 30% จากไตรมาสก่อน ทำให้รายได้ในช่วงดังกล่าว มีแนวโน้มลดลง 17% จากไตรมาสก่อน

สอดคล้องกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ BCH ไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 403% จากปีก่อน แต่ลดลง 52% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลัก คือ รายได้การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไตรมาสนี้ จะลดลงเหลือ 50% เทียบกับไตรมาสก่อน ที่สัดส่วนรายได้ดังกล่าวคิดเป็น 71%
 

*** แต่กูรูคาดปันผลปี 64 ให้ยีลด์สูงกว่าทุกปี คาด 4.9 - 6.4%
 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานปี 64 ของ BCH ที่มีแนวโน้มสูงกว่าปกติ จากการมีรายได้ให้บริการเกี่ยวข้องกับโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จะทำให้ BCH จ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 64 ได้สูงกว่าปีอื่นๆ เบื้องต้นคาดไว้ในอัตรา 1.19 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend) ระดับ 6.4%

สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ประเมินว่า BCH จะจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 64 ในระดับที่สูงกว่าทุกปี โดยประเมินว่า Dividend Yield จะอยู่ที่ระดับ 4.9%
 

*** ต้นปี 65 ยอดรักษาโควิดพุ่ง QoQ คาดหนุนกำไรฟื้น

 
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ของ BCH ยังสามารถเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนได้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ.65 กลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง หลังพบการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ส่งผลให้จำนวนคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการเกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงไตรมาส 4/64 อย่างมีนัยสำคัญ
 

*** โบรกฯอัพเป้ากำไรปี 65 หลังโควิดจบช้ากว่าคาด
 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ BCH ขึ้นจากเดิม 18% เป็น 2.1 พันล้านบาท หดตัว 62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักของการปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น เพื่อสะท้อนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ปี 65 สูงกว่าคาด ประกอบกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อต่อเนื่อง

ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ BCH ไว้ที่ 1.8 พันล้านบาท หดตัว 71% จากปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรปี 64 สูงกว่าปกติ หลังมีรายได้เกี่ยวข้องกับโควิด-19 หนุน แต่กำไรสุทธิที่ประเมินไว้ 1.8 พันล้านบาท ยังเป็นระดับที่เติบโตจากภาวะปกติ (ปี 62 – 63 ก่อนเกิดโควิด-19) ราว 50 – 60% ซึ่งมาจากทั้ง Organic growth และ pent up demand

โดยสรุป นักวิเคราะห์ 4 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ BCH ไว้ดังนี้
 

*** แต่กำไรปีนี้ยังมีอัพไซด์ราว 6 – 8 ร้อยล้านบาท
 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ BCH ที่ปรับขึ้นใหม่เป็น 2.1 พันล้านบาท ยังมีอัพไซด์ส่วนเพิ่ม จาก 4 ปัจจัยดังต่อไปนี้

1.รายได้ผู้ป่วยต่างชาติฟื้นแรง โดยในช่วงไตรมาส 3/64 รายได้ดังกล่าว เติบโตขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 500 ล้านบาท จากค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโควิด-19 ราว 233 ล้านบาท/ไตรมาส เนื่องจากแพทย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการรักษาโรคเบาหวานที่เท้า ได้ย้ายมาทำงานเต็มตัวที่ WMC และประเมินว่า ฐานรายได้ดังกล่าวจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปในปีนี้

2.รายได้ผู้ป่วยประกันสังคม (SSO) จ่อโตแรง โดยปีนี้รายได้ส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 15% จากปีก่อน ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ยังมีอัพไซด์ เทียบกับที่ BCH ตั้งเป้าตัวเลขผู้ประกันสังคมจดทะเบียนเพิ่ม 24% เป็น 1.1 ล้านราย

3.รายได้ผู้ป่วยชาวไทยที่ไม่ได้เป็นโควิด-19 มีแนวโน้มสูงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามความต้องการรักษาโรคต่างๆที่อั้นอยู่ ประกอบกับ BCH มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น จากการรักษาโควิด-19 จึงมีแนวโน้มผลักดันรายได้ดังกล่าว ให้สูงกว่าคาดการณ์เดิมได้

4.รายได้จากโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron สะท้อนจากตัวเลขตรวจเชื่อในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นเป็นราว 5 พันราย/วัน เทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ราว 2.1 พันราย/วัน ขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 8 พันเตียง/วัน เทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ ราว 3.4 พันเตียง/วัน

ทั้งนี้ เมื่อรวมอัพไซด์ขาขึ้นทั้ง 4 ปัจจัยเข้าด้วยกัน คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัพไซด์ต่อรายได้ในปี 65 ของ BCH ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งอาจคิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มเติมได้ราว 6 – 8 ร้อยล้านบาท 

*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
 

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ" แม้ประเมินว่า กำไรสุทธิปี 65 ของ BCH มีแนวโน้มหดตัวแรงจากปีก่อนที่ฐานกำไรสูงผิดปกติ แต่เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ถือว่ากำไรปี 65 ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่น ประกอบกับ ระยะสั้น ยังมีลุ้นการจ่ายเงินปันผลงวดปี 64 ที่สูงกว่าทุกปีอีกด้วย
  

เดิมทีนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่ากำไรสุทธิปี 65 ของ BCH มีแนวโน้มหดตัวแรงกว่าที่คาดการณ์ ณ ปัจจุบัน เพราะคาดว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในปี 65 จะอ่อนตัวลงจากปีก่อน แต่จากจำนวนผู้ติดเชื้อช่วงต้นปี 65 ที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงปีก่อน ทำให้โบรกเกอร์มองว่า รายได้จากการให้บริการโควิด-19 ของ BCH จะไม่ลดลงแรงและเร็วเหมือนที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับ กำไรสุทธิปีนี้ ยังมีอัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกด้วย...