CBG กลับเข้าเรดาร์นักลงทุนอีกครั้ง ตามการบริโภคฟื้นตัว หลังโควิดเริ่มสงบ หนุนกำไร Q4/64 เริ่มฟื้น ขณะที่โบรกฯ คาดกำไรปี 65 โต 20 - 33% ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังหนุน ชี้มูลค่าหุ้นปัจจุบันถูกสุดรอบ 5 ปี แถมมีโอกาสปรับเป้ารายได้ขึ้นอีก
*** กลับเข้าเรดาร์นักลงทุน หลังการบริโภคฟื้นตัว
หุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG กลับเข้าสู่เรดาร์นักลงทุนอีกครั้ง หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้การบริโภคทั้งในประเทศ และ กลุ่มประเทศ CLMV เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ประกอบกับ ราคาอลูมิเนียมปรับตัวลง หนุนอัตราการทำกำไรของ CBG สูงขึ้น
*** งบ Q4/64 เริ่มฟื้น หลังโควิดฉุดผลงานหนัก
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ CBG อยู่ในกรอบ 700 - 750 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาส 3/64 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง ราว 16 - 25% หลังการแพร่ระบาดโรคดังกล่าวในประเทศไทย เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้การบริโภคฟื้นตัว ตามกิจกรรมเศรษฐกิจที่กลับมาดำเนินอีกครั้ง
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งในประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV ของ CBG ช่วงไตรมาส 4/64 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนราว 10% ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของเครื่องดื่มชูกำลัง มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/64 มาอยู่ที่ระดับ 44 - 45% จากการประหยัดต่อขนาด ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สอดคล้องกับ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่มองว่า GPM ของ CBG มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน หลังคาดมาร์จิ้นปรับตัวขึ้นตามยอดขาย ประกอบกับ ต้นทุนราคาอลูมิเนียม ที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.64 ซึ่งจะเป็นบวกต่อต้นทุนการขาย
*** ยอดส่งออกปัจจัยหลักหนุนกำไรปีนี้โต 20 - 33%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CBG ไว้ที่ 3.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 23% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนหลัก จากการส่งออกฟื้นตัว โดย CBG คาดยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV จะเติบโตขึ้น 20 - 25% และคาดว่า ยอดขายผ่านตัวแทนจำหน่ายจะเติบโตขึ้นอย่างน้อย 50%
ขณะที่ ยอดขายในประเทศจีนปีนี้ คาดจะอยู่ที่ 1.4 - 1.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 50% จากปีก่อน สูงกว่าคาดการณ์เดิมในปี 64 ที่คาดยอดขายไว้ 800 ล้านบาท หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่ลคายลง ประกอบกับ CBG มีแผนเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ ที่มีส่วนผสม CBD ในช่วงไตรมาส 1/65
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุน จากการควบรวมและซื้อกิจการ หรือ การเป็นพันธมิตรเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมของบริษัท (CJ Express 700 - 800 สาขา และ Took Dee 4,000 สาขา)
สอดคล้องกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CBG ไว้ที่ 4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 33% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุน จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ อย่างน้อย 3 รายการ (Functional Energy drink และ CBD)
โดยการฟื้นตัวในปี 65 มีแนวโน้มโดดเด่น จากการฟื้นตัวของกำลังบริโภค หลังผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง ประกอบกับ ครึ่งแรกของทุกปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ CBG จากการเข้าสู่ฤดูร้อน ที่คาดว่าจะมีอัตราการซื้อสูงขึ้นกว่าปีก่อนด้วย
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CBG ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชียเวลท์ |
3,937 |
33 |
เคทีบีฯ |
3,422 |
20 |
*** กูรูชี้ มูลค่าหุ้นขณะนี้ ถูกสุดรอบ 5 ปี
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ราคาหุ้น CBG ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลง Underperfrom ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ราว 6% และ 12% ตามลำดับ ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน CBG เทรด P/E ที่ระดับ 33 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงต้นเดือน ม.ค.นี้ ทาง CBG มีแนวโน้มจะปรับประมาณการรายได้ปี 65 ขึ้นจากเดิม โดยมีปัจจัยหนุน จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่อาจดีกว่าทาง CBG ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
*** โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานของ CBG มีแนวโน้มฟื้นตัวตั้งแต่งวดไตรมาส 4/64 ก่อนที่ปี 65 จะเป็นช่วงที่รับอานิสงส์เต็มที่ หลังกิจกรรมเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หนุนให้กำไรปี 65 กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
158.00 |
เอเชียเวลท์ |
ซื้อ |
142.00 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
138.00 |
โนมูระฯ |
ซื้อเก็งกำไร |
130.00 |
เคทีบีฯ |
ถือ |
123.00 |
ราคาเฉลี่ย |
138.20 |
ปี 64 ถือว่า เป็นปีที่มีปัจจัยกดดัน CBG หลายด้าน ทั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 กลับมาทวีความรุนแรง รวมทั้งเมียนมาร์เกิดการรัฐประหารขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกดดันยอดขายของ CBG อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ปีนี้ นักวิเคราะห์มองว่า จะไม่มีปัจจัยกดดันรายได้ CBG อย่างหนักเหมือนปีก่อนแล้ว ซึ่งต้องติดตามต่อว่า CBG จะสามารถกลับมารายงานกำไรสุทธิได้อย่างโดดเด่น เหมือนที่โบรกเกอร์คาดไว้หรือไม่?