ราคาหุ้น SCCC เช้านี้ดีดทำนิวไฮรอบ 1 ปี คาดได้รับปัจจัยหนุนจากการจ่ายเงินปันผลงบปี 63 ระดับสูง 9 บ./หุ้น แต่ปี 64 กำไรมีแนวโน้มหดตัว 1 - 6.41% YoY จากความต้องการปูนซีเมนต์ยังถูกกดดัน ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในหลายประเทศชะลอตัว แต่ SCCC จะสามารถประคองตัวในช่วงกำไรขาลงได้อย่างไร? ขณะที่การเข้าลงทุนในช่วงนี้ ยังน่าสนใจหรือไม่? ต้องติดตาม!
*** ดีดนิวไฮรอบ 1 ปี รับปันผลระดับสูง
ราคาหุ้น บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.พ.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ราคา 156 บาท ทำนิวไฮรอบ 1 ปี ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 155 บาท เพิ่มขึ้น 11 บาท หรือ 7.64% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 715.71% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น SCCC ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 1 ปี เนื่องจากได้รับ Sentiment เชิงบวก จากการประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 63 ที่ 9 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงถึง 6.3% ซึ่งนักลงทุนจะได้รับเงินปันผลเต็มจำนวน เพราะปี 63 SCCC ไม่ได้จ่ายเงินปันผลงวดกลางปี โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ก.พ.นี้ และ จ่ายเงินปันผลวันที่ 5 เม.ย. 64
*** ผลงาน Q1/64 จะถูกกดดันจากการปิดซ่อมเตาผลิตปูน - โควิด-19
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของ SCCC ยังคงทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 932 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะเป็นช่วงที่ SCCC ต้องปิดซ่อมบำรุงเตาผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศ 1 แห่ง ส่งผลให้กำลังการผลิตในช่วงดังกล่าวลดลง
ขณะที่ บล.ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง ตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์บางพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ที่ยังกดดันการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย และโครงการเชิงพาณิชย์ที่ให้ชะลอตัวลง ส่งผลให้ความต้องการปูนซีเมนต์ในช่วงดังกล่าว ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
*** ความต้องการปูนซีเมนต์ปีนี้ ยังไม่ฟื้นแบบมีนัยสำคัญ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า ในช่วงปี 64 ความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศยังคงทรงตัว หรือ เติบโตเล็กน้อย 0 - 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย ในประเทศศรีลังกา หลังมีการเลือกตั้ง และเวียดนาม ที่เริ่มเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศมากขึ้น
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ความต้องการปูนซีเมนต์ในปี 64 จะฟื้นตัวกลับมาอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อเริ่มมีการกระจายตัวของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมในหลายพื้นที่ ประกอบกับ ต้องหวังให้รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลก เร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศมากขึ้น
*** กำไรปี 64 ส่อวูบจากปีก่อน 1 - 6.41%
บล.ทิสโก้ ระบุว่า ได้ปรับลดกำไรสุทธิปี 64 ของ SCCC ลง 6.3% เหลือ 3.6 พันล้านบาท ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจ และการเริ่มต้นการก่อสร้างโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับสูงเหมือนในอดีต ซึ่งกดดันให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในปี 64 ยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%Chg.YoY |
เอเซีย พลัส |
3,444 |
-6.41 |
คันทรี่ กรุ๊ป |
3,596 |
-2.22
|
*** เร่งคุมค่าใช้จ่าย ประคองกำไร
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SCCC พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจให้ลดลง เพื่อรักษาการทำกำไรของบริษัทฯ ด้วยการลดหน่วยผลิตที่ไม่สร้างกำไร, ลดจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณงาน, ลดพื้นที่สำนักงานลง 20% และนำระบบ Digital และ Robotic เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น
ขณะที่ บล.เคจีไอ มองว่า โครงการประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงาน จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อผลประกอบการของ SCCC ในช่วงที่ความต้องการปูนซีเมนต์ยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติ สะท้อนจากอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 4/63 ที่อยู่ในระดับ 35.7% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อยู่ในระดับ 31.6%
*** ส่องปันผลปี 64 จ่าย 5.8 - 5.9%
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แม้ผลการดำเนินงานปี 64 ของ SCCC ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นเท่าไรนัก แต่จุดเด่นของ SCCC คือ เป็นบริษัทฯที่มีสภาพคล่องมากขึ้น จากการเร่งคุมค่าใช้จ่าย สะท้อนจากการชำระคืนหนี้จำนวน 3 พันล้านบาท ที่กู้ยืมมาในปี 63 ก่อนกำหนด และพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกหุ้นปันผลเด่นอีกครั้ง โดยคาดปีนี้ SCCC จะจ่ายเงินปันผลคิดเป็น Dividend Yield ระดับ 5.9%
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า SCCC จะจ่ายเงินปันผลปี 64 คิดเป็น Dividend Yield ระดับ 5.8%
*** โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" แม้จะมองว่ากำไรสุทธิปี 64 ของ SCCC มีแนวโน้มหดตัวตามความต้องการปูนซีเมนต์ ที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติ แต่มองว่า SCCC เป็นหุ้นที่น่าสนใจจากการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ระดับ 6% ซึ่งกำไรสุทธิปี 65 ยังมีแนวโน้มกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับปี 64 จากความต้องการปูนซีเมนต์ที่ฟื้นตัว ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลประเทศต่างๆ ภายหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อลงทุน |
180.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
195.00 |
เอเซีย พลัส |
ซื้อ |
208.00 |
เคจีไอ |
ซื้อ |
230.00 |
ราคาเฉลี่ย |
203.25 |
แม้ SCCC จะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในระดับสูงจูงใจนักลงทุน แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ยังคอยกดดันให้ผลประกอบการปีนี้มีโอกาสชะลอตัว ส่วนการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง ก็เป็นปัจจัยที่ควรระมัดระวัง เพราะอาจจะมีแรงขายกดดันให้ราคาหุ้นที่อาจจะปรับตัวลงแรงในวันขึ้น XD ก็เป็นได้