เช้านี้ GLOBAL ดีดทำนิวไฮรอบ 3 เดือน หลังงบ Q4/64 จ่อโตสูงกว่ากลุ่ม ขณะที่โบรกฯมองต้นปี 65 กำไรชะลอตัว เหตุฐานปีก่อนสูง แต่ราคาหุ้นตอบรับไปแล้ว ชี้จุดพีคปีนี้ อยู่ช่วงครึ่งปีหลัง จากการบุ๊ครายได้สาขาใหม่ที่ทยอยเปิดเพิ่ม ดันกำไรปี 65 ทำนิวไฮต่อเนื่อง
*** นิวไฮ 3 เดือน หลังงบ Q4/64 จ่อโตกว่ากลุ่ม
ราคาหุ้น บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ช่วงเช้าวันนี้ (10 ม.ค.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 21.30 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 เดือน ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 20.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.7 บาท หรือ 3.5% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 289.12% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น GLOBAL เช้านี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบ 3 เดือน เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากการเตรียมประกาศงบการเงินไตรมาส 4/64 ซึ่งนักวิเคราะห์ในตลาดประเมินกำไรสุทธิในช่วงดังกล่าวของ GLOBAL มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดในกลุ่มหุ้นค้าปลีก
*** เปิดเหตุผล งบโค้งท้ายปีก่อนโตเด่นกว่ากลุ่ม!
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ GLOBAL ไว้ที่ 725 ล้านบาท เติบโตขึ้น 92% จากปีก่อน ซึ่งเป็นระดับการเติบโตที่สูงสุดในกลุ่มค้าปลีก โดยมีอานิสงส์หลักจากการคลายล็อกดาวน์ และราคาเหล็กหนุนผลการดำเนินงาน ส่งผลให้การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ราว 13%
สอดคล้องกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ GLOBAL มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 82% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจาก ยอดขายในไตรมาสดังกล่าวเติบโตขึ้น 21% และ 8% จากปีก่อน และ ไตรมาสก่อนตามลำดับ ส่งผลให้ SSSG เติบโตขึ้น 15% ประกอบกับ มีอัตรากำไรที่สูงขึ้น จากการปรับราคาขายสินค้า House Brand ขึ้น
ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ GLOBAL มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากผลกระทบน้ำท่วมในหลายจังหวัด ทำให้ความต้องการใช้วัสดุต่างๆ เพื่อการก่อสร้าง และที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
*** กำไร Q1/65 จ่อชะลอตัว แต่กูรูชี้ราคาหุ้นตอบรับแล้ว
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ GLOBAL มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรปี 64 อยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยหนุนสต็อคเหล็กราคาต่ำเหมือนปีก่อนแล้ว แต่มองว่าราคาหุ้น GLOBAL ที่ผ่านมา ได้ตอบสนองเชิงลบ กับผลกระทบดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว สะท้อนจากราคาหุ้นปรับลงมาซื้อขายที่ -1SD
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ราคาหุ้น GLOBAL ในช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค.64 ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าดัชนีหุ้นไทย (SET Index) อยู่ราว 8.1% เนื่องจากถูกปัจจัยกดดัน จากกำไรสุทธิที่มีแนวโน้มลดลงกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 64 ที่ได้รับอานิสงส์จากราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น และความกังวลต่อผลประกอบการครึ่งแรกของปี 65 ชะลอตัวจากฐานสูง ซึ่งมองว่าราคาหุ้นที่ผ่านมา ได้ตอบสนองปัจจัยดังหล่าวไปมากพอสมควรแล้ว
*** ปีนี้จุดพีครออยู่ครึ่งปีหลัง หนุนกำไรนิวไฮต่อ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ GLOBAL ไว้ที่ 3.4 พันล้านบาท ทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดตลอดกาล (นิวไฮ) เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่า การเติบโตในอัตราเร่งของ GLOBAL จะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ตามการขยายสาขาเพิ่มขึ้น
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปี 65 GLOBAL จะกลับมาเปิดสาขาใหม่ในอัตราเร่ง ทั้งหมด 7 – 8 สาขา (ปี 61 – 64 เปิดใหม่ 4 – 5 สาขา/ปี) โดยมีที่ดินเตรียมไว้ทั้งหมดแล้ว ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ช่วยชดเชยผลกระทบราคาขายเหล็ก ที่มีแนวโน้มลดลง
ขณะเดียวกัน GLOBAL ยังมีการปรับ Product Mix ที่ดีขึ้น โดยเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง อย่างสินค้า House Brand ที่ปีนี้คาดว่า จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 22 – 23% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด หลังจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศจีน เพื่อช่วยสนับสนุนการหาสินค้าดังกล่าวเข้ามาขายยังสาขาเพิ่มขึ้น
ส่วน นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ GLOBAL ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เมย์แบงก์ฯ |
3,585 |
10 |
หยวนต้า |
3,538 |
7 |
*** จับตา! การเติบโตระยะยาว อยู่ที่ต่างประเทศ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า การขยายสาขาไปยังต่างประเทศของ GLOBAL จะช่วยหนุนการเติบโตในระยาวให้กับบริษัทได้ โดยปัจจุบัน GLOBAL เพิ่งมีสาขาที่ประเทศกัมพูชา 1 แห่ง ซึ่งคาดว่า ยอดขายในประเทศกัมพูชาของ GLOBAL จะเร่งตัวขึ้น หลังเปิดให้บริการสาขาที่ 2 ซึ่งเริ่มก่อสร้างแล้ว และอาจเปิดให้บริการในปีนี้ โดยคาดการขยายสาขาที่กัมพูชา จะเพิ่มปีละ 1 แห่ง
ขณะที่ การเปิดบริการสาขาแรกที่ประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 หรือ 66 นอกจากนี้ GLOBAL ยงถือหุ้นผ่านบริษัทร่วม ซึ่งมีสาขาในประเทศเมียนมาร์ 8 แห่ง และลาว 6 แห่ง โดย GLOBAL รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 1 – 2% ของกำไรสุทธิทั้งหมด
*** กูรูชี้ ทั้งพื้นฐาน – Valuation น่าสนใจเข้าสะสม
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า GLOBAL ยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุน สะท้อนจากการเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 น้อยที่สุดในกลุ่ม เพราะกลุ่มลูกค้าหลักเป็น ฐานคนต่างจังหวัด ที่ไม่ได้อิงกับภาคการท่องเที่ยวเหมือนหุ้นอื่นในกุ่ม ประกอบกับ การเติบโตยังคงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 – 3 ปี (ปี 66 - 68)
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 65 – 66 ของ GLOBAL ขึ้นเป็น 3.3 และ 3.7 พันล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีเกินคาด รวมทั้งประสิทธิภาพการประหยัดต้นทุนที่ดีขึ้น ขณะที่หุ้น เทรด P/E ปี 65 ที่ 26 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจ เพราะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่เทรดอยู่ บริเวณ 35 เท่า
*** โบรกฯส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากมองว่า ในระยะสั้นการประกาศกำไรไตรมาส 4/64 ของ GLOBAL มีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าหุ้นในกลุ่ม ขณะที่เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะเข้าสู่การเติบโตในอัตราเร่ง หลังเริ่มรับรู้รายได้จากการขยายสาขาใหม่เพิ่มเติม ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 65 ยังเดินหน้าทำสถิติสูงสุดตลอดกาลของบริษัท อย่างต่อเนื่อง
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
28.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
27.80 |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อ |
27.50 |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
27.50 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
26.00 |
ราคาเฉลี่ย |
27.36 |
หากอ้างอิงจากข้อมูลของโบรกเกอร์ ดูเหมือนว่าราคาหุ้น GLOBAL ที่ปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ น่าจะเกิดขึ้นจากการเริ่มเก็งกำไรงบไตรมาส 4/64 ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ถือว่ายังมีอัพไซด์ค่อนข้างสูงราว 32.17% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ขณะที่ จุดพีคในปีนี้ ถูกคาดการณ์ว่า จะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง...