เช้านี้ OSP ดีดสูงสุด 2.25% หลังธุรกิจจ่อพ้นจุดต่ำสุด โบรกฯมองกำไร Q2/65 พลิกโต YoY – QoQ รับยอดขายจ่อนิวไฮ หลังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แถมยังมีอัพไซด์ปันผลรับจาก Unicharm ขณะที่ Q3/65 เตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรน้ำกัญชงครั้งแรก กูรูชี้กระแสตอบรับดีเร่งอัพกำลังผลิต หนุนกำไรปี 65 พลิกโตราว 8 – 13%
*** ดีดสูงสุด 2.25% รับธุรกิจพ้นจุดต่ำสุด
ราคาหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 34 บาท เพิ่มขึ้น 2.25% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.5 บาท หรือ 1.5% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 55% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น OSP เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 2.25% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 4.23 จุด หรือ -0.27% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังธุรกิจมีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดช่วงไตรมาส 1/65 แล้ว สะท้อนจากยอดขายที่ทำได้ดีกว่าภาพรวมตลาด
*** จับตา! กำไร Q2/65 จ่อโต YoY – QoQ
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ OSP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และ ไตรมาสก่อน (QoQ) มีปัจจัยหนุนจากยอดขายมีแนวโน้มทำจุดสูงสุดใหม่ที่ราว 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน สาเหตุหลักเป็นเพราะการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น M-150 ราคาใหม่ 12 บาท
ขณะที่ ยอดขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จากการสต็อกสินค้าก่อนเข้าสู่ฤดูฝนของเมียนมาร์ เนื่องจากการขนส่งในช่วงดังกล่าวค่อนข้างลำบาก ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ OSP จะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 33 – 34% (ไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 31%) จากการบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้ดีขึ้น, ล็อคราคา และ ปรับขวดใหม่ ประกอบกับ ใช้กลยุทธ์ Premiumization
นอกจากนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ OSP ยังมีอัพไซด์จากการรับเงินปันผลจาก Unicharm ราว 200 - 300 ล้านบาท หากจ่ายในช่วงไตรมาส 2/65 (ปันผล Unicharm มักจ่ายไม่ตรงกันในแต่ละปี)
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ OSP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และ ไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ตามการ Ramp up สายการผลิตขวดแก้วที่มีน้ำหนักเบาลง รวมทั้งยอดขายมีแรงหนุน จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบกับ คาดรับรู้เงินปันผลจาก Unicharm ราว 305 ล้านบาท
*** อัพกำลังผลิตน้ำกัญชง บุ๊คกำไร Q3/65
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า เครื่องดื่มวิตามินผสมสารสกัดกัญชงที่ OSP พัฒนาร่วมกับ Yanhee ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าสูงกว่าที่ OSP ตั้งเป้าไว้ ทำให้ต้องเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องดื่มดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งทาง OSP จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเครื่องเมดังกล่าวครั้งแรก ช่วงไตรมาส 3/65
ขณะที่ บล.เอซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กำไรสุทธิช่วงไตรมาส 3/65 ของ OSP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเทียบจากปีก่อนในอัตราเร่ง สะท้อนจากการเตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไร จากเครื่องดื่มกัญชงเป็นไตรามาสแรก ประกอบกับ ฐานกำไรไตรมาส 3/64 ยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 580 ล้านบาท เท่านั้น
*** กูรูมั่นใจกำไรปี 65 พลิกกลับมาโตได้
บล.ทิสโก้ ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ OSP ไว้ที่ 3.4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุน จากรายได้เครื่องดื่มพลังงานเติบโตขึ้น 2% (เติบโตเล็กน้อยเพราะฐานตลาดใหญ่แล้ว)ประกอบกับ คาดเครื่องดื่ม functional drink เติบโต 10% จากเครื่องดื่ม C-Vitt ที่ได้รับการตอบรับดี และการรับจ้างจำหน่ายเครื่องดื่มวิตามินยันฮีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ คาดรายได้ต่างประเทศ เติบโตขึ้น 10% จากการปรับโครงสร้างธุรกิจในเมียนมาเป็นหลัก และคาดยอดขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (personal care) เพิ่มขึ้น 10% ทั้งนี้ คาดอัตรามาร์จิ้นอยู่ที่ 34.3% จากแนวโน้มต้นทุน ที่เพิ่มขึ้น เช่น natural gas, soda ash ที่ใช้ในการผลิตขวด และราคาอลูมิเนียม ในการผลิตกระป๋อง เป็นต้น
โดยสรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ OSP ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
3,665 |
13 |
ฟินันเซียฯ |
3,647 |
12 |
ทิสโก้ |
3,465 |
8 |
*** โบรกฯชี้ ตัวเลือกน่าสนใจกลุ่มเครื่องดื่ม
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หุ้น OSP ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจลำดับต้นๆของหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม สะท้อนจากการอิงค่า P/E ปี 65 ที่เทรดอยู่ในระดับ 30 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นอยู่ที่ 33 เท่า นอกจากนี้ ยังมองว่า กำไรสุทธิของ OSP ผ่านจุดต่ำสุดช่วงไตรมาส 1/65 ไปแล้ว
ขณะที่ การเติบโตของยอดขาย OSP ยังทำได้ดีกว่าการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มอีกด้วย สะท้อนจากความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ และ ความแข็งแกร่งของตราสินค้าในสายตาผู้บริโภค ซึ่งหากระดับต้นทุนกลับสู่ภาวะปกติ ย่อมเป็นบวกต่อ GPM ของ OSP เพิ่มขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ OSP ยังเป็นบริษัทที่มีงบดุลอยู่ในระดับแข็งแกร่ง สะท้อนจากการมี Net cash ระดับสูงราว 3 พันล้านบาท เพียงพอต่อการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยปี 65 คาดว่า OSP จะจ่ายเงินปันผล คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 3%
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า มูลค่า (Valuation) ณ ปัจจุบัน ของ OSP มีความน่าสนใจขึ้นมาก หลังก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นปรับตัวลงมาพอสมควร จากความกังวลต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 จนทำให้ราคาหุ้นที่ซื้อ – ขาย ณ ปัจจุบันมีอัพไซด์น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการดำเนินงานของ OSP จะเร่งตัวขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป อีกทั้ง ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ในระดับ P/E ปี 65 ที่ต่ำกว่า 30 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ตั้งแต่เข้าซื้อ – ขายในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับ คาดปันผลปี 65 ให้ยีลด์ราว 3.2%
โดยสรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินเงินปันผลปี 65 ของ OSP ไว้ดังนี้
บล. |
%ยีลด์ |
ฟินันเซียฯ |
3.70 |
หยวนต้า |
3.20 |
เอเชีย พลัส |
3.00 |
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 65 ของ OSP จะสามารถพลิกกลับมาเติบโตได้ สะท้อนจากการเริ่มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/65 อีกทั้ง โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังมองว่า Valuation ณ ปัจจุบัน ของ OSP ค่อนข้างถูกและน่าสนใจเข้าสะสม
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
42.00 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
40.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
39.00 |
ดีบีเอสฯ |
ซื้อ |
38.50 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
37.00 |
ราคาเฉลี่ย |
39.30 |
หากอ้างอิงข้อมูลของโบรกเกอร์ พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงมั่นใจว่ากำไรปี 65 ของ OSP จะเติบโตในระดับเลข 2 หลักได้ แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 จะถูกรายงานออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ OSP ยังมีหลายปัจจัยหนุน อย่างการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งอาจทำให้ยอดขายทั้งในประเทศ – ต่างประเทศ เติบโตจากปีก่อนได้ และ การประหยัดต่อขนาดที่ทำได้ดีขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยไดรฟ์การเติบโตในปีนี้ ...