หุ้นเด่นวันนี้

CENTEL เด่นสุดกลุ่มโรงแรม...แต่อัพไซด์เริ่มจำกัด!

CENTEL เด่นสุดกลุ่มโรงแรม...แต่อัพไซด์เริ่มจำกัด!

CENTEL กลับมาอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนอีกครั้ง คาดได้รับปัจจัยหนุนหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย แต่โบรกฯ มองโควิดระลอกสอง ยังฉุดผลงาน Q1/64 ขาดทุนติดต่อกัน 5 ไตรมาส มองปีนี้ขาดทุนต่อเนื่อง ก่อนพลิกกำไรปี 65 หลังภาครัฐเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 64   

 *** CENTEL รับอานิสงส์โควิดเริ่มคลี่คลาย

หุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากได้รับ Sentiment เชิงบวก จากการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ ประกอบกับ จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงสู่ระดับต่ำ เหลือเพียงแค่ตัวเลข 2 หลัก/วัน เท่านั้น

 

*** โควิดยังฉุดผลงาน Q1/64 ขาดทุน 5 ไตรมาสติด 
 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของ CENTEL ยังรายงานขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน (ขาดทุนต่อเนื่อง 5 ไตรมาส) ที่ขาดทุนสุทธิ 1.3 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยลบกดดัน จากทั้งธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีเพียงโรงแรมที่มัลดีฟส์ (สัดส่วนรายได้ 17% ของธุรกิจโรงแรม) ทีเริ่มมีแนวโน้มการฟื้นตัว

ขณะที่ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของโรงแรม 2 แห่ง ในมัลดีฟส์ปรับตัวดีขึ้น โดยรายได้ต่อห้องพัก (RevPar) ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ติดลบลดลงเหลือ 58% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ที่ RevPar ติดลบ 85% เมื่อเทียบปีก่อน 

อย่างไรก็ตาม มองผลการดำเนินงานที่มัลดีฟส์ ไม่สามารถชดเชยรายได้ในประเทศที่ชะลอตัวลงได้ จากธุรกิจโรงแรมเหลือเปิดบริการเพียง 4 แห่ง (ไม่รวมมัลดีฟส์) เทียบกับไตรมาสก่อน เปิดบริการโรงแรมทั้งหมด 11 แห่ง ส่งผลให้ RevPar ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ติดลบถึง 88% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ส่วนธุรกิจอาหาร ยอดขายต่อสาขา (SSSG) ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ติดลบราว 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ SSSG เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เหลือติดลบที่ 24 - 25% จากภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มากขึ้น
 

*** ลุ้นผลงานฟื้นแรงครึ่งหลังปี 64 
 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมิน ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 64 ของ CENTEL จะฟื้นตัวได้โดดเด่นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 64 ตามการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหาร หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับ การทยอยเข้ามาของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งจะหนุนการบริโภคในประเทศดีขึ้น 

อีกทั้งภาครัฐ ยังมีมาตรการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ เตรียมขยายโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 เพิ่ม 2 ล้านสิทธิ์ห้องพัก สามารถใช้ได้ถึงเดือน ก.ค.64 รวมถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น มาตรการ Vaccine Passport และ Area Hotel Quarantine ซึ่งจะช่วยหนุนให้ RevPar ของ CENTEL ปรับตัวดีขึ้น 
 

*** ปีนี้ยังขาดทุนต่อ แต่แนวโน้มเริ่มดีขึ้น
 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินผลประกอบการปี 64 ของ CENTEL ยังขาดทุนสุทธิ 928 ล้านบาท แต่เป็นการขาดทุนลดลงจากปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 2.7 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากคาด RevPar ของธุรกิจโรงแรมทั้งปี พลิกกลับมาเติบโต 30% ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดปรับตัวขึ้นเป็น 32% สะท้อนการบริหารต้นทุนวัตถุดิบในธุรกิจอาหารที่ทำได้ดีขึ้น

สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่คาดว่าผลการดำเนินงานปี 64 ของ CENTEL จะขาดทุนลดลงจากปีก่อน เหลือขาดทุนสุทธิ 753 ล้านบาท โดยมองการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 64 ภายหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลง และมีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงดังกล่าว

ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 3 แห่ง ประเมินผลประกอบการปี 64 ของ CENTEL ไว้ดังนี้
 

บล. ขาดทุนสุทธิปี 64 (ลบ.) %Chg.YoY
เอเซีย พลัส -1,355   51
ฟิลลิป -808  70
ฟินันเซียฯ  -471 83


*** โบรกฯ มองงบดุลแกร่งสุดในกลุ่ม - กำไรปีนี้มีอัพไซด์
 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า CENTEL เป็นหุ้นที่มีงบดุลแข็งแกร่งสุดในกลุ่มฯ ปัจจุบัน อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 1.1 เท่า และยังมีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปแล้ว ในช่วงไตรมาส 4/63 ซึ่งโดยหลัก ต้องตั้งในปี 64 ทำให้งบการเงินปี 64 จะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว อีกแล้ว

นอกจากนี้ กำไรสุทธิปี 64 ของ CENTEL ยังมีอัพไซด์จากดีลธุรกิจอาหารทั้งหมด 2 ดีล ที่จะประกาศความชัดเจนภายในช่วงครึ่งแรกของปี 64 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิในปีนี้ให้ CENTEL ทันที 

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า CENTEL ได้ขอวงเงินสินเชื่อกับทางธนาคารรวมแล้ว 5.5 พันล้านบาท แต่ยังมีวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกราว 4 พันล้านบาท ประกอบกับ เงินสดในมือ ณ สิ้นไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการดำเนินงานในช่วงวิกฤติโควิด-19
 

*** แต่มูลค่าเริ่มตึงตัว
 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ของ CENTEL เริ่มตึงตัวมากขึ้น หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาเร็วและแรง จนทำให้อัพไซด์ระยะสั้นจำกัด โดยราคาหุ้น CENTEL จะมีอัพไซด์มากขึ้น หากตลาดหุ้นไทยกลับไปซื้อ - ขาย ที่ +1SD จะทำให้ได้กรอบราคาเหมาะสมราว 37.5 -38.5 บาท/หุ้น ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงการเริ่มเปิดประเทศในระยะถัดไป 
 

*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
 

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังแนะนำ"ซื้อ"เนื่องจากมองว่าผลประกอบการของ CENTEL มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากปีก่อน แม้ยังต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนต่ออีก 1 ปี แต่มองว่า ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 64 จะเป็นช่วงที่ผลประกอบการของ CENTEL ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น ส่งผลให้ปี 65 จะสามารถพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิได้สำเร็จ

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายราย ยังมีความเห็นคล้ายกันว่า CENTEL มีความน่าสนใจที่สุดในกลุ่มฯ เนื่องจากมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มฯ ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินงานในช่วงวิกฤติโควิด-19 
 

บล.  คำแนะนำ   ราคาเหมาะสม (บ.)
ฟิลลิป  ทยอยซื้อ 34.00
หยวนต้า เก็งกำไร 34.80
เคจีไอ ซื้อ     36.50
ยูโอบีฯ ซื้อ     38.00
บัวหลวง  ซื้อ     40.00
โนมูระฯ ซื้อ     40.00
เคทีบี  ซื้อ     40.00
ราคาเฉลี่ย 37.61


ต้องยอมรับว่าการเข้าลงทุนในหุ้น CENTEL ช่วงนี้ มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงมาต่อเนื่อง ทั้งที่ผลประกอบการในระยะสั้นยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ราคาหุ้นเริ่มมีอัพไซด์แคบลงเหลือไม่ถึง 10% ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบัน ฟื้นตัวกลับไปอยู่เหนือระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงต้นปี 63 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สะท้อนการรับปัจจัยบวกจากโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และ การเตรียมเปิดประเทศมากพอสมควรแล้ว....  







ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด