เช้านี้ JWD ดีดทำ All Time High หลังผู้บริหารแจงโยนบิ๊กล็อตให้"สุระ คณิตทวีกุล" ผู้บริหาร COM7- "พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี" นักลงทุนรายใหญ่ และ "ธีรพงศ์ จันศิริ" ผู้บริหาร TU ขณะที่ โบรกฯประเมินกำไรปีนี้ โต YoY-QoQ ทุกไตรมาส หลังธุรกิจเข้าช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ต้องอัพเป้ากำไรปี 64 – ราคาเหมาะสม ขึ้นใหม่ แต่การเข้าลงทุนในช่วงนี้ ยังน่าสนใจหรือไม่? ต้องติดตาม!
*** ดีด All Time High หลังโยนบิ๊กล็อตให้นักลงทุนรายใหญ่
บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ช่วงเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 16.60 บาท ทำสถิติราคาหุ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาด (All Time High) ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าไปด้วยราคา 15.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 8.45% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 370.71% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น JWD ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นทำ All Time High เนื่องจาก กำลังได้รับปัจจัยหนุน หลังผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 ราย เปิดเผยว่าได้ขายหุ้น Big Lot จำนวนรวม 49 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.8% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ให้กับ นักลงทุนรายใหญ่ 2 ราย คือ "สุระ คณิตทวีกุล" ผู้บริหาร COM7 และ "พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี" นักลงทุนรายใหญ่ จำนวน 20 ล้านหุ้น เท่ากัน
ส่วนอีก 9 ล้านหุ้นที่เหลือ ขายให้กับ "ฤทธิรงค์ บุญมีโชติ" จำนวน 6 ล้านหุ้น และ "ธีรพงศ์ จันศิริ" ผู้บริหาร TU จำนวน 3 ล้านหุ้น โดยการขายหุ้น Big Lot ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ร่วมมือเป็นพันธมิตรในการขยายเครือข่ายงานด้านโลจิสติกส์ในอนาคต
*** กำไร Q2/64 จ่อโตกระฉูด
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ของ JWD ไว้ที่ 120 ล้านบาท เติบโตขึ้น 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหนุน จากรายได้เกือบทุกธุรกิจเติบโตทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน ประกอบกับ ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์เข้าออกท่าเรือเพิ่มขึ้นเป็นราว 4.2 หมื่นตู้ เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 688 ตู้ นอกจากนี้ ประเมินว่า คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิของ JWD จะมีอัตราการให้เช้าในไตรมาส 2/64 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80-85% เทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ระดับ 75%
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ของ JWD มีแนวโน้มเติบโตทั้งเทียบปีก่อน และ ไตรมาสก่อน จากความต้องการรับฝากสินค้าคลังเย็นอยู่ในระดับสูง ประกอบกับงานขนยกตู้สินค้าเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 1.5 หมื่นตู้ จาก 1.2 หมื่นตู้ในช่วงไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ยังได้รับงานขนส่งวัคซีน Sinovac จำนวน 6.4 แสนโดส ในประเทศกัมพูชา ช่วยหนุนผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ อีกด้วย
*** กูรูคาดเตรียมทำ M&A อีก 2 ดีล เสริมแกร่งขนส่ง
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า JWD มีแผนนำบริษัทลูก อย่าง JWD Transport (JTS) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในปี 65-65 ทำให้คาดว่าภายในปีนี้ จะได้เห็น JWD ซื้อกิจการ (M&A)ในธุรกิจขนส่งทางเรือเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มกำไรให้กับ JWD และ JTS อย่างมีนัยสำคัญ
อนึ่ง การประกาศเข้าลงทุนใน VNS (สัดส่วนการถือครองหุ้น 99%) ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งภายในประเทศ และขนส่งข้ามพรมแดน มีรายได้ราว 800 ล้านบาท/ปี โดยทาง JWD จะเริ่มรวมงบการเงินของ VNS เข้ามา ตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 เป็นต้นไป
ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน JWD กำลังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ เพิ่มอีก 2 ดีล โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจการขนส่ง ซึ่งจะเห็นความชัดเจนภายในปี 64 และหากบรรลุข้อตกลงได้ตามกำหนด จะทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 64 และ 65 ที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ มีอัพไซด์ส่วนเพิ่มทันที
*** ธุรกิจขาขึ้น หนุนกำไรปีนี้โต YoY-QoQ ทุกไตรมาส
บล.เคทีบีเอสที ประเมินว่า กำไรสุทธิของ JWD ในปี 64 จะเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน ทุกไตรมาส โดยมีปัจจัยหนุน จากรายได้ธุรกิจเดิมเติบโตโดดเด่นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะจากธุรกิจคลังห้องเย็น, ยานยนต์, คลังสินค้าอันตราย และปริมาณตู้คอนเทนเนอร์เข้าออกท่าเรือเพิ่มขึ้น
ประกอบกับ คลังห้องเย็นใหม่ อาคาร 9 ที่ จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันมีอัตราการเช่าเกือบเต็มแล้ว ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ซึ่งขณะนี้ JWD กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา เพิ่มคลังห้องเย็นใหม่ในอาคาร 10 รวมถึง มีแผนขยายคลังห้องเย็นไปยังต่างจังหวัด เช่น จ.สระบุรี, สงขลา และ ขอนแก่น เป็นต้น ซึ่งจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายคลังห้องเย็นของ JWD ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ JWD จะขยายคลังห้องเย็นใหม่ในปีนี้อีก 2 แห่ง คือ ที่ จ.สระบุรี และ สงขลา ซึ่งคาดว่า จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ แผนขยายคลังห้องเย็นไปที่หัวเมืองภาคอื่น อาจต้องรอในปี 65 ซึ่งคาดว่า จะเป็นที่ จ.เชียงใหม่ และ ขอนแก่น เป็นต้น
*** โบรกฯเริ่มทยอยอัพเป้ากำไรปี 64 คาดโตระหว่าง 43-59%
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ JWD ขึ้นจากเดิมอีก 10% เป็น 444 ล้านบาท เติบโตขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ JWD สูงกว่าคาดการณ์ ประกอบกับ JWD จะรับรู้กำไรจาก VNS ในปีนี้อีกราว 20 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ JWD ขึ้นจากเดิมอีก 7% เพื่อสะท้อนการเติบโตของสินค้าอันตรายใหม่ที่ 8% (เดิมคาด 3%) และ รวมการขยายตัวของคลังสินค้าปกติ และควบคุมอุณหภูมิ ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นตลอดทั้งปี
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ JWD ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%chg. YoY |
เคทีบีฯ |
462 |
59 |
เอเชีย พลัส |
413 |
43 |
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" พร้อมอัพราคาเป้าหมาย
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" พร้อมปรับราคาเหมาะสม JWD ขึ้นด้วย เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างโดดเด่นทุกธุรกิจตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของนักวิเคราะห์ ยังอาจมีอัพไซด์ หาการทำ M&A และ ขยายคลังห้องเย็น สำเร็จทันเป้าหมาย
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) |
ราคาเหมาะสมเดิม (บ.) |
หยวนต้า |
ซื้อ |
16.90 |
13.20 |
ทิสโก้ |
ซื้อ |
15.50 |
12.80 |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
15.00 |
12.00 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
14.50 |
14.50 |
ราคาเฉลี่ย |
15.47 |
13.12 |
สำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาสนใจ JWD ในช่วงนี้ ดูเหมือนการเข้าลงทุนจะเริ่มมีความเสี่ยงขึ้นมากแล้ว เนื่องจากราคาหุ้น ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ใกล้เต็มมูลค่าเต็มที แม้นักวิเคราะห์จะเพิ่งปรับราคาเหมาะสมหุ้น JWD ขึ้นใหม่ก็ตาม โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงถึง 8.45% ช่วงเช้านี้ และ 98.80% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) อาจเป็นการตอบรับการเติบโตปีนี้มากพอสมควรแล้ว....