เช้านี้ BEM พุ่งสูงสุด 1.72% รับงบ Q2/65 จ่อฟื้นแรง หลังผู้ใช้ทางด่วน – รถไฟฟ้า ใกล้แตะระดับปกติ ตามการเปิดเมือง คาดจุดพีครออยู่ครึ่งปีหลัง เหตุรับอานิสงส์เปิดเมืองเต็มที่ – มีลุ้นขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าอีก 2% ดันกำไรทั้งปี 65 ฟื้นแรง 128 – 169%
*** เช้านี้พุ่งสูงสุด 1.72% รับงบ Q2/65 จ่อฟื้นแรง
ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ช่วงเช้าวันนี้ (28 มิ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 1.72% ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 8.8 บาท เพิ่มขึ้น 0.1 บาท หรือ 1.15% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 85.40% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น BEM เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.72% เนื่องจากมีปัจจัยหนุน หลังโบรกเกอร์ส่วนใหญ่คาดหมายว่า BEM จะสามารถรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน (YoY) และ ไตรมาสก่อน (QoQ)
*** เปิดสาเหตุ อะไรทำกูรูมั่นใจงบ Q2/65 ฟื้นแรง
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ BEM ไว้ที่ 700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 249% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 108% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากการทยอยลดการทำงานที่บ้าน (WFH) ประกอบกับ ภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดประเทศ
ซึ่งสอดคล้องกับการรายงานตัวเลขประจำเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ของ BEM ที่มีอัตราการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม แม้จะมีวันหยุดยาวในช่วงต้นเดือน แต่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเดือน พ.ค. อยู่ที่ 2.3 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 154% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 28% จากเดือน เม.ย.65 ส่วนผู้ใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.04 ล้านเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 6% จากเดือนก่อน
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวเลขการใช้บริการทางด่วน และ ผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ BEM รายงานออกมาในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ โดยปริมาณรถที่วิ่งผ่านทางด่วนของ BEM ณ ปัจจุบัน เริ่มกลับเข้าสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีจำนวน 1.2 ล้านเที่ยว/วัน
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่า การกลับมาใช้ชีวิตตามปกติของผู้คน จะส่งผลให้ปริมาณรถวิ่งบนทางด่วน กลับสู่ระดับปกติได้ไม่ยาก จากแผนการเปิดประเทศที่ชัดเจน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า คาดจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือน พ.ค.65 และ จะค่อยๆเพิ่มสู่ระดับปกติ (ก่อนโควิด-19) ที่เคยแตะจุดสูงสุดที่ 4 แสนเที่ยว/วัน ได้ไม่ยาก
*** กูรูคาดจุดพีคของกำไรปีนี้ รออยู่ครึ่งปีหลัง
บล.เคทีบีเอสที ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ BEM ในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุด (พีค) ของปีนี้ ตามการทยอยลดการทำงานที่บ้าน และ ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น สอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว หลังมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดวิด-19 ลดความเข้มงวดลง
ขณะที่ บล.ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามผู้บริหาร BEM ล่าสุด พบว่า จำนวนรถผ่านทางด่วนในเดือนมิ.ย.65 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 1.04 ล้านคัน/วัน โดยตัวเลขดังกล่าว ยังเป็นการขยับเข้าใกล้จำนวนปกติที่ 1.2 ล้านคัน/วัน เข้าไปทุกที ขณะที่ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 แสนเที่ยว/วัน (เฉพาะ จ – ศ.)
ส่วน บล.กรุงศรี เสริมว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยหนุนผลการดำเนินงาน BEM อย่าง การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าอีก 2% โดยสัญญาสัมปทานระหว่าง BEM กับ รฟม. อนุญาตให้ค่าโดยสารปรับขึ้นทุก 2 ปี อ้างอิงตาม CPI ของกรุงเทพฯ ไม่รวมอาหาร การปรับครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.63 และรอบนี้จะเป็นใน ก.ค.65
ทั้งนี้ BEM ได้แจ้งต่อรฟม. แล้วว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่รฟม. อยู่ระหว่างการพิจารณาเวลาการปรับขึ้น อาจมีความล่าช้าในการปรับขึ้นราคาอยู่บ้าง แต่คาด รฟม. จะใช้ระยะเวลาในการพิจาณาในหลักเดือนเท่านั้น ไม่ใช่หลักปี จึงมีความเป็นไปได้ที่ BEM จะสามารถปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าในเร็วๆนี้
*** กำไรปีนี้ จ่อฟื้นแรงเกิน 100% แม้ธุรกิจยังไม่ปกติ
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า แม้จำนวนผู้ใช้บริการทางด่วน และ รถไฟฟ้า เฉลี่ยทั้งปี 65 ยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่มองว่า กำไรสุทธิปี 65 ของ BEM จะทำได้ราว 2.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 128% จากปีก่อน บนสมมติฐาน จำนวนการใช้ทางด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 88% ของภาวะปกติ และ ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 76% ของภาวะปกติ
โดยสรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ BEM ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
2,726 |
169 |
เคทีบีฯ |
2,687 |
166 |
โนมูระฯ |
2,309 |
128 |
*** โบรกฯมั่นใจหุ้นไปต่อ ปัจจัยหนุนรออยู่เพียบ
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ราคาหุ้น BEM ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น Outperform ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ราว 8% จากการกลับมาเปิดเรียนแบบ on-site และ การทยอยลดการทำงานที่บ้าน โดยมองว่า ราคาหุ้น BEM ในระยะถัดไป มีโอกาส Outperform ดัชนีหุ้นไทย ได้อย่างต่อเนื่อง
สาเหตุหลักที่ทำให้คิดเช่นนั้น เป็นเพราะ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ คาดการฟื้นตัวดังกล่าว จะลากยาวไปถึงในช่วงครึ่งหลังของปี 65 อีกด้วย นอกจากนี้ หุ้น BEM ยังมี catalyst ใหญ่ จากการยื่นซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม ที่จะประกาศผลเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งหากชนะ จะเป็นอัพไซด์ต่อราคาอีก 3 บาท/หุ้น
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากตัวเลขผู้ใช้ทางด่วน และ ผู้โดยสารรถไฟฟ้า ช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย.65 ที่เห็นการฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ทำให้เรามั่นใจว่า BEM จะสามารถรักษา Momentum ที่ดีดังกล่าว ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี จึงทำให้หุ้น BEM ยังมีความน่าสนใจเข้า"ซื้อ"
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานของ BEM ได้ผ่านจุดต่ำสุด จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปแล้ว โดยการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวเริ่มลดลง จนใกล้สู่การเป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลให้การเดินทางในประเทศกลับสู่ภาวะใกล้ปกติ เป็นปัจจัยหลัก หนุนผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
10.30 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
10.20 |
กรุงศรี |
ซื้อ |
10.00 |
ดีบีเอสฯ |
ซื้อ |
10.00 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
9.50 |
ราคาเฉลี่ย |
10.00 |
ราคาหุ้น BEM ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์เหลือให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 15% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้งเมื่ออ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จะพบว่า ผลการดำเนินงานของ BEM มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังมองว่า หุ้น BEM ยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นเพิ่มเติม อาทิ การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าอีก 2% และ การชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงเดือน ต.ค.นี้ อีกด้วย ...