เช้านี้ CENTEL ดีดทำนิวไฮรอบ 3 ปี รับกระแสข่าว สธ.เตรียมชง ศบค.คลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ โบรกฯประเมิน Q1/65 ยังมีกำไรต่อแม้โควิดในประเทศพุ่ง แต่ไม่มีล็อกดาวน์ ชี้ปัจจัยหนุนปีนี้ คือ โรงแรมมัลดีฟส์ – ดูไบ โตแรง หนุนต้องอัพเป้าปีนี้ คาดพลิกกำไรในรอบ 2 ปี ราว 400 – 658 ลบ.
*** นิวไฮรอบ 3 ปี รับ สธ.จ่อชง ศบค. ผ่อนคลายคุมโควิด
ราคาหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ช่วงเช้าวันนี้ (18 มี.ค.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 40.25 บาท ทำระดับราคาหุ้นสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รอบ 3 ปี ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าไปด้วยราคา 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 6% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 288.06% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CENTEL ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 3 ปี เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อาทิ Test & Go ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
*** คาด Q1/65 มีกำไร แม้ติดเชื้อโควิดในประเทศพุ่ง
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ CENTEL ยังมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท แม้จะเป็นช่วงที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนช่วงปี 63 – 64 ส่งผลให้อัตราการเข้าพักยังทรงตัวจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติม จากธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟส์ และโรงแรมแห่งใหม่ในดูไบ อยู่ในช่วงไฮซีซั่น ขณะเดียวกัน การนำมาตรการ Test & Go กลับมาใช้ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เร็วกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ยังเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อธุรกิจหลักของ CENTEL ในช่วงไตรมาส 1/65 อีกด้วย
สอดคล้องกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ CENTEL ยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน สะท้อนจากธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟส์ และดูไบ เติบโตต่อเนื่อง เช่นเดี่ยวกับธุรกิจอาหาร แต่ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ยังเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานในช่วงต้นปีอยู่บ้าง
*** ปัจจัยดันการโตปีนี้ คือ โรงแรมมัลดีฟส์ - ดูไบ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า ปัจจัยหนุนการเติบโตของ CENTEL ปีนี้ คือ ธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟส์ และ ดูไบ สะท้อนจาก RevPAR ของโรงแรมในมัลดีฟส์ ได้ปรับตัวขึ้นเหนือระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้ว พร้อมกับอัตราการเข้าพัก (OCC rate) ที่ดีถึงประมาณ 81% ในช่วงไตรมาส 4/64
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้เรามั่นใจว่า โรงแรมในมัลดีฟส์ จะรายงานกำไรสุทธิปี 65 ได้ ด้วย OCC rate ระดับ 75% ขณะที่ โรงแรมในดูไบ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมือเดือน ต.ค.64 มี OCC rate อยู่ในระดับ 58% ในช่วงไตรมาส 4/64 ซึ่งหากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นไปเช่นปัจจุบัน จะทำให้โรงแรมในดูไบของ CENTEL รายงานกำไรสุทธิในปี 65 ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยปี 65 มองว่า อยู่ในช่วงฟื้นตัว จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ฉุดผลการดำเนินงานมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การควบคุมโรคที่ผ่อนคลายขึ้น จะส่งผลให้ EBITDA ของโรงแรมในไทย พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในปีนี้
*** โบรกฯแห่อัพเป้ากำไรปีนี้ หลังธุรกิจเริ่มเห็นแสงสว่าง
บล.กรุงศรี ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ CENTEL ขึ้นเป็น 581 ล้านบาท เทียบปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 1.7 พันล้านบาท (เดิมคาดขาดทุนสุทธิ 962 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ครั้งแรกในรอบ 2 ปี สะท้อนจาก การปรับโครงสร้างอัตรากำไรที่ดีขึ้น ตามสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ต่อยอดขายที่ดีขึ้นเป็น 34%
นอกจากนี้ ยังเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ของธุรกิจโรงแรมเป็น 66% (เดิม 60%) อีกส่วนหนึ่ง คือ การปรับสมมติฐานอัตราการเข้าพักเป็น 46% สะท้อจาก Guidance ของ CENTEL ที่ประเมินไว้ราว 40 – 50% ซึ่งช่วยชดเชยการปรับการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ลงเป็น 12% (เดิมคาด 15%) ตาม Guidance
ขณะที่ นักวิเคราะห์ อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CENTEL ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
หยวนต้า |
658 |
พลิกกำไร |
ฟินันเซียฯ |
400 |
พลิกกำไร |
*** กูรูมอง Valuation กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ปัจจุบันของ CENTEL กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง สะท้อนจากนักวิเคราะห์ในตลาดที่เริ่มปรับกำไรปี 65 ของ CENTEL ขึ้น ทำให้ราคาเป้าหมายของ CENTEL ถูกปรับเพิ่มขึ้น จนมีอัพไซด์ที่น่าสนใจ ประกอบกับ CENTEL ยังเทรด P/E ปี 66 เพียง 23 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่เทรดอยู่ในระดับ 32 เท่า
ทั้งนี้ เรามองว่าระดับ P/E ปี 66 ของ CENTEL ที่ต่ำเพียง 23 เท่า เป็นระดับที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะกำไรสุทธิของ CENTEL ในช่วงปี 66 มีแนวโน้มกลับมาเติบโตมากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดวิด-19 ถึง 20% เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 400% จากปี 65
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า CENTEL เป็นผู้ประกอบการโรงแรมไทย ที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) สุทธิเพียง 0.68 เท่า ณ สิ้นปี 64 ซึ่งเป็นผล จากธุรกิจร้านอาหารที่ปรับตัวได้ดี หรือ 60% ของรายได้ปกติ ทำให้สามารถขยายธุรกิจในเชิงรุกหลังโควิด-19 ได้
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" พร้อมอัพเป้าราคา
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" พร้อมปรับราคาเหมาะสมของ CENTEL ขึ้นด้วย โดยมีปัจจัยหนุน จากการปรับเพิ่มคาดการณ์งบปี 65 พลิกเป็นกำไรได้ หลังธุรกิจโรงแรมในไทย และ ต่างประเทศส่งสัญญาณฟื้นตัว ประกอบกับ ธุรกิจร้านอาหาร ที่มีแนวโมฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) |
ราคาเหมาะสมเดิม (บ.) |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
45.00 |
40.00 |
กรุงศรี |
ซื้อ |
44.00 |
36.00 |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อ |
44.00 |
30.80 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
44.00 |
40.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
43.00 |
40.50 |
ราคาเฉลี่ย |
44.00 |
37.46 |
เดิมที CENTEL เป็นอีก 1 บริษัท ที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานไปมากพอสมควรแล้ว หลังราคาหุ้นก่อนหน้านี้ ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังเปิดประเทศ แต่ยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ปี 65 เป็นปีที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ มองว่า ธุรกิจหลักของ CENTEL จะฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นทั้ง 2 ขา จึงทำให้นักวิเคราะห์ ปรับราคาเหมาะสมขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้น CENTEL ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์อยู่ราว 10% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ ...