เช้านี้ CKP พุ่งสูงสุด 1.72% หลังธุรกิจออกช่วงโลว์ซีซั่น ด้านโบรกฯมั่นใจกำไร Q2/65 จ่อฟื้นทั้ง YoY – QoQ ตามการเข้าสู่ฤดูฝน หนุนกระแสน้ำผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ก่อนพีคสุดช่วง Q3/65 กางสถิติ 8 ปีหลัง พบราคาหุ้นช่วง Q2-Q3 ทุกปี ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 30% สอดรับงบเข้าไฮซีซั่น !
*** เช้านี้พุ่งสูงสุด 1.72% หลังหมดโลว์ซีซั่น
ราคาหุ้น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ช่วงเช้าวันนี้ (22 มิ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 5.9 บาท เพิ่มขึ้น 1.72% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.86% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 69.56% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CKP เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.72% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 10.58 จุด หรือ -0.67% เนื่องจากมีปัจจัยขับเคลื่อนเฉพาะตัว อย่างผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน ที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ
*** กูรูมั่นใจกำไร Q2/65 โตทั้ง YoY – QoQ
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ CKP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และ ไตรมาสก่อน (QoQ) มีปัจจัยหนุนจากการผลิตไฟฟ้าของโรงไซยะบุรี (XPCL) สูงขึ้น และ สัดส่วนการถือหุ้น XPCL เพิ่มขึ้นเป็น 42.5% (เดิม 37.5%)
ทั้งนี้ หากใช้สมมตฐานการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ในเดือนมิ.ย.นี้ เท่ากับระดับต้นปี 64 ที่ 751 GWh จะมีส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 756 ล้านบาท (ไตรมาส 2/64 มีส่วนแบ่งกำไร 532 ล้านบาท) ทำให้ภาพรวมคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ CKP อยู่ที่ 850 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน แ ละ เติบโตขึ้น 2,136% จากไตรมาสก่อน
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ของ CKP มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น มีปัจจัยหนุนจากการเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ส่งผลให้กระแสน้ำในเขื่อนที่ใช้ผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น โดย CKP ประกาศความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เพิ่มขึ้นมาเป็น 381 GWh (ไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 331 GWh)
ขณะที่ โรงไฟฟ้าไซยะบุรี คาดว่า จะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาสก่อนได้เช่นกัน สะท้อนจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่สูงขึ้น โดยเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.8 พันลบ.ม./วินาที ขณะที่ ค่าเฉลี่ยช่วงไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 1.7 พันลบ.ม./วินาที
*** กางสถิติ ทั้งราคาหุ้น – กำไร มักพีค Q3
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า จากการสำรวจสถิติการเคลื่อนไหวราคาหุ้น CKP ย้อนหลัง พบว่า ราคาหุ้น CKP จะเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงไตรมาส 2 ของทุกปี และทำจุดสูงสุดช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี โดยคาดว่า เกิดจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ CKP เป็นจุดพีคปีนี้ อยู่ที่ 1 – 1.2 พันล้านบาท ตามการเข้าสู่ช่วงน้ำหลาก ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีกระแสน้ำมากที่สุดของปี หนุนความสามารถในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 และ โรงไฟฟ้าไซยะบุรี เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
*** โครงการใหม่ อาจเพิ่มมูลค่าหุ้น 4.3 บาท
ก่อนหน้านี้ไม่นาน CKP ประกาศว่า ได้เซ็นบันทึกความเข้าใจกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เพื่อกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.4 บาท/KWh สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งใหม่หลวงพระบาง (LPB) และจะเริ่มขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ในปี 73
โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า โครงการ LPB อาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้ CKP ราว 4.3 บาท/หุ้น โดยมีสมมตฐาน คือ อายุการดำเนินงานที่ยาวนานถึง 36 ปี นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 73, อัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.4 บาท/KWh และ ค่า CF ต่อปีเฉลี่ยที่ อาจต่ำกว่าระดับ 50% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่า CF ของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี เฉลี่ยอยู่ที่ 60%
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า (65 – 67) CKP ตั้งเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 2,800 MW รวมเป็น 4,800 MW ในปี 67 โดยส่วนใหญ่ยังเป็นพลังงานน้ำ
*** โบรกฯชี้ ถึงเวลาเข้าสะสมหุ้นแล้ว
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า การเข้าสะสมหุ้น CKP ในช่วงนี้ ยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากยังมั่นใจว่าราคาหุ้น CKP จะสามารถ Outperform ดัชนีหุ้นไทยต่อไป จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ในช่วงไตรมาส 2 – 3/65 โดยข้อมูล 8 ปี ย้อนหลัง ตั้งแต่ CKP เข้าตลาดหุ้นไทย พบว่าราคาหุ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 – 3 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 30%
เช่นเดียวกับ บล.กรุงศรี ที่มองว่า หุ้น CKP ยังมีความน่าสนใจเข้าสะสมในช่วงนี้ สะท้อนจากความเป็นไปได้ของการเกิดภาวะอากาศลานีญาสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3/65 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้กระแสน้ำของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และ น้ำงึม 2 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ราว 2 พันล้านบาท
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานของ CKP กำลังอยู่ในช่วงไต่ระดับขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 3/65 สอดคล้องกับ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ที่สถิติในอดีตมักแสดงให้เห็นว่า มักเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับผลการดำเนินงาน
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
7.40 |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
6.60 |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อ |
6.50 |
กรุงศรี |
ซื้อ |
6.50 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
6.40 |
ราคาเฉลี่ย |
6.68 |
หากอ้างอิงข้อมูลในอดีต จะพบว่า ราคาหุ้น CKP ในช่วงไตรมาส 2 - 3 ของทุกปี มักเคลื่อนไหวสอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้น ตามการเข้าสู่ฤดูฝน ขณะที่ การสำรวจข้อมูลจากโบรกเกอร์ล่าสุด ส่วนใหญ่ก็ยังมีท่าทีมั่นใจว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2-3/65 ของ CKP จะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง และ ทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 3/65