เช้านี้ PTTEP ดีดทำนิวไฮรอบ 2 ปี ตามราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสุดรอบ 7 ปี ขณะที่โบรกฯมองช่วงสั้น ราคาน้ำมันยังไปต่อ เหตุ"โอไมครอน"ไม่กดดันความต้องการใช้น้ำมันอย่างที่คิด ด้านงบ Q4/64 คาดโตแรง 285 – 293% YoY ยอดขาย – ราคาขาย หนุน ส่วนกำไรปี 65 โตต่อเนื่องราว 20 - 46%YoY
*** นิวไฮ 2 ปี ตามราคาน้ำมันดิบสูงสุดรอบ 7 ปี
ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ช่วงเช้าวันนี้ (19 ม.ค.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 129.50 บาท ทำนิวไฮรอบ 2 ปี ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 127.5 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.79% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 141.01% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไอร่า ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น PTTEP ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้น ทำนิวไฮรอบ 2 ปี เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.65 ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี
ล่าสุดอยู่ที่ 85.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุน จากกลุ่มกบฏฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ใกล้กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) กระตุ้นความกังวลความตึงเครียดในพื้นที่ตะวันออกกลาง
*** ลุ้นราคาน้ำมันดิบ แตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ระยะสั้น ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง เพราะตลาดยังตึงตัวต่อเนื่องจากปี 64 สะท้อนจากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงต่อเนื่อง, การคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่มีอาการไม่รุนแรง หนุนให้กิจกรรมการเดินทาง และความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัว
นอกจากนี้ ยังมีการปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันของประเทศลิเบีย และการปรับเพิ่มมุมมองตลาดน้ำมันของกลุ่มองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP ที่เป็นหุ้นพลังงานต้นน้ำ
เช่นเดียวกับ บล.ไอร่า ที่มองว่า ราคาน้ำมันดิบในช่วงสั้น ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลัก จากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่เริ่มคลายความกังวลลง จนไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบมากนัก ประกอบกับ สมาชิก OPEC บางประเทศ ยังคงติดปัญหาไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามโควตา
ขณะที่ Goldman Sachs Group ระบุว่า จากแนวโน้มปริมาณน้ำมันดิบที่ค่อนข้างตึงตัว ทำให้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นถึง 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงไตรมาส 3/65
*** จับตา! กำไร Q4/64 จ่อโตระหว่าง 285 - 293%
บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ PTTEP ไว้ที่ 9.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 285% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำไรปกติปรับตัวขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน จากยอดขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดยอดขายปิโตรเลียมเฉลี่ย อยู่ที่ 4.19 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 15.3% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากโครงการ Sabah K
นอกจากนี้ ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 46.8 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 27.2% จากปีก่อน เป็นผลมาจากราคาขายก๊าซธรรมชาติ และราคาน้ำมัน ปรับตัวขึ้น ทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
ขณะที่ บล.บัวหลวง ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ PTTEP ไว้ที่ 9.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 293% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน ประกอบกับ ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยสูงขึ้น ทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน อีกทั้ง ต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากปีก่อน
*** คาดกำไรปี 65 โต 20 – 46% เหตุดีมานด์น้ำมันฟื้น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP ไว้ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน บนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 65 เฉลี่ยที่ 67 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ กรณี ราคาน้ำมันดิบทั้งปี 65 เฉลี่ยสูงกว่าคาดการณ์ ทุก 1 ดอลลาร์/บาร์เรล จะเพิ่มกำไรให้ PTTEP 870 ล้านบาท และราคาเหมาะสมอีก 2.3 บาท/หุ้น
เช่นเดียวกับ บล.เคทีบีเอสที ที่ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP ไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่สูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์โครงการในอ่าวไทย ประกอบกับ การรับรู้ปริมาณการขายจากโครงการใหม่ อาทิ Oman Block 61, Sabah H, G/61 และ Algeria HBR3
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุน จากราคาขายเฉลี่ยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และ Unit cost ต่ำลง ซึ่งเป็นผลจากส่วนประหยัดต่อขนาด (Economies of scale) ที่ดีขึ้น จากปริมาณการขายที่สูงขึ้น
สรุป นักวิเคราะห์ 4 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
ทรีนีตี้ |
54,631 |
46 |
บัวหลวง |
50,874 |
33 |
เคทีบีฯ |
50,603 |
26 |
หยวนต้า |
51,573 |
20 |
*** กูรูชี้ระยะสั้นน่าสนใจ แต่ระยะยาวระวังอุปทานล้น
บล.เอชีย เวลท์ มองว่า การเข้าลงทุนในหุ้น PTTEP ช่วงสั้นยังมีความน่าสนใจ จาก Sentiment เชิงบวก ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นตาม Seasonal Demand อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากอุปทานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป ตามมติ OPEC+ ที่จะเพิ่มกำลังผลิต 4 แสนบาร์เรล/วัน ทุกเดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.65 เป็นต้นไป
รวมทั้งกลุ่มนอก OPEC ยังจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ปัญหาด้านอุปทาน จะกลับมากดดันราคาน้ำมันดิบในระยะถัดไปได้
*** โบรกฯส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เพราะมองว่ากำไรสุทธิในช่วงสั้นของ PTTEP จะได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง หนุนให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 65 ของ PTTEP ยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากปีก่อน
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
บัวหลวง |
ซื้อ |
145.00 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
145.00 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
143.00 |
เอเชีย เวลท์ |
ซื้อ |
140.00 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
135.00 |
ราคาเฉลี่ย |
141.60 |
หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ ดูเหมือนส่วนใหญ่มองว่าราคาหุ้น PTTEP ในช่วงไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มเป็นเทรนด์ขาขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ระยะยาวยังมีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง คือ การเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ในช่วงเดือน เม.ย.65 ขณะที่ ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์ราว 10% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกฯ