RPH เปิดงบโค้ง 3 กำไรสุทธิโตกระฉูด! ทั้ง YoY และ QoQ แต่ราคาหุ้นรูดแรงรับข่าว ประเด็นแรกคือแม้โตสูงแต่ก็ผิดเป้าไปจากที่กูรูคาดไว้ อย่างไรก็ดีแนวโน้มการเติบโตของปี 62 - 63 ก็ยังแข็งแกร่งกว่ากลุ่มโรงพยาบาลด้วยกันอยู่มาก ในขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายบน P/E ที่สูงกว่ากลุ่มมากเช่นกัน
ราคาหุ้น บมจ.โรงพยาบาลราชพฤกษ์ หรือ RPH เปิดตลาดร่วงแรงทำจุดต่ำสุดช่วงเช้าที่ 7.10 บาท ลดลงแรงจากวันก่อนหน้าที่ทำ All Time High ไปที่ 8.10 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้นมาปิดตลาดช่วงเช้าที่ 7.40 บาท ลดลง 0.65 บาท หรือ 8.07% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 314.74% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
RPH ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลในชื่อ "โรงพยาบาลราชพฤกษ์" ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอินโดจีน
ในด้านผลงานของ RPH ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (59-61) กำไรสุทธิลดลงต่อเนื่องที่ 68 ล้านบาท 63 ล้านบาท และ 48 ล้านบาท ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากการลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 62 เริ่มกลับมาฟื้นตัวเพราะรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลแห่งใหม่เข้ามาเต็มปี โดยกำไรสุทธิทำไปได้ที่ 47 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ทำได้ในปี 61 ทั้งปี ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาตอบรับตั้งแต่ มี.ค. 62 ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.80 บาท ขึ้นมาแตะจุดสูงสุดตลอดกาล 8.10 บาท ไปวานนี้ (7 พ.ย.)
*** แจ้งงบไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิโตกระฉูดถึง 207% หนุนกำไรสุทธิทำ All Time High แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก่อนหน้า
ล่าสุด RPH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 ออกมามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.2 ล้านบาท โตถึง 207% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 8.8 ล้านบาท สาเหตุหลักคือการรับรู้รายได้โรงพยาบาลใหม่ทำให้ รายได้เติบโตถึง 42.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ต้นทุนกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นน้อยกว่า คือ 36% ทำให้อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)เพิ่มขึ้นมาเป็น 12.26% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5.74%
นอกจากนี้ยังทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 62 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 74 ล้านบาท โต 64.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมากกว่ากำไรทั้งปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แม้กำไรสุทธิจะเติบโตสูงมาก แต่จากการสำรวจพบว่ายังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เคยประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 ไว้ที่ 31 ล้านบาท โต 250% YoY
ขณะที่บล.เคทีบี ประเมินไว้ที่ 29 ล้านบาท โต 228% YoY
*** ส่องพบสาเหตุกำไรสุทธิต่ำคาดไม่น่ากังวล เพราะเป็นเพียงค่าใช้จ่ายขอรับรองมาตรฐานระดับสากลเท่านั้น ส่วนแนวโน้มทั้งปี 62 - 63 ก็ยังแกร่งกว่ากลุ่ม
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุ กำไรสุทธิไตรมาส 3/62 ที่ออกมาถือว่ายังเป็นไปตามคาด เพราะหากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการขอรับรองมาตรฐานระดับสากล(JCI) กำไรสุทธิจะทำได้ที่ 29.6 ล้านบาท โต 234% YoY เป็นไปตามที่คาดไว้
ดังนั้นยังประเมินกำไรสุทธิปี 62 จะเติบโตสูง 114% YoY และเติบโตต่ออีก 21% YoY ในปี 63 ทั้งจากส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้น และมีการประหยัดต่อขนาด(Economy of Scale)มากขึ้น และมีแผนกใหม่ที่จะทำให้อัตรากำไรสูงขึ้นมาก
แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 8.60 บาท RPH จะเป็นโรงพยาบาลที่มีการเติบโตของกำไรสูงกว่ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ
บล.เคทีบี มองกำไรสุทธิยังทำได้ใกล้เคียงกับที่คาด แม้จะมีค่าใช้จ่าย JCI ของโรงพยาบาลอยู่ที่ 3.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิไตรมาส 4/62 จะปรับตัวดีขึ้น YoY แม้จะลดลง QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น
ดังนั้นด้วยกำไรสุทธิ 9 เดือนที่คิดเป็น 77% ของประมาณการแล้ว จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 96 ล้านบาท โต 98% YoY
แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท อิง P/E ปี 63 ที่ 37.1 เท่า ปัจจุบัน RPH ซื้อขายที่ P/E ปี 63 ที่ 35.7 เท่า ซึ่งราคาในปัจจุบันยังน่าสนใจ เนื่องจากมี 2020E PER to growth (PEG) อยู่ที่ 1.51 เท่า ต่ำกว่า peers ซึ่งอยู่ที่ 2.5 เท่า
*** กำไรแกร่งกว่ากลุ่ม แต่ P/E ก็เช่นกัน
แม้นักวิเคราะห์มองว่าผลประกอบการของ RPH จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่ในแง่ราคาหุ้นก็ต้องพิจารณา เพราะ RPH เทรดที่ P/E สูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มโรงพยาบาลที่ 74 เท่า
P/E หุ้นโรงพยาบาล ที่ราคาปิดวันที่ 7 พ.ย.
หุ้น |
P/E(เท่า) |
WPH |
144.98 |
RPH |
74.05 |
THG |
58.03 |
CHG |
49.49 |
VIBHA |
40.83 |
PR9 |
40.56 |
BCH |
37.29 |
LPH |
29.54 |
EKH |
29.23 |
BDMS |
26 |
BH |
24.66 |
แต่หาก RPH สามารถทำกำไรสุทธิปี 62 ได้ตามคาดที่ 96 ล้านบาท คิดจากราคาต้ำสุดของวันนี้ที่ 7.10 บาท ค่า P/E จะอยู่ที่ราว 40 เท่า (คำนวณจากกำไรสุทธิปี 62 ที่ 96 ลบ. คิดเป็น กำไรต่อหุ้นที่(EPS)0.175 บาท/หุ้น)
การเติบโตของ RPH โดดเด่นมากหรับกลุ่มโรงพยาบาล อย่างไรก็ดีนักลงทุนต้องพิจารณาด้วยว่าการขยายโรงพยาบาลในอนาคตจะทำได้อีกมากแค่ไหน และ ราคาหุ้นขึ้นไปสะท้อนผลประกอบการไปแล้วหรือยัง