CPF เทรดคึกคัก คาดรับปัจจัยหนุนนักลงทุนแห่ย้ายเงินพักใน CPF หลังกังวลโควิด-19–บาทอ่อน ขณะที่โบรกฯมองกำไร Q1/64 ทำนิวไฮ หลังราคาเนื้อสัตว์อยู่ในระดับสูง-รับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 86.6% ส่วนราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูงราว 32%
*** โบรกฯมองเป็นหุ้นพักเงินช่วงโควิด–อานิสงส์บาทอ่อน
ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ CPF ช่วงเช้าวันนี้(8 เม.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ราคา 29.75 บาท ก่อนปิดซื้อขายช่วงเช้าที่ราคา 29 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.87% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 99.31% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้ CPF ปิดซื้อขายช่วงเช้าในแดนบวก เนื่องจากมองว่า CPF เป็นที่พักเงินของนักลงทุน หลังตลาดกลับมากังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง สะท้อนจากราคาหุ้นกลุ่มอาหาร ปรับตัว Outperform เมื่อเทียบกับการระบาดของโควิด-19 ครั้งแรก ในช่วงต้นปี 63
นอกจากนี้ CPF ยังได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุน Sentiment ในการลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วย
*** ราคาเนื้อสัตว์ หนุนกำไร Q1/64 ทำนิวไฮ คาดโค 13.3 – 25%
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ของ CPF ไว้ที่ 7.6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่รายไตรมาส (นิวไฮ) โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาสุกรในประเทศไทย, เวียดนาม,ลาว และกัมพูชา ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ ปริมาณขายสุกรในประเทศไทย และเวียดนามยังเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ปริมาณขายอาหารสัตว์ในประเทศจีนเพิ่มขึ้น และเป็นไตรมาสแรกที่ CPF รับรู้รายได้จากธุรกิจเนื้อสุกรในประเทศจีนที่ยังมีราคาสูงถึง 30 หยวน/กก.ซึ่งสูงกว่าต้นทุนที่ 17 หยวน/กก.
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ของ CPF ไว้ที่ 6.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจในประเทศฟื้นตัว สะท้อนจากราคาสุกรและไก่ฟื้นตัว หลังผ่านเทศกาลกินเจในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ ธุรกิจต่างประเทศ ที่กำลังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจสุกรในประเทศเวียดนาม และกัมพูชาเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 1/64 ยังคาดว่า CPF จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 86.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการรวมส่วนแบ่งกำไรจาก CTI (ธุรกิจอาหารสัตว์และสุกรจีน) เข้ามาเต็มไตรมาส
*** ลงทุนเพิ่มใน CPA หนุนการเติบโตระยะกลาง–ยาว
ก่อนหน้านี้ CPF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นใน C.P. Aquaculture (India) Private Limited (CPA) ซึ่งเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายอาหารกุ้ง ฟาร์มเพาะลูกกุ้ง และจำหน่ายกุ้งแปรรูปขั้นต้นในประเทศอินเดีย ซึ่งการลงทุนใน CPA คิดเป็นมูลค่า 3.4 พันล้านรูปี (ประมาณ 1.4 พันล้านบาท) เพิ่มสัดส่วนจากเดิม 31.7% เป็น 75% คิดเป็น 1.16% ของสินทรัพย์จับต้องได้ทั้งหมด และ 0.2% ของสินทรัพย์รวม
โดย บล.ทิสโก้ มีมุมมองเป็นบวก ต่อประเด็นดังกล่าว โดยมองว่าจะเป็นการสนับสนุนผลประกอบการของ CPF ในระยะกลางถึงยาว สะท้อนจากกำไรสุทธิปี 63 ของ CPA ที่ทำได้ 101 ล้านบาท ขณะที่ราคากุ้งในประเทศอินเดีย เพิ่มขึ้น 6% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) นอกจากนี้ รัฐบาลไทย ยังมีแผนส่งออกกุ้งปริมาณ 7 แสน - 1 ล้านตัน ในปีนี้ อีกด้วย
*** ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง–บาทอ่อน หนุนงบทั้งปี
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า CPF จะรายงานกำไรสุทธิปี 64 ใกล้เคียงกับปี 63 (2.5 – 2.6 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับกำไรสุทธิที่สูงมากแล้ว ณ ขณะนี้ โดยปี 64 ธุรกิจในกลุ่มเกษตร และอาหาร ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ราคาไก่ และสุกร ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อีก
ขณะที่ ทิศทางค่าเงินบาทในปีนี้ มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ 31.3 บาท/ดอลลาร์ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนประสิทธิภาพการทำกำไรของ CPF เพิ่มขึ้น เพราะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็นสกุลดอลลาร์ มากกว่าต้นทุนที่เป็นสกุลดอลลาร์
*** โบรกฯมอง Valuation น่าสนใจ
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ของหุ้น CPF ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีความน่าสนใจอยู่มาก เนื่องจากมีค่า PER เพียง 9 เท่า และ PBV เพียง 1.1 เท่า นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถคาดหวังเงินปันผล คิดเป็นผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 3.3% ในปีนี้ได้อีกด้วย
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/64 ของ CPF มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างโดดเด่น ขณะที่ผลการดำเนินงานทั้งปี 64 ยังอยู่ในระดับสูง จากเทรนด์ราคาขายเนื้อสัตว์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และยังเป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงสม่ำเสมอ
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
42.00 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
40.00 |
ซีจีเอสฯ |
ซื้อ |
39.50 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
35.00 |
ยูโอบีฯ |
ซื้อ |
35.00 |
ราคาเฉลี่ย |
38.30 |
ต้องยอมรับว่าคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่ CPF จะกลายเป็นอีก 1 แหล่งพักเงินของนักลงทุน ในช่วงที่มีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากในระยะสั้น กำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ของ CPF มีแนวโมเติบโตโดดเด่น จากการมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวหลายอย่าง ประกอบกับ ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์สูงราว 32% อีกด้วย...