เช้านี้ CRC พุ่งสูงสุด 3.31% หลังขยายลงทุนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ขณะที่ โบรกฯมองกำไร Q2/65 ยังโตต่อเนื่อง ตาม SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส บวกแรงกว่า 20% คาดจุดพีคปีนี้รออยู่ครึ่งปีหลัง ตามอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นเต็มที่ – ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น ดันงบทั้งปีโตแรงกว่ากลุ่มราว 9,483 – 11,091%
*** เช้านี้หุ้นยังนิ่ง แม้มีปัจจัยขยายธุรกิจหนุน
ราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ช่วงเช้าวันนี้ (6 มิ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 39 บาท เพิ่มขึ้น 3.31% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 37.75 เท่ากับราคาปิดวันทำการก่อนหน้า มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 59.96% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CRC เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.31% แต่พลิกกลับมาปิดซื้อ - ขาย เท่ากับราคาปิดวันทำการก่อนหน้า เนื่องจากช่วงต้นได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังส่งบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (บริษัทย่อย) ถือหุ้นสัดส่วน 99.7% เข้าซื้อหุ้น บริษัท เอ็มพี ซินเนอร์จี จำกัด จำนวน 5.9 หมื่นหุ้น หรือคิดเป็น 60% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมด คิดเป็นเงินลงทุนทั้งหมด 239 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น CRC ปรับตัวลดลงในช่วงท้ายของการซื้อ - ขายในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่พลิกกลับมาปิดลบถึง 9.81 จุด หรือ -0.6% เนื่องจากยังมีความกังวล ต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในอัตราเร่ง กดดัน Sentiment การลงทุน
*** แต่ SSSG ฟื้นแรง ดันกำไร Q2/65 โตแกร่ง
บล.พาย ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ CRC มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยหนุน จากการขยายสาขาใหม่ เช่น Go! Mall ในประเทศเวียดนาม อีกทั้ง จำนวนผู้ใช้บริการห้างสรรพสินค้าในประเทศไทย, เวียดนาม และ อิตาลี่ ยังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ลงมาก
ขณะที่ จำนวนผู้ใช้บริการศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น ยังทำให้ CRC ได้ประโยชน์จากการเก็บค่าเช่าทำได้ดีขึ้น สะท้อนจากการให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าลดลง เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันมากเหมือนเช่นปี 63 – 64 อีกแล้ว
ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ CRC มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ตั้งแต่ต้นไตรมาส (QTD) เป็นบวกมากกว่า 20% โดยเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจแฟชั่นมากที่สุด จาก SSSG ของธุรกิจดังกล่าวบวกมากกว่า 50%
สาเหตุหลักเป็นเพราะ ที่ประเทศอิตาลี่ เริ่มมีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ SSSG ของธุรกิจฮาร์ดไลน์ ยังสามารถเติบโตได้ราว 7 – 9% จากปีก่อน ส่วน SSSG ของธุรกิจอาหาร เติบโตขึ้นราว 15% จากปีก่อน
*** โบรกฯชี้ จุดพีค CRC ปีนี้ รออยู่ช่วงครึ่งปีหลัง
บล.เอเซีย พลัส มองว่า กำไรสุทธิรายไตรมาสของ CRC ในปี 65 คาดจะทำจุดสูงสุด (พีค) ในช่วงไตรมาส 3-4/65 เนื่องจากฐานกำไรช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ในระดับต่ำผิดปกติ จากการได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ของการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกทั้งช่วงไตรมาส 4/65 ยังเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกอีกด้วย
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า ผลการดำเนินงานของ CRC กำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว โดยคาดว่า ผลการดำเนินงานปี 65 จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เพราะจะได้รับปัจจัยหนุนเต็มที่ จากการเปิดประเทศ และ นักท่องเที่ยวฟื้นตัว อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุน จากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 มากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก อีกด้วย
*** กำไรปีนี้จ่อฟื้นแรงกว่ากลุ่มราว 9,483 – 11,091%
บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CRC ไว้ที่ 6.6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 11,091% จากปีก่อน (ฟื้นตัวแรงสุดในกลุ่มค้าปลีก) เนื่องจากมองว่า กำไรสุทธิของ CRC จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป ขับเคลื่อนจากรายได้ห้างสรรพสินค้า, รายได้ค่าเช่าพื้นที่ และ อื่นๆ ที่คาดเติบโตแรงจากฐานปีก่อนต่ำผิดปกติ
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุน จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว หลังภาครัฐผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ (ยกเลิกระบบ Test&Go) ตั้งแต่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) มีแนวโน้มทำได้สูงขึ้น ตามสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มแฟชั่นได้มากขึ้น
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CRC ไว้ที่ 6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 9,998% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจาก SSSG ของธุรกิจทุกประเทศฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุน จากการขยายสาขาขนาดใหญ่ ได้แก่ โรบินสันไลฟ์สไตล์ จำนวน 3 แห่ง, ไทวัสดุ จำนวน 10 แห่ง และ Go! Mall จำนวน 1 แห่ง
ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นปี 65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนราว 100 – 120 bps ตาม Product Mix และ การปรับปรุงระบบ Supply chain ที่ทำได้ดีขึ้น ทั้งนี้ แม้ช่วงไตรมาส 1/65 ทาง CRC จะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 72 bps ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าคาด แต่ยังมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น
โดยสรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CRC ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
6,603 |
11,091 |
โนมูระฯ |
5,958 |
9,998 |
หยวนต้า |
5,654 |
9,483 |
*** โบรกฯมองยังน่าสนใจเข้าสะสม – อัพไซด์สูง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า เลือก CRC เป็นหุ้นเด่น (Top Picks) ของปี 65 จากผลการดำเนินงานที่อยู่ในช่วง Turnaround โดดเด่นที่สุดในกลุ่มค้าปลีก อีกทั้ง ราคาหุ้นปัจจุบันยังค่อนข้าง Laggard สะท้อนจากอัพไซด์ที่สูงราว 24% เทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 44 บาท/หุ้น จึงมองเป็นจังหวะเข้าสะสมครั้งใหม่
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า การเข้าสะสมหุ้น CRC ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากราคาหุ้นที่ยัง Laggard กลุ่มเปิดเมือง โดยปัจจุบันราคาหุ้น CRC มีอัพไซด์สูงมากกว่า 20% ถือว่า เป็นช่วงเวลาเข้าซื้อที่เหมาะสม
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" CRC เนื่องจากมองว่า กำไรสุทธิปี 65 มีแนวโน้มฟื้นตัวแรงสุดในกลุ่มค้าปลีก อีกทั้งผลการดำเนินงานปีนี้ของ CRC ยังไม่ผ่านจุดสูงสุดในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ ราคาหุ้นที่ซื้อ – ขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์สูงจนน่าสนใจ
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
44.75 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
44.00 |
พาย |
ซื้อ |
43.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
42.50 |
ราคาเฉลี่ย |
43.56 |
แม้ว่าราคาหุ้น CRC ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเริ่มปรับตัวขึ้นมาบ้าง จากประเด็นผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มฟื้นตัวแรง แค่ราคาหุ้นที่ซื้อ – ขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์อยู่ราว 18% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ อีกทั้ง ยังคาดหวังผลการดำเนินงานทำจุดสูงสุดในช่วงครึ่งปีหลังได้อีกด้วย ...