เช้านี้ KTB บวกสูงสุดถึง 8.39% ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น รับกำไร Q1/65 ดีกว่าตลาดคาดถึง 50% ขณะที่ โบรกฯประเมินโค้งสองยังเดินหน้าโตต่อได้ เหตุตั้งสำรองฯลด แห่อัพเป้ากำไร – ราคาเป้าหมาย มองปีนี้กำไรโตสุดกลุ่มแบงก์ ราว 16 – 57% ชี้ทั้ง Valuation – พื้นฐาน กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
*** เช้านี้บวกสูงสุด 8.39% รับงบโค้งแรกดีเกินคาด
ราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 8.39% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 14.10 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 7.63% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 585.35% จากวันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น KTB ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 8.39% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 1/65 ที่มีกำไรสุทธิ 8.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิดังกล่าว ยังเป็นระดับที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 50%
ประเด็นหลัก ที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ของ KTB ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ เนื่องจากการตั้งสำรองฯเหลือเพียง 5.5 พันล้านบาท ลดลง 32% จากปีก่อน และ ลดลง 34% จากไตรมาสก่อน หรือเทียบเท่าต้นทุนความเสี่ยงเครดิต 0.8% จาก 1.4% เมื่อปีก่อน สอดคล้องกับคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ตามสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) เหลือ 3.34% เทียบปีก่อน และ ไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.66% และ 3.5% ตามลำดับ
*** กูรูมั่นใจ กำไร Q2/65 ยังโตต่อ - ตั้งสำรองฯลด
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ของ KTB ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6 พันล้านบาทได้ สะท้อนจากแนวโน้มหารตั้งสำรองฯลดลง ประกอบกับ สัดส่วน coverage ratio เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 174% (สิ้นปี 64 อยู่ที่ 169%)
*** โบรกฯอัพเป้ากำไรปี 65 ทันที หลังกำไรโตกว่าคาด
บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ KTB ขึ้นจากเดิมอีก 10% เป็น 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน สะท้อนจากกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 คิดเป็น 37% ของประมาณการเดิม ขณะที่ เมื่อพิจาณาคุณภาพสินทรัพย์ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องหลายไตรมาสแล้ว
สะท้อนผ่านมูลหนี้ NPL สิ้น ไตรมาส 1/65 เพิ่มขึ้น 3.8% จากสิ้นปี 62 เทียบกลับกลุ่มฯ เพิ่มขึ้น 18% อีกทั้ง ลูกหนี้ร่วมมาตรการช่วยเหลือ ณ สิ้นปี 64 อยู่ที่ 4% ของพอร์ตสินเชื่อ ต่ำกว่ากลุ่มฯ ที่อยู่ในระดับ 8 – 17% ของพอร์ตสินเชื่อ นอกจากนี้ พอร์ตสินเชื่อ KTB ราว 21% เป็นลูกค้ารัฐบาล ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
ทั้งนี้ ได้ปรับสมมติฐาน Credit cost ลงมาอยู่ที่ 1% (เดิมคาด 1.3%) รวมทั้งคาดว่า สินเชื่อของ KTB ในปี 65 จะเติบโตขึ้น 3% (เดิมคาดเติบโตเพียง 0.5%) ช่วยชดเชยการปรับลดของ NIM และ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย
เช่นเดียวกับ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ KTB ขึ้นเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 57% จากปีก่อน มีสาเหตุหลัก จากการตั้งสำรองฯในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ การตั้งสำรองฯ ในระยะถัดไป มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง
สรุป มีนักวิเคราะห์ 4 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ KTB ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
ฟิลลิป |
34,000 |
57 |
เอเชีย พลัส |
25,880 |
20 |
กรุงศรี |
25,512 |
18 |
หยวนต้า |
25,076 |
16 |
*** ส่องฐานะการเงิน กลับสู่จุดแข็งแกร่ง
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ปัจจุบัน KTB มีระดับ Tier 1 Ratio และ BIS Ratio อยู่ที่ 16.3% และ 19.7% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 9.5% และ 12% ตามลำดับ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สะท้อนถึงความแข็งแรงของฐานะการเงิน ณ ปัจจุบัน
*** กูรูชี้ Valuation – พื้นฐาน กลับมาน่าสนใจ
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หากพิจารณา ทั้งปัจจัยทางมูลค่า (Valuation) และ พื้นฐาน ณ ปัจจุบัน ของ KTB ถือว่า กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น"ซื้อ" (เดิม Switch) สะท้อนจากกำไรสุทธิปี 65 ของ KTB มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หนุนจากทิศทาง ROE ที่มีพัฒนาการขึ้น โดยปี 65 อยู่ที่ 7% เทียบกับ สิ้นปี 63 อยู่ที่ 4.9%
นอกจากนี้ ในเชิง Valuation ราคาหุ้น KTB ยังซื้อขายบน PBV เพียง 0.48 เท่า ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าระดับราคา ณ สิ้นปี 62 (ก่อนเกิดโควิด-19) ราว 20% ประกอบกับ ฝ่ายวิจัย มีมุมมองเชิงบวก ต่อคุณภาพสินทรัพย์ของ KTB มากขึ้น อีกทั้ง KTB ยังมีโอกาสต่อยอดฐานลูกค้า จากแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง และ ถุงเงิน หนุนค่าธรรมเนียม เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า หุ้น KTB เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น สะท้อนจากพัฒนาการด้านธุรกิจที่ดีขึ้น และ มีความน่าสนใจในแง่ Valuation ที่ต่ำกว่าธนาคารใหญ่รายอื่น อีกทั้ง ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์สูงราว 22% เมื่อเทียบกับ ราคาเหมาะสมของเราที่ 16.10 บาท/หุ้น และ คาดจะจ่ายเงินปันผลปี 65 คิดเป็นผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 4.1%
ขณะที่ บล.พาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบันของ KTB ถือว่ายังไม่แพง ซื้อขายบน PBV เพียง 0.48 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ประกอบกับ คาดว่า KTB จะให้ผลตอบแทนในปี 65 ราว 19% แบ่งเป็นกำไรส่วนต่างราคาหุ้น 15% และ อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.5%
*** โบรกฯแนะนำ"ซื้อ" พร้อมอัพเป้าราคา
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ทั้งเพิ่มคำแนะนำหุ้น KTB ขึ้นเป็น"ซื้อ" และ เพิ่มราคาเหมาะสมขึ้นด้วย สะท้อนจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ที่ทำได้ดีกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ ยังมองว่า กำไรสุทธิปี 65 ของ KTB มีแนวโน้มเติบโตสูงสุด ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์อีกด้วย
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) |
ราคาเหมาะสมเดิม (บ.) |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
16.10 |
12.80 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
16.10 |
16.10 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
16.00 |
14.50 |
ฟิลลิป |
ซื้อ |
16.00 |
12.80 |
กรุงศรี |
ซื้อ |
15.50 |
15.50 |
ราคาเฉลี่ย |
15.94 |
14.34 |
แม้เช้านี้ ราคาหุ้น KTB จะปรับตัวขึ้นสูงสุดแรงถึง 8.39% แต่ภายใต้ราคาเหมาะสมใหม่ ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เพิ่งปรับขึ้น ก็ยังทำให้ราคาหุ้น KTB ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์เหลือให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 14% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ ประกอบกับ ยังสามารถคาดหวังกำไรสุทธิเติบโตสุดในกลุ่ม และ เงินปันผลระดับสูงได้อีกด้วย ...