RBF ปิดเช้าบวก 2.91% หลัง ธ.ค.นี้ เตรียมส่งมอบกัญชงล็อตแรก ขณะที่ โบรกฯประเมินกำไร Q4/64 ฟื้นแรง หลังคลายล็อกดาวน์ หนุนออเดอร์พุ่ง แต่ต้นทุนปีนี้สูงกว่าปกติ ฉุดกำไรปีนี้วูบ 18% ก่อนปี 65 พลิกโตแรง 100 – 238% ทำนิวไฮ เหตุรับรู้รายได้สินค้าเกี่ยวเนื่องกัญชงราว 1.3 พันล้านบาท
*** ปิดเช้าบวก 2.91% หลังจ่อส่งมอบกัญชงล็อตแรก ธ.ค.นี้
ราคาหุ้น บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 21.30 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.6 บาท หรือ 2.91% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 55.33% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น RBF ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 2.91% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากการเตรียมเก็บเกี่ยวผลผลิตกัญชง บนพื้นที่เพาะปลูก ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งมอบผลผลิตช่อดอก ให้กับลูกค้ารายใหญ่ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ สำหรับนำมาผลิตเป็นสาร CBF-THC ล็อตแรก
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี เอสที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน RBF ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชง รวมพื้นที่ทั้งหมด 340 ไร่ โดยพื้นที่เพราะปลูกส่วนที่เหลือของ จ.เชียงราย จะเริ่มการปลูกเพื่อเอาเมล็ดไปทำ Hemp seed oil
*** กำไร Q4/64 ฟื้นต่อเนื่อง ออเดอร์พุ่ง – ต้นทุนลด
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 ของ RBF จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ซึ่งจะช่วยหนุนคำสั่งซื้อของลูกค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม และ อาหาร ฟื้นตัวตามความต้องการบริโภคสูงขึ้น หลังการเปิดเมือง ประกอบกับ ต้นทุนมีแนวโน้มลดลง ตามราคาวัตถุดิบเริ่มอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน
ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรปกติไตรมาส 4/64 ของ RBF ไว้ที่ 135 ล้านบาท เติบโตขึ้น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก RBF จะไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาธุรกิจโรงแรมแล้ว ประกอบกับ ภาคการผลิต มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการคลายล็อกดาวน์ ทั้งในประเทศไทย และ เวียดนาม ส่งผลให้ราคาต้นทุนวัตถุดิบ จะค่อยๆปรับตัวลง
*** แต่ต้นทุนสูงฉุดกำไรปีนี้วูบ ลุ้นปีหน้ากลับสู่สภาวะปกติ
บล.เคทีบี เอสที ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ RBF ไว้ที่ 428 ล้านบาท หดตัว 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยกดดันจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดทั้งปี ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กดดันผลการดำเนินงานปี 64 แต่คาดว่า ต้นทุนวัตถุดิบ จะปรับตัวลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติในปี 65 หลังการแพร่ระบาดโควิดคลี่ลคาย ส่งผลให้การขนส่งทำได้ดีขึ้นกว่าปีก่อน
เช่นเดียวกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่มองว่า ต้นทุนวัตถุดิบของ RBF ในปี 65 มีแนวโน้มลดลงจากปี 64 ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง แต่มีโอกาสที่ระดับราคา ยังไม่สามารถกลับสู่ระดับปกติก่อนปี 64 เนื่องจากโรงงานวัตถุดิบในประเทศจีนเพิ่มมาตรฐานการผลิต ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น
*** ปี 65 กำไรพลิกโตนิวไฮ หลังจ่อรับรู้รายได้กัญชงต้นปี
บล.เคทีบี เอสที ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ RBF ไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท (ทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดตลอดกาลของบริษัท) เติบโตขึ้น 238% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุน จากการรับรู้รายได้จากกัญชง ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป และ ยังคงสมมติฐานความต้องการกัญชง อยู่ที่ 6 พันกิโลกรัม/ปี และ มีราคาขายสารสกัด CBD ที่ 2 แสนบาท/กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ประมาณการกำไรสุทธิดังกล่าว ยังมีอัพไซด์ จาก 2 ปัจจัย ประกอบด้วย ราคาขาย CBD ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 หมื่นบาท/กิโลกรัม จะทำให้กำไรสุทธิของ RBF เพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 3% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และทำให้ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 0.9 บาท/หุ้น และ 2.กรณียิลด์ของ CBD ที่เพิ่มขึ้น ทุกๆ 1% จะส่งผลให้กำไรสุทธิของ RBF เพิ่มขึ้น 288 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 20% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ซึ่งเป็นอัพไซด์ต่อราคาหุ้น 5.7 บาท/หุ้น
เช่นเดียวกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่มองว่า กำไรสุทธิปี 65 ของ RBF มีแนวโน้มทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดของบริษัท โดยมีปัจจัยหลัก จากรายได้ส่วนเพิ่มเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจกัญชงราว 1.3 พันล้านบาท โดย RBF จะใช้กลยุทธ์การเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าเดิม ด้วยการเสนอขายผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สารสกัดใหม่ๆ รวมทั้งการปรับสูตรใหม่ เพื่อช่วยลดต้นทุน
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ RBF ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
กรุงศรี |
1,214 |
164 |
ฟินันเซียฯ |
1,034 |
100 |
*** กูรูติงราคาตอบสนองการโตปีหน้าแล้ว แนะจับตายีลด์กัญชง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แม้ผลการดำเนินงานปี 65 ของ RBF จะมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น แต่เรามองว่าได้สะท้อนในราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นราว 129% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ไปพอสมควรแล้ว ทั้งนี้มองว่าในเชิงกลยุทธ์ ยังคงต้องจับจาดูยิลด์ ของผลิตภัณฑ์กัญชงล็อตแรกของ RBF ว่ามีโอกาสสูงกว่าตลาดคาดการณ์หรือไม่ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการมีอัพไซด์ และ มีความน่าสนใจเข้าลงทุนมากขึ้น
เช่นเดียวกับ บล.กรุงศรี ที่แนะนำนักลงทุน ให้จับตายิลด์ของผลิตภัณฑ์กัญชงล็อตแรกของ RBF ในช่วงปลายปีนี้ก่อน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ประมาณการกำไรสุทธิของนักวิเคราะห์ในตลาดมีอัพไซด์ หลังราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 64 ปรับตัวขึ้นจนใกล้เต็มมูลค่าเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 20 บาท/หุ้น
*** ส่วนใหญ่"ไม่แนะนำซื้อ" ชี้ราคาหุ้นเต็มมูลค่า
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่"ไม่แนะนำซื้อ" เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง 129% ตั้งแต่ต้นปี 64 ได้สะท้อนการเติบโตในระดับสูงของปี 65 พอสมควรแล้ว จึงทำให้การเข้าลงทุนในช่วงนี้ เพื่อหวังเก็งกำไรระยะสั้นจากประเด็นผลประกอบการเติบโต เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ซีจีเอสฯ |
ถือ |
23.00 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
21.30 |
ฟินันเซียฯ |
เก็งกำไร |
21.00 |
กรุงศรี |
ถือ |
20.00 |
โนมูระฯ |
Neutral |
19.80 |
ทิสโก้ |
ถือ |
19.30 |
ราคาเฉลี่ย |
20.73 |
ราคาหุ้น RBF ที่ปรับตัวขึ้นราว 129% ตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน เกินพื้นฐานไปแล้วราว 1.75% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ขณะที่ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำจับตาดูยิลด์ของกัญชงล็อตแรกในช่วงปลายปีนี้เสียก่อน ว่าจะสูงกว่าตลาดคาดการณ์หรือไม่ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และ ราคาเหมาะสมของ RBF มีอัพไซด์จากเดิม...