CPF ปิดซื้อขายเช้านี้ลบ 2.86% คาดถูกปัจจัยงบ Q2/64 จ่อหดตัวทั้ง YoY-QoQ กดดันราคาหุ้น ขณะที่โบรกฯ ประเมินผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังยังฟื้นยาก หลังราคาเนื้อหมูจ่อลดลงต่อเนื่อง ส่งผลต้องหั่นเป้ากำไร – ราคาเหมาะสมลง คาดกำไรปี 64 หดตัว 12.55-23.80%
*** ปิดเช้าลบ 2.86% หลังงบ Q2/64 จ่อหดตัวทั้ง YoY-QoQ
ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ค.64) ร่วงไปทำจุดต่ำสุดที่ราคา 25.25 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าไปด้วยราคา 25.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -2.86% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 98.65% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CPF เช้านี้ ปิดซื้อขายลบ 2.86% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงลบ จากงบการเงินไตรมาส 2/64 ที่มีแนวโน้มหดตัวจากปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ที่ออกบทวิเคราะห์พรีวิวงบการเงินไตรมาส 2/64 ของ CPF
*** 2 ปัจจัยกดดัน คือ ราคาเนื้อหมู – ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมหดตัว
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ขอ ง CPF ไว้ที่ 2.7 พันล้านบาท ลดลง 55% จากปีก่อน และลดลง 61% จากไตรมาสก่อน ตามรายได้ที่คาดลดลง 15% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท หลังราคาขายเนื้อหมูในประเทศไทย, เวียดนาม และ จีน ลดลง 4%, 12% และ 38% จากไตรมาสก่อน ตามลำดับ ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังคาดว่า ส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง CPALL และ CPI ในไตรมาส 2/64 จะลดลงเหลือ 744 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ ประเมินว่า CPF ยังจะรับรู้ผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ (Biological losses) จำนวน 1 พันล้านบาท ในไตรมาสนี้อีกด้วย
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ของ CPF ไว้ที่ 4.3 พันล้านบาท ลดลง 29% จากปีก่อน และ ลดลง 38% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลัก จากราคาเนื้อหมูในประเทศเวียดนาม และ จีน ที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม อย่าง CPALL และ CTI มีแนวโน้มชะลอตัวตามผลการดำเนินงาน CPALL ที่ได้รับผลการะทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และ ผลประกอบการของ CTI ที่ชะลอตัวลง หลังราคาขายเนื้อหมูที่ประเทศจีน ปรับตัวลดลง
*** ราคาหมูยังฟื้นยาก คาดฉุดกำไร Q3/64 หดตัว YoY-QoQ ต่อเนื่อง
บล.กรุงศรี ระบุว่า การล็อคดาวน์ในประเทศไทยที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและประเทศที่ CPF ดำเนินงานอยู่สะดุดลง รวมทั้ง ทำให้ความต้องการเนื้อสัตว์ในช่วงล็อคดาวน์ลดลงอีกด้วย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ CPF
โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ CPF มีแนวโน้มหดตัวทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อน จากการลดลงของราคาเนื้อหมู ในประเทศเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันไตรมาส 3/64 อยู่ ที่ 6.2 หมื่นดอง/ก.ก. ลดลงราว 8-10% จาก ไตรมาสก่อน และลดลง 20–22% จากปีก่อน
ส่วน ราคาเนื้อหมูในประเทศจีน อยู่ที่ 15 หยวน/ก.ก. ลดลง 50% จากไตรมาสก่อน จากปัญหาการเพิ่มกำลังการผลิตในอัตราเร่งในช่วงโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ระบาดหนัก ส่งผลให้ Supply ในตลาดเริ่มมากขึ้น
*** กูรูมองทั้งงบ – ราคาหุ้น ครึ่งปีหลังยังไม่ฟื้น
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แม้ราคาหุ้น CPF จะปรับตัวลดลงราว 14% จากราคาสูงสุดในปีนี้แล้ว แต่มองว่า ราคาหุ้นยังมีดาวน์ไซด์ จากกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ที่มีแนวโน้มหดตัวทั้งจากปีก่อน และ ไตรมาสก่อน ขณะที่ กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง ตามราคาเนื้อหมูในประเทศเวียดนาม และ จีน ลดลงมากกว่าคาดการณ์
สอดคล้องกับ บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ราคาเนื้อหมูในช่วงไตรมาส 1/64 มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุดของปีนี้แล้ว โดยราคาขายในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้น และ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังของ CPF
*** โบรกฯเริ่มหั่นเป้ากำไรปีนี้ลง คาดหดตัว 12.55 - 23.80%YoY
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ CPF ลงจากเดิมอีก 15.5% เหลือ 2.1 หมื่นล้านบาท หดตัว 16.71% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากธุรกิจสุกรในประเทศจีนของ CPF อ่อนตัวลงมากกว่าคาดการณ์ ซึ่งกดดันทั้งส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมลดลง และ ผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพลดลง
เช่นเดียวกับ บล.กรุงศรี ที่ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ CPF ลงจากเดิมอีก 16% เหลือ 2.25 หมื่นล้านบาท หดตัว13.53% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลัก จากการปรับสมมติฐานราคาขายเนื้อหมูในประเทศเวียดนามลง รวมถึงลดส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง CPALL และ CTI ในปีนี้ลงอีกด้วย
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ CPF ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%chg YoY |
ทรีนีตี้ |
22,756 |
-12.55 |
หยวนต้า |
19,828 |
-23.80 |
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" แต่หั่นราคาเป้าหมายลง
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" แต่ทั้งหมดปรับราคาเหมาะสมของ CPF ลงกันถ้วนหน้า หลังกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 มีแนวโน้มอ่อนแอกว่าคาดการณ์ ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มสูง ที่กำไรสุทธิจะหดตัวทั้งจากปีก่อน และ ไตรมาสก่อน อย่างต่อเนื่อง หลังราคาเนื้อหมู ในระยะสั้นนี้ ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) |
ราคาเหมาะสมเดิม (บ.) |
กรุงศรี |
ซื้อ |
36.50 |
43.50 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
35.00 |
42.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
33.50 |
49.50 |
โนมูระฯ |
เก็งกำไร |
29.00 |
35.00 |
ซีจีเอสฯ |
ถือ |
28.50 |
39.25 |
ราคาเฉลี่ย |
32.50 |
41.85 |
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายราย ให้ความเชื่อมั่นว่า กำไรสุทธิปี 64 ของ CPF ยังมีแนวโน้มเติบโต ทำสถิติกำไรสูงสุดตลอดกาลของบริษัทเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องจากปี 63 สะท้อนจากการปรับราคาเหมาะสมของ CPF ในช่วงต้นปีขึ้นสูงลิบลิ่ว แต่ปัจจุบัน ดูเหมือนความเชื่อมั่นนั้นจะหายไปเสียแล้ว ภายใต้ประมาณการกำไรสุทธิใหม่ ที่ทุกโบรกฯ มองเหมือนกันว่า จะหดตัวจากปีก่อน และ ราคาเหมาะสมใหม่ ที่ถูกหั่นลงแรงด้วยเช่นกัน...