เช้านี้ PTTEP พุ่งสูงสุด 2.08% รับสงครามรัสเซีย – ยูเครนยังยืดเยื้อ กูรูทยอยอัพเป้ากำไรปี 65 หลังราคาพลังงานปีนี้สูงเกินคาด มองปีนี้โต 23 – 65% แถมยังมีอัพไซด์จากโรงการ Yadana แต่ติงราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังมอง OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิต ตั้งแต่ พ.ค.เป็นต้นไป

*** เช้านี้บวกสวน SET รับรัสเซีย – ยูเครนยืดเยื้อ
 

ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ช่วงเช้าวันนี้ (1 เม.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 147 บาท เพิ่มขึ้น 2.08% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 145 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.69% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 44.90% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า 

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น PTTEP เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 2.08% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 0.26 จุด หรือ -0.02% เนื่องจากนักวิเคราะห์ในตลาดมองว่า PTTEP ยังคงได้รับ Sentiment เชิงบวก จากความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซีย และ ยูเครน ยังคงยืดเยื้อ
 

*** กูรูทยอยอัพเป้ากำไร รับราคาพลังงานสูงกว่าคาด
 

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP ขึ้นจากเดิมอีก 20% เป็น 6.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่สูงขึ้นเป็น 85 เหรียญ/บาร์เรล (เดิมคาด 73 เหรียญ/บาร์เรล)

นอกจากนี้ ยังมีราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยที่สูงขึ้นเป็น 6.1 เหรียญ/mmbtu (เดิมคาด 5.7 เหรียญ/mmbtu) ประกอบกับ ปริมาณการขายน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากเดิม 1 – 3% ตามสัดส่วนลงทุนที่สูงขึ้นของโครงการ Yadana

ส่วน บลโนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ 4.7 หมื่นล้านบาท สะท้อนจากราคาพลังงานที่สูงกว่าคาดการณ์เดิม เป็นผลจาก Supply ที่ตึงตัวมากกว่าคาด เพราะผลกระทบการทำสงครามระหว่างรัสเซีย กับ ยูเครน

สรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP ไว้ดังนี้

*** แต่โบรกฯติง ราคาน้ำมันอาจผ่านจุดสูงสุดแล้ว
 

บล.เคทีบีเอสที มองว่า ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 65 ไปแล้ว แต่ยังมีแนวโน้มผันผวนอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี เพราะตั้งแต่การทำสงครามระหว่างรัสเซีย กับ ยูเครน เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 130.3 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทยอยอ่อนตัวใกล้บริเวณ 100 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม Supply ในตลาด ส่งผลให้ในระยะข้างหน้า มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันดิบจะอ่อนตัวลงจากช่วงต้นปีได้ แต่ประเมินว่า ในช่วงไตรมาส 2 – 4/65 ทิศทางราคาน้ำมันยังคงสูงกว่าปีก่อนทุกไตรมาส

สอดคล้องกับ"ณรงค์เดช จันทรไพศาล" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.ไอร่า ที่มองว่า กลุ่ม OPEC+ จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นเป็น 4.32 แสนบาร์เรล/วัน (เดิม 4 แสนบาร์เรล/วัน) ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป ทำให้ทิศทางราคาน้ำมัน มีแนวโน้มค่อยๆปรับตัวลง ซึ่งอาจกระทบต่อ Sentiment ของหุ้นในกลุ่มพลังงานฯเล็กน้อย

*** โครงการ Yadana ยังหนุนกำไรปี 65 – 66 มีอัพไซด์
 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ต่อข้อสรุปการเข้าเป็นผู้ดำเนินการแหล่ง Yadana ของ PTTEP เพราะไม่มีภาระเงินทุนในการได้สัดส่วนเงินลงทุนของ Total 2 ประกอบกับ มีโอกาสที่การดำเนินการผลิตจะสามารถทำได้ต่อเนื่อง เพราะใช้บุคลากรชุดเดิม และ บริษัทมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ดำเนินโครงการอยู่แล้ว

ขณะที่ งบลงทุนของโครงการดังกล่าวที่ต้องใช้เพิ่ม คิดเป็น 0.16 – 0.18% ของงบลงทุน 5 ปี ของ PTTEP เท่านั้น จึงไม่ได้เป็นภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ โครงการดังกล่าว จะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 65 – 66 ราว 1% และ 2% ตามลำดับ และเป็นอัพไซด์ต่อราคาหุ้น 1.2 บาท/หุ้น หรือ 0.8% 

*** กูรูติงราคาพุ่งมากแล้ว กด Valution ตึงตัว
 

บล.เคทีบีเสที ระบุว่า ราคาหุ้น PTTEP ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น Outperform ดัชนีหุ้นไทยราว 27.9% ตามแนวโน้มราคาน้ำมีนดิบที่สูงขึ้น ทั้งนี้ราคาปิดล่าสุดของ PTTEP อิง PBV ปี 65 ที่ 1.29 เท่า ได้สะท้อนมูลค่า (Valuation) ที่ค่อนข้างตึงตัวมากเกินไปแล้ว จึงปรับคำแนะนำลงเหลือแค่"ถือ" เดิม"ซื้อ"
 

*** แม้บางโบรกฯลดคำแนะนำ แต่ส่วนใหญ่ยังเชียร์"ซื้อ"
 

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปี 65 มีแนวโน้มยืนสูงกว่าปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 65 ของ PTTEP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน อย่างมีนัยสำคัญ

หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ผลการดำเนินงานปีนี้ของ PTTEP มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น แต่ราคาหุ้นช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น Outperform ดัชนีหุ้นไทยราว 27.9% จนราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์เพียง 4% เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ ซึ่งอาจเป็นการตอบสนองปัจจัยบวกปีนี้ไปมากพอสมควรแล้ว ...