HMPRO ปิดซื้อขายเช้านี้ลบ 0.73% สวนทางงบ Q2/64 โตแจ่ม คาดรับ Sentiment เชิงลบ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดยังทรงตัวสูง ขณะที่ โบรกฯ ประเมินโควิด ฉุดกำไร Q3/64 วูบทั้ง YoY-QoQ เหตุต้องปิดสาขา 15% ของสาขาทั้งหมด ลุ้นยอดติดเชื้อลด – รัฐกระตุ้นบริโภค หนุนกำไร Q4/64 ฟื้นอีกครั้ง คาดทั้งปี กำไรยังโตแจ่ม 13-21% YoY
*** ปิดเช้าลบ 0.73% สวนทางงบ Q2/64 โตแจ่ม หลังโควิดยังระบาดหนัก
ราคาหุ้น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.ค.64) ร่วงไปทำจุดต่ำสุดที่ราคา 13.50 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าไปด้วยราคา 13.60 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.73% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 87.18% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น HMPRO ปิดซื้อขายเช้านี้ลบ 0.73% สวนทางกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ที่เพิ่งประกาศออกมา จำนวน 1.43 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 51.9% จากปีก่อน เนื่องจากยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบ จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ยังอยู่ในระดับมากกว่า 1 หมื่นราย/วัน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานของ HMPRO โดยตรง
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กาแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งหากมีความยืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบต่อ HMPRO มากที่สุดในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง เนื่องจาก HMPRO มีสาขาในห้างสรรพสินค้า ที่ต้องปิดให้บริการตามาตรการรัฐ และสาขาเมืองท่องเที่ยว ที่ยังไม่ฟื้นตัวจำนวนมาก
*** โควิดฉุดกำไร Q3/64 วูบทั้ง YoY-QoQ ก่อนฟื้น Q4/64
บล.เคทีบีเอสที ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ HMPRO มีแนวโน้มหดตัวทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) โดยมีสาเหตุหลักจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่มีความรุนแรงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่งผลให้ HMPRO ต้องปิดให้บริการสาขาในห้างสรรพสินค้า และ สาขาในพื้นที่ควบคุมสูงสุดทั้งหมด
สอดคล้องกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ HMPRO มีแนวโน้มหดตัวจากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัดควบคุมสูงสุด ตั้งแต่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ HMPRO ต้องปิดให้บริการสาขาชั่วคราวราว 13-14 สาขา (คิดเป็น 15% ของสาขาทั้งหมด) ประกอบกับ ผลการดำเนินงานของสาขาในประเทศมาเลเซีย ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3/64 ทาง HMPRO ยังคงเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/64 ที่มีสัดส่วน 5.9% ของยอดขายทั้งหมด แต่อาจไม่สามารถชดเชยผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ได้ทั้งหมด
ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของ HMPRO มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 4/64 ภายใต้สมมติฐานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลงต่ำกว่าระดับ 1 หมื่นราย/วัน ประกอบกับ นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาได้มากขึ้น และ กำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น
*** แต่กำไรปี 64 ยังโตแจ่ม โบรกฯคาดโตระหว่าง 13-21%
บล.เคทีบีเอสที ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO ไว้ที่ 5.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกำไรสุทธิครึ่งปีแรก คิดเป็น 48% ของประมาณการของเรา โดยคาดว่าทั้งปี HMPRO จะมีรายได้ จำนวน 6.54 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 6.55% จากปีก่อน จากการขยายสาขาทั้งหมด 2 แห่ง แบ่งเป็นที่ประเทศมาเลเซีย 1 แห่ง ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานในมาเลเซียถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้ ส่วนอีก 1 แห่งในประเทศไทย จะเปิดในช่วงไตรมาส 4/64 ย่านบางนา
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO ไว้ที่ 6.2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานได้ดีขึ้น ประกอบกับ สัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น และ การนำเข้าสินค้า Private brand จากประเทศจีนฟื้นตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก HMPRO พยายามเน้นทำให้อัตรากำไรสูงขึ้น ด้วยการปรับให้ระบบ Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใน ทั้งเน้นการจำหน่ายสินค้าที่เป็น HouseBrand ซึ่งให้กำไรดี รวมทั้งยังบริหารสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอซีย พลัส |
6,030 |
17 |
เอเชีย เวลท์ |
5,940 |
15 |
*** โบรกฯ ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
แม้กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ HMPRO มีแนวโน้มหดตัวจากไตรมาสก่อน และเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ แต่จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจาก HMPRO มีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และ มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง จึงทำให้ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว หากการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง
นอกจากนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ยังมองว่า ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น ซึ่ง HMPRO จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ จากมาตรการดังกล่าวด้วยเช่นกัน
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
17.20 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
17.00 |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อ |
16.00 |
ดีบีเอสฯ |
ซื้อ |
15.80 |
เคทีบีฯ |
ถือ |
15.00 |
ราคาเฉลี่ย |
16.20 |
HMPRO ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำผลงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ได้โดดเด่น สะท้อนจากกำไรสุทธิ 2 ไตรมาสแรกของปี ที่เติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ตามความคาดหวังของตลาด แต่หากอิงข้อมูลล่าสุดของนักวิเคราะห์ ดูเหมือนว่าความร้อนแรงของ HMPRO จะหยุดลงในไตรมาส 3/64 เท่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสที่ผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 64 หลังต้องกลับมาปิดให้บริการสาขาชั่วคราว ตามมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลอีกครั้ง....