PLANB เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง สะท้อนผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 63 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 0.02 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 520.13 ลบ. แต่นักวิเคราะห์คาดผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวแบบ V-Shape ตั้งแต่ Q4/63 แต่การเข้าลงทุนช่วงนี้ จะเป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่? ต้องติดตาม! 

*** ราคาปิดลบตาม SET Index

ราคาหุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB วันทำการก่อนหน้า (30 ธ.ค.63) ดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 6.45 บาท ก่อนปิดซื้อขายด้วยราคา 6.25 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -4.58% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 44.32% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า โดยราคาหุ้นปิดลบตามทิศทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index)

*** โควิด-19 รอบใหม่ไม่รุนแรงเท่ารอบแรก

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 รายต่อวัน แต่ประเมินว่าการระบาดครั้งใหม่นี้จะไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มข้น เหมือนช่วงเดือน มี.ค.63 จึงจะไม่กระทบต่อรายได้ของ PLANB ในช่วงไตรมาส 4/63 อย่างมีนัยสำคัญ 

*** กำไร Q4/63 ฟื้น  V-Shape 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมิน กำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ของ PLANB อยู่ที่ 117 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท โดยเป็นการฟื้นตัวแบบ V-Shape หลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงต้นปี 63 ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาลดลง และ utilization rate ลดลงมาอยู่ที่ 54.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 77.7%

สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ของ PLANB ฟื้นตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากรายได้รวมขยายตัว 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเฉพาะสื่อนอกบ้าน (OOH) ขยายตัว 25% จากไตรมาสก่อน และ engagement marketing ขยายตัว 39% จากไตรมาสก่อน เพราะการจัดอีเวนต์ของ BNK48 เพิ่มขึ้น และ รับรู้รายได้จากไทยลีกเต็มไตรมาส 

ขณะที่ บล.เคจีไอ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ของ PLANB อยู่ที่ 133 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12,045% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากรายได้ที่ทำได้ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้สื่อนอกบ้าน เติบโตตามความสามารถในการให้บริการสื่อที่เพิ่มขึ้นเป็น 58% เทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 46%

ส่วนกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นเพราะรายได้ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามอัตราการใช้สื่อนอกบ้านที่ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

*** ยกเว้นเงินขั้นต่ำจ่ายให้ MACO ช่วยหนุนกำไรในงวด 4Q/63 – 1Q64 

บล.เคจีไอ ระบุว่า คณะกรรมการของ PLANB อนุมัติให้แก้ไขสัญญาที่ทำไว้กับ บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) โดยขอยกเว้นเงินประกันขั้นต่ำ 169 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสใน 4/63 - ไตรมาส 1/64 และชำระเงินประกันขั้นต่ำล่วงหน้าสำหรับงวดไตรมาส 2/64 - ไตรมาส 1/65 ในจำนวนไม่เกิน 700 ล้านบาทให้กับ MACO

โดยคาดว่า PLANB จะได้ประโยชน์จากการยกเว้นเงินประกันขั้นต่ำในช่วงไตรมาส 4/63 - 1/64 เพราะรายได้จากสินทรัพย์ของ MACO ในช่วงดังกล่าว น่าจะต่ำกว่าเงินประกันขั้นต่ำ 169 ล้านบาทต่อไตรมาส แต่ PLANB ยังต้องจ่าย 85% ของรายได้จากป้ายโฆษณาของ MACO ซึ่งหากใช้สมมติฐานว่ารายได้จากสินทรัพย์ของ MACO ในช่วงไตรมาส 4/63 ทรงตัวจากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 100 ล้านบาท PLANB จะประหยัดต้นทุนในไตรมาส 4/63 ประมาณ 84 ล้านบาท

*** ปี 64 กำไรโตแรงจากฐานต่ำ

บล.เอเซีย พลัส มองว่าปี 64 PLANB จะรายงานกำไรสุทธิจำนวน 722 ล้านบาท เติบโตขึ้น 873.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่คาดมีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากสื่อในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่มีแผนขยายสาขาครบ 1,500 สาขา ในช่วงไตรมาส 1/64, รายได้จากลิขสิทธิ์กีฬาโอลิมปิกที่จะทยอยรับรู้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.63 - ก.ค.64 และ smart bus shelter ที่ใกล้ติดตั้งครบเต็มจำนวน ซึ่งปี 64 จะรับรู้รายได้เต็มปี

สอดคล้องกับ บล.เคทีบี (ประเทศไทย)  ที่คาดว่า PLANB จะรายงานกำไรสุทธิปี 64 จำนวน 733 ล้านบาท เติบโตขึ้น 526% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่คาดมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท มีแรงหนุนจากรายได้รวมขยายตัว 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว, รับรู้รายได้สื่อในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 1,500 สาขา และ smart bus shelter เต็มปี 

ด้านรายได้ engagement marketing คาดเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้กีฬาโอลิมปิก ส่งผลให้ gross profit margin ปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น  31% จากปี 63 อยู่ที่ 19.8% ซึ่งเป็นผลจาก utilization rate ที่เพิ่มขึ้น และได้รับการยกเว้น minimum guarantee ของ MACO ในช่วงไตรมาส 1/64 ด้วย

*** โบรกฯ แนะนำ"ซื้อ"

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่ากำไรสุทธิของ PLANB จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/63 ตามการใช้สื้อโฆษณานอกบ้านที่เพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้สื่อโฆษณาจากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 1,500 สาขา และ smart bus shelter ในปี 64  

สำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาสนใจหุ้น PLANB อาจยังไม่สายที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 4/63 ขณะที่ราคาหุ้นที่ซื้อขายปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์จากราคาเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ราว 19% อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ทำให้การเข้าลงทุนในหุ้น PLANB ช่วงนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก