เช้านี้ GFPT พุ่งสูงสุด 3.33% รับราคาไก่นิวไฮรอบ 10 ปี หนุนกำไร Q2/65 โตแกร่ง ขณะที่ โบรกฯมองจุดพีคปีนี้ อยู่ช่วง Q3/65 หลังเตรียมรับรู้กำลังผลิตใหม่ มองราคาไก่ช่วงที่เหลือของปียังไปต่ออีกไกล แห่อัพเป้ากำไรปี 65 โตแรง 596 – 833% ส่วนราคาเหมาะสมใหม่เปิดอัพไซด์เพิ่มเป็น 15%
*** เช้านี้พุ่งสูงสุด 3.33% รับราคาไก่นิวไฮ 10 ปี
ราคาหุ้น บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ช่วงเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 3.33% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 18.30 เพิ่มขึ้น 0.3 บาท หรือ 1.67% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 142.81% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น GFPT เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.33% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากราคาไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม ทำระดับราคาสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รอบ 10 ปี โดยราคาอยู่ที่ 47 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
*** มาเลฯระงับส่งออกไก่ หนุนยอดขาย GFPT
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า นอกจาก GFPT จะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาไก่ในประเทศที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติม อย่างการที่ประเทศมาเลเซีย ออกมาตรการระงับการส่งออกไก่ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.65 เป็นต้นไป คิดเป็นราว 9 พันตัน/เดือน หรือคิดเป็นราว 6.3 หมื่นตันในปี 65 (6.7% ของการส่งออกไก่ไทย) ป้องกันปัญหาขาดแคลน
แม้จำนวนดังกล่าว จะไม่มาก แต่ก็ถือเป็นโอกาสของ GFPT โดยคาดว่า การที่มาเลเซียระงับการส่งออกไก่ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป จะทำให้ลูกค้าบางส่วน หันมาซื้อไก่จากประเทศไทยมากขึ้น เช่น ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น ปัจจัยดังกล่าว ถือเป็นผลบวกโดยตรงต่ออุตสาหกรรมไก่ไทย และ GFPT ที่จะมีตลาดส่งออกไก่เพิ่มขึ้น
*** โบรกฯคาดกำไรโค้งสอง จ่อโตเกิน 100%
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรปกติไตรมาส 2/65 ของ GFPT ไว้ที่ 378 ล้านบาท เติบโตขึ้น 116% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุน จากยอดขายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาขายและปริมาณการขาย ซึ่งเพียงพอชดเชยต้นทุนอาหารสัตว์ ที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปีได้
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ของ GFPT มีแนวโน้มอยู่ที่ 500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 176% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน สะท้อนจากราคาไก่หน้าฟาร์มปรับตัวขึ้น 43% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาส่งออกปรับตัวขึ้น 5 – 10% จากไตรมาสก่อน ซึ่งช่วยชดเชยต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้นได้ทั้งหมด
ส่วน ปริมาณการขาย คาดว่า มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในตลาดต่างประเทศ และในประเทศ จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ที่ Supply ไก่ลดลง เนื่องจากยูเครนซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดการนำเข้าไก่ของทวีปอยู่ที่ราว 15% ไม่สามารถส่งออกได้
นอกจากนี้ สัดส่วนการส่งออกของ GFPT ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ยังทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่าแตะระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ มากขึ้นอีกด้วย
*** จับตา ! กำไร Q3/65 เป็นจุดพีคของปีนี้
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ GFPT มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุด (พีค) ในปีนี้ ตามการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ อีกทั้ง ราคาไก่เป็นหน้าฟาร์มในประเทศช่วงดังกล่าว มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 50 บาท/กิโลกรัม สอดคล้องกับ การส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามด้วยเช่นกัน
สาเหตุหลัก เป็นเพราะแนวโน้มของเงินเฟ้อในทวีปยุโรป หนุนราคาสินค้าทุกประเภทเพิ่มขึ้น ขณะที่ ปริมาณคำสั่งซื้อยังสูงขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการสำรองอาหารให้เพียงพอในบางประเทศ ประกอบกับ การกลับมาเปิดประเทศของญี่ปุ่น ที่จะหนุนการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น
ส่วนในประเทศไทย ราคาเนื้อหมูยังทรงตัวสูง จาก Supply ที่ฟื้นตัวช้า โดยคาดว่าต้องใช้เวลา 1 – 2 ปี จึงจะกลับสู่สภาวะปกติ ทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคไก่แทน เพราะราคายังถูกกว่าหมูอยู่มาก แม้จะมีการปรับขึ้นก็ตาม ประกอบกับ ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ยังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง ทำให้การควบคุมราคาไก่ของรัฐบาลอาจเกิดขึ้นได้ยาก เพราะจะกระทบเกษตรกรรายย่อย
เช่นเดียวกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ GFPT มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ ตามการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับ GFPT มีการร่วมมือกับบริษัทร่วม McKey ที่จะเริ่ม Run กำลังผลิตใหม่ในช่วงต้นไตรมาส 3/65 จากปัจจุบัน ที่ใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว
*** โบรกฯอัพเป้ากำไร หลังคาดราคาไก่ไปต่อ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ GFPT ขึ้นจากเดิมอีก 28% เป็น 1.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 760% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากราคาไก่ในประเทศ ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการสินค้าที่ยังแข็งแกร่ง
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ GFPT ขึ้นจากเดิมอีก 14% เป็น 1.6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 833% จากปีก่อน เนื่องจากมีความมั่นใจว่า ราคาไก่ในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตลอดช่วงปี 65 หลังความต้องการสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง
โดยสรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ GFPT ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
หยวนต้า |
1,670 |
833 |
เมย์แบงก์ฯ |
1,541 |
760 |
ฟินันเซียฯ |
1,456 |
596 |
*** กูรูเลือก GFPT เป็น Top Picks กลุ่ม
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า เลือก GFPT เป็นหุ้น Top Picks ของกลุ่มฟาร์มสัตว์บก สะท้อนจากราคาหุ้นที่ยังมีอัพไซด์เหลือยู่ราว 19% เมื่อเทียบราคาเหมาะสมของเราที่ 21.50 บาท/หุ้น ขณะที่ ประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ที่เพิ่งปรับขึ้นใหม่ ยังมีอัพไซด์ส่วนเพิ่ม จากการขยายตลาดใหม่ทั้งในทวีปเอเชีย และ ยุโรป รวมทั้งกำลังผลิตใหม่ของ Mckey ที่จะเริ่มรับรู้ ตั้งแต่ไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"พร้อมอัพเป้า
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" พร้อมปรับราคาเหมาะสมของ GFPT ขึ้นด้วย เนื่องจากมองว่า ราคาไก่ในประเทศในช่วงที่เหลือของปี 65 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งเพียงพอชดเชยต่อต้นทุนที่สูงขึ้น จึงทำให้กำไรสุทธิช่วงที่เหลือของปี 65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกไตรมาส
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) |
ราคาเหมาะสมเดิม (บ.) |
หยวนต้า |
ซื้อ |
21.50 |
18.70 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
21.50 |
21.50 |
เมย์แบงก์ฯ |
ซื้อ |
20.90 |
16.30 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
20.00 |
17.00 |
ราคาเฉลี่ย |
20.97 |
18.37 |
ก่อนหน้านี้ GFPT เป็นอีก 1 บริษัท ที่ถูกโบรกเกอร์มองว่า ราคาหุ้นเต็มมูลค่าไปแล้ว แต่จากการทบทวนสถานการณ์ราคาไก่ในประเทศล่าสุด กลับพบว่า ยังมีช่องว่างให้ปรับตัวขึ้นอีกพอสมควร ซึ่งจะหนุนให้อัตราการทำกำไรของ GFPT เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนใหญ่จึงอัพเป้าราคาตาม ทำให้หุ้นมีอัพไซด์ราว 15% เมื่อเทียบราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์