EA เตรียมออกขายหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 900 ล้านยูโร พร้อมออกหุ้นเพิ่มทุน 290 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิ  เตรียมเคาะแผนจัดสรรหลังชงผถห.28 ม.ค.65 หวังระดมทุนได้ราว 3 หมื่นลบ. ระดมทุนขยายโรงงานแบตฯ-โรงประกอบรถ EV เฟส 2 พร้อมเปิดโรงงานแบตฯ เป็นทางการ เริ่มบุ๊ครายได้ต้นปี 65 

*** EA จ่อออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 900 ล้านยูโร พ่วงหุ้นเพิ่มทุนรองรับ

    บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ของบริษัท (หุ้นกู้แปลงสภาพ) โดยมีมูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 900 ล้านยูโรหรือเงินสกุลอื่นใดในจำนวนเทียบเท่า

    คณะกรรมการบริษัทยังมีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 29,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 373,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 402,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 290,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาทต่อหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าว

*** เล็งขออนุมัติจากที่ประชุมผถห.28 ม.ค.65

    ขณะเดียวกันที่ประชุมบอร์ดยังมีมติอนุมัติการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันศุกร์ที่ 28 ม.ค.65 เวลา 14.00 น.ณ ห้องประชุม เลขที่ 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 16 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดงกรุงเทพมหานคร 10400 โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 (Record date) ในวันที่ 23 ธ.ค.64 โดยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) เท่านั้น

*** ระดมทุน 3 หมื่นลบ.รุกแบต และEV - ยังไม่เคาะแผนจัดสรร 

    นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าบริษัทคาดว่าการออกเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพใหม่ของบริษัทจะมีมูลค่าไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งวิธีการจัดสรรสัดส่วนการขายให้กับผู้ลงทุนนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดไว้ เนื่องจากต้องรอผลการขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 ม.ค.65 ก่อน

    โดยเบื้องต้นมองว่าอาจมีการเสนอขายและจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่นักลงทุนภายในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงอาจออกและเสนอขายในคราวเดียวเต็มจำนวนหรือหลายครั้งก็ได้
 
    ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปลงทุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่,ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า,ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใช้เป็นกระแสเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 

    โดยแผนการลงทุนของบริษัทนั้นยังมีในส่วนของการขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Amita Technology (Thailand) เฟส 2 หลังจากที่การดำเนินการโรงงานผลิตระยะที่ 1 ได้เริ่มเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ (Grand Openning) ในวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับยังมีแผนขยายการลงทุนในโรงงานประกอบรถโดยสารไฟฟ้า (EV),ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EA Anywhere) และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

*** คาดเริ่มบุ๊ครายได้โรงงานแบตฯต้นปี 65 

    สำหรับธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเฟสแรกขนาด 1 GWh ที่ร่วมมือกับบริษัท อมิตา เทคโนโลยี อิงค์ (ไต้หวัน) และได้เปิดอย่างเป็นทางการไปนั้น คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในงบช่วงต้นปี 65 เป็นต้นไป หลังจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการเดินเครื่องการผลิตเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของรายได้ที่จะเข้ามาในแต่ละปีนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องดูปริมาณความต้องการและราคาขายก่อน โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลักๆของบริษัทคือ รถบัสไฟฟ้า,เรือเฟอรี่ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า

    นอกจากนี้สำหรับเป้าหมายผลประกอบการปี 65 ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผน แต่บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถขยายการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดจะโตราว 20-30% จากปีก่อน เนื่องจากจะมีการเริ่มเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจใหม่ทั้งธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี,โรงงานประกอบรถโดยสารไฟฟ้า และสถานีอัดประจุไฟฟ้าเข้ามาช่วยหนุนเพิ่มเติมมากขึ้น

***บล.เมย์แบงก์ฯ แนะนำ "ซื้อ" ชูเป้า 90 บ./หุ้น

    ด้านบทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุได้ปรับกำไร EA ปี 65-67 ขึ้นราว 6.3%,15.7%,45.0% ตามลำดับ เนื่องจากมองว่าแหล่งรายได้ใหม่ EV Bus ได้รับการสนับสนุนและปกป้องจากภาครัฐอย่างดี อีกทั้งเทคโนโลยี Ultra Fast charge ยังทำให้แผนธุรกิจปัจจุบันลงตัวอีกด้วย จากแผนของภาครัฐ โดยคาดว่ากำลังการผลิต EV Bus จะเต็มใน 4 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามแม้ในปี 67 ที่การสนับสนุนราคารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จ.นครสวรรค์ 90 MW จะหมดไป แต่รายได้จากธุรกิจ EV ยังสามารถเข้ามาทดแทนได้ทันท่วงที ซึ่งแม้มาร์จิ้นจะลดลงจากโครงสร้างรายได้เปลี่ยน แต่กำไรปกติยังโตได้ 2.9% ช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 90.00 บาทต่อหุ้น (+89% จากอิง P/E 25.5 เท่า)