โบรกเกอร์ เปิดโผ 6 หุ้นเด่น เตรียมเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 รอบการคำนวณครึ่งแรกปี 64 นำโดย SCGP-BAM-DELTA-COM7-DCC และ JMART พร้อมจับตา 7 หุ้น มีโอกาสหลุดผัง พร้อมชู DCC-JMART เด่นเข้าตา
*** เปิดโผ 6 หุ้นเด่น เข้า SET50/SET100 รอบครึ่งแรกปี 64
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส คาดมีหุ้น 6 บริษัทที่มีโอกาสสูงผ่านการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 รอบครึ่งปีแรก 2564 (H1/64) ประกอบด้วย
หุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50/SET100 ช่วง H1/64
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ดัชนี
|
% ความเป็นไปได้
|
มาร์เก็ตแคป ณ 9 ต.ค.63 (พันลบ.)
|
SCGP
|
SET50-100 (Fast track)
|
100
|
140-150
|
BAM
|
SET50
|
100
|
69.17
|
DELTA
|
SET50
|
80
|
241.37
|
COM7
|
SET50
|
70
|
50.7
|
ต่ำสุด SET50 อยู่ที่ 3.38 หมื่นล้านบาท
|
DCC
|
SET100
|
90
|
19.68
|
JMART
|
SET100
|
70
|
14.93
|
ต่ำสุด SET100 อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท
|
โดยคาดว่า บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ จะเข้าคำนวณในดัชนี SET50-100 ด้วยเกณฑ์ Fast track เพราะจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ระดับ 1.4-1.5 แสนล้านบาท
ส่วนที่เหลืออีก 5 บริษัทราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมา Outperform ตลาดค่อนข้างมาก บวกกับมูลค่าซื้อขายที่เร่งตัวขึ้น ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นไทยปีนี้ที่เผชิญกลายปัจจัยลบ โดยเฉพาะประเด็นโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ กดดัน SET Index ลดลงเกือบ 20% จากต้นปี (Year to date)
*** จับตา 7 หุ้นมีโอกาสหลุด SET50/SET100
ทั้งนี้คาดว่าหุ้นที่มีโอกาสหลุดจากดัชนี SET50 และ SET100 ในช่วง H1/64 ประกอบด้วย
หุ้นที่มีโอกาสหลุดดัชนี SET50/SET100 ช่วง H1/64
|
ชื่อย่อหุ้น
|
มาร์เก็ตแคป ณ 9 ต.ค.63 (พันลบ.)
|
SET50
|
TCAP
|
33.79
|
BPP
|
39.97
|
WHA
|
42.45
|
IRPC
|
43.91
|
SET100
|
ERW
|
7.4
|
AAV
|
8.4
|
SIRI
|
8.9
|
*** หุ้นเด่น DCC-JMART
ทั้งนี้คาดว่าการชุมนุมทางการเมืองวันที่ 14 ต.ค.นี้ จะทำให้ SET Index อยู่ในภาวะ Wait & See เพื่อรอติดตามสถานการณ์และเฝ้าดูว่าการชุมนุมดังกล่าวจะมีผลต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการออกมาตรการเพื่อถึงเศรษฐกิจไทยออกจากภาวะถดถอย ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในภาวะปัจจุบัน โดยกลยุทธ์ให้เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการมีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งถือเป็นแรงส่งที่ดีในยามที่ตลาดฯ ขาด Fumd Flow หนุน ซึ่งฝ่ายวิจัยชื่นชอบ DCC และ JMART
DCC : มีกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เจาะกลุ่มตลาดซ่อมแซมบ้าน พร้อมสินค้ากระเบื้องแผ่นใหญ่ 60x120 ซม.ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้วยราคาที่ต่ำกว่ากระเบื้องนำเข้าถึง 40% ช่วยหนุนยอดขาย Q3/63 เติบโต ประเมินกำไรสุทธิที่ 387 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75%YoY ส่วนแนวโน้มกำไร Q4/63 จะยังแรงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง แนวโน้มกำไร 9 เดือนปี 63 คิดเป็นสัดส่วนถึง 84% ของกำไรทั้งปี มีโอกาสสูงที่จะปรับประมาณการกำไรปี 63-64 ขึ้นอีก ทั้งนี้ประเมินด้วยประมาณการเดิม จะได้ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 3.10 บาท มี Upside ถึง 29% และให้ Dividend Yield ระดับ 6.05% ต่อปี
JMART : เป็นบริษัทเดียวที่เน้นจำหน่ายสินค้าโทรศัพท์มือถือเป็นหลักและครอบคลุมทุกแบรนด์ บวกกับมีช่องทางขายในเครือที่หลากหลาย คือ ทั้งหน้าร้าน JMART, ลูกตู้ในพื้นที่เช่า IT Junction ของ J (ถือหุ้น 75%) และการขายตรงผ่านช่องทาง SINGER (ถือหุ้น 30%) การที่มีธุรกิจการเงินในเครือ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อสินค้ารุ่นใหม่มาใช้ก่อน ตามกระแสความนิยม ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบัน แม้ปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ซื้อขายกันที่ PER ปี 64 ราว 18 เท่า ต่ำกว่า COM7 ที่ซื้อขายระดับ 35 เท่า ยังมี Upside สูงกว่า 11% ถือเป็นโอกาสสะสม ราคาเป้าหมาย 18 บาท