ปัจจุบันครอบครัวทั่วโลกมีขนาดเล็กลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง รวมถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทำให้การตัดสินใจมีลูกต้องคิดแล้วคิดอีก หลายครอบครัวที่ยังไม่พร้อมจึงมองหาสุนัขและแมวมาเลี้ยงและยกสถานะเทียบเท่าเสมือนลูกคนหนึ่ง
ด้วยความรัก ความเอ็นดู ผู้คนจึงลงทุนซื้ออาหารที่มีคุณภาพให้สมาชิกใหม่ เพราะเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงจะมีสุขภาพที่ดีหากได้กินอาหารที่ดี และอุดมด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม
มิลเลเนียล ที่บทวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ระบุว่า มากกว่า 75% กลุ่มมิลเลเนียลมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง และ 65% มีแนวโน้มว่า จะเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า
บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ AAI
เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะแบบปิดผนึก โดยเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยและเป็นบริษัทหลักที่ทำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของกลุ่ม บมจ. เอเชียนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN ผู้ผลิตอาหารแช่เยือกแข็ง ทูน่า อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์น้ำ
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของ AAI ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกที่ AAI ผลิตให้กับเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) ทั้งตลาดสินค้าพรีเมี่ยม (High-end Market) กลุ่มลูกค้าในตลาดมวลชน (Mass Market) และกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก (Low-end Market) โดยผลิตภัณฑ์ของ AAI ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับสุนัขและแมว
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกหลากหลายรูปแบบ เช่น น้ำเกรวี่ เจลลี่ ฯลฯ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเจ้าของแบรนด์ระดับสากลที่มีการเติบโตดีทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตลาดเอเชีย และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงแบบเกรดพรีเมียม ได้แก่ แบรนด์มองชู (monchou) และแบรนด์มาเรีย (Maria) กลุ่ม Mass Market ได้แก่ แบรนด์มองชู บาลานซ์ (monchou balanced) และแบรนด์ฮาจิโกะ (Hajiko) และกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคา ได้แก่ แบรนด์โปร (Pro)
2. ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุกระป๋องหรือถุงเพาช์ ในน้ำปรุงรสและซอสปรุงรส รวมถึงอาหารปรุงสุกพร้อมทาน เช่น ข้าวผัด สปาเก็ตตี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ของ AAI ได้รับการรับรองอาหารตามมาตรฐานฮาลาล และมาตรฐานโคเชอร์ โดยมีประเทศในโซนตะวันออกกลาง เป็นตลาดหลักในการส่งออก
3. ผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า
ผลิตปลาป่น น้ำนึ่งปลา และน้ำมันปลา ซึ่งได้มาจากการนำหัว หาง ก้าง หนังที่เหลือจากการแปรรูปปลาทูน่ามาแปรรูปเพิ่มเติม และจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่น อาหารกุ้ง อาหารปลา อาหารปู ฯลฯ

บริษัทฯ มีโรงงานผลิต 2 แห่ง ได้แก่1. โรงงานตั้งอยู่ที่ จังหวัดสมุทรสาคร ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า โดยมีกำลังผลิตรวม 65,500 ตันต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)
2. โรงงาน MEISI ตั้งอยู่ที่ มณฑลซานตง ประเทศจีน ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด มีกำลังการผลิตรวม 20,000 ตันต่อปี โดยเป็นการดำเนินการผ่าน Shandong Thaiya Meisi Pet Food Co., Ltd ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าในกลุ่มบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศไทยอีกประมาณ 40,000 ตัน โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนในปี 2565 และเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2566
สำหรับรายได้ผลประกอบการของ AAI ในปี 2562 ทำรายได้อยู่ที่ 3,588 ล้านบาท ปี 2563 ทำรายได้อยู่ที่ 4,512 ล้านบาท ปี 2564 ทำรายได้ 4,985 ล้านบาท และ งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ทำรายได้ 2,415 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ทำรายได้ 3,464 ล้านบาท
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่แล้ว ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก ลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 และนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ AAI ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่ AAI จะสามารถขยายธุรกิจเพื่อรองรับดีมานด์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเสริมศักยภาพการแข่งขันโดยมุ่งพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เน้นลงทุนในเทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อนำมาใช้ในการผลิต อาทิ เครื่องจักรระบบแขนกล (Robotic Arm) เป็นต้น นับว่า AAI จะเป็นหุ้นอาหารสัตว์เลี้ยงที่พร้อมพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

หุ้น AAI จึงเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามอง โดยมีพื้นฐานรายได้ที่แข็งแกร่งรวมถึงการได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่ม มิลเลเนียลจึงเชื่อว่า AAI จะเป็นหุ้นที่พร้อมเติบโตไปกับคนที่รักสัตว์ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก…
Reference:
https://www.brandage.com/article/29294/Pet-Humanization-
แบบร่างแสดงหนังสือชี้ชวน หรือไฟลิ่ง จากสำนักงาน ก.ล.ต.