กรมสรรพากร ได้ออกคู่มือ "คำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล" ทั้งหมด 32 หน้า เพื่อเป็นคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการยื่นแบบฯ ประจำปี 2564
โดยผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ สำหรับคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัล หากมีกิจกรรมดังต่อไปนี้
1. การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัล
2. การขุดคริปโทเคอร์เรนซี
3. การได้รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง
4. การได้รับคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลจากการให้ หรือได้รับเป็นรางวัล
5. ได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครอง (โทเคนดิจิทัล / คริปโทเคอร์เรนซี)

1. การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยน
- วิธีเข้าก่อนออกก่อน The first-in first-out (FIFO) คือ การคำนวณต้นทุนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัล ที่ซื้อมาก่อนจะขายออกไปก่อนตามลำดับ จึงเป็นผลให้รายการที่เหลืออยู่ ณ วันสุดท้ายเป็นคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลที่ซื้อมาครั้งหลังสุด
- วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ The moving average cost คือ การคำนวณต้นทุนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัล แต่ละประเภทจะกำหนดจากการถัวเฉลี่ยต้นทุน ณ วันต้นปี กับต้นทุนที่ซื้อมาในระหว่างปีซึ่งคำนวณทุกครั้งที่ซื้อ
ตัวอย่างการคำนวณ (หน้าที่ 7) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล
- ผู้มีเงินได้สามารถเลือกวิธีคำนวณต้นทุนใดก็ได้เมื่อเลือกวิธีการคำนวณต้นทุนวิธีใดแล้วต้องใช้วิธีนั้นตลอดปีภาษี
- ต้นทุนให้รวมถึงค่าซื้อและค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมและค่าโอน เป็นต้น
- การวัดมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มา หรือราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้มา ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. เป็นต้น
- กรณีที่มีผลขาดทุนไม่ว่าจะเกิดจากคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลประเภทใด ๆ ที่เกิดขึ้นในปีเดียวกันสามารถนำมาหักกลบกับกำไรได้

2. การขุดคริปโทเคอร์เรนซี
- เมื่อขุดได้คริปโทเคอร์เรนซีมาแล้ว ยังไม่ขาย จะยังไม่ถือเป็นเงินได้พึงประเมิน
- เมื่อนำเหรียญที่ขุดได้ ไปจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยน ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 ( 8 ) โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามความจำเป็นและสมควร
- เลือกคำนวณต้นทุน วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO) หรือวิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average cost) ก็ได้
ตัวอย่างการคำนวณ (หน้าที่ 12) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล
- การวัดมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซี ทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มา หรือราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้มา ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ใต้กำกับ ก.ล.ต. เป็นต้น

3.ได้รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- พนักงานได้รับเงินเดือนเป็นคริปโทเคอร์เรนซีถือเป็นเงินได้ 40(1)
- ผู้รับจ้างได้รับค่าจ้างเป็นคริปโทเคอร์เรนซีถือเป็นเงินได้ 40(2)
- ถ้ารับจากนายจ้างเดียวกันทั้งเงินเดือน ทั้งค่าจ้าง ให้รวมแสดงเป็นเงินได้ประเภท 40(1)
- การวัดมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มา หรือ ราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้มา ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.
รายละเอียดเพิ่มเติม (หน้าที่ 16) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล

4. ได้รับคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลจากการให้ หรือได้รับเป็นรางวัล
- ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 ( 8 ) แห่งประมวลรัษฎากร
- ตัวอย่างเช่น ได้รับแจกเมื่อเข้าร่วมกิจกรรม หรือได้รับเป็นรางวัลส่งเสริมการขาย เป็นต้น
- การวัดมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัลทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มาหรือราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้มา ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.
รายละเอียดเพิ่มเติม (หน้าที่ 18) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล

5. ได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครอง
- ตัวอย่างเช่น Yield farming หรือ Staking เป็นต้น
- ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครอง "คริปโทเคอร์เรนซี" ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 ( 8 )
- เงินส่วนแบ่งกำไร หรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะเดียวกัน ที่ได้จากการถือ หรือครอบครอง "โทเคนดิจิทัล" ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ซ)
- การวัดมูลค่า ทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มา หรือราคาถัวเฉลี่ย
ในวันที่ได้มา ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติม (หน้าที่ 20) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล

6.หากฝ่าฝืน มีโทษหนัก!
ไม่ยื่นแบบภายในเวลากำหนด
- ปรับ 2,000 บาท
ไม่ชำระตามกำหนด
- ปรับเพิ่ม 1.5%/เดือน
ไม่ชำระ จนออกหมายเรียก
- ปรับเพิ่ม 1-2 เท่า
จงใจยื่นหลักฐานเท็จ เพื่อเลี่ยงภาษี
- จำคุก 3 เดือน - 7 ปี
- ปรับ 2,000 - 200,000 บาท
เจตนาไม่ยื่นแบบ เพื่อเลี่ยงภาษี
- ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ
- จำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
รายละเอียดเพิ่มเติม (หน้าที่ 31) คู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล
กราฟิก : พงศภัค รจนา